นายเฉลิมพล สืบแสงอินทร์ ผู้จัดการฝ่ายวิศวกรรมชีวการแพทย์ บริษัท อาร์เอฟเอส จำกัดหรือ RFS บริษัทในเครือมหาวิทยาลัยมหิดลซึ่งจัดตั้งและถือหุ้นโดยคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อดำเนินงานด้านการบริหารจัดการและอำนวยความสะดวกด้านต่างๆ ในโรงพยาบาล (Hospital Facilities Management) เปิดเผยว่า ปัจจุบันการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ในประเทศไทยมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยในปี 2557 มีการเติบโตเฉลี่ย 9% คิดเป็นมูลค่าตลาดรวมประมาณ 36,000 ล้านบาท และจะเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 40% ภายใน 4 ปีข้างหน้า (ข้อมูลจากเว็บไซต์เดลินิวส์ 11 มิ.ย.2557) โดยเป็นผลมาจากแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของประชากรผู้สูงวัย ประกอบกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการผลักดันไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการดูสุขภาพแห่งอาเซียน ทำให้ความต้องการบุคลากรที่ดูแลด้านเครื่องมือและวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์กลายเป็นสาขาอาชีพที่ต้องการของตลาดทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างมาก เนื่องจากปัจจุบันมีสถาบันการศึกษาที่เปิดสอนในสาขาดังกล่าวไม่ถึง 10 แห่ง แต่ละปีสามารถผลิตบุคลากรสู่ตลาดไม่เกิน 150 คนเท่านั้น โดยจากงานวิจัยของนายสุรินทร์ บำรุงผล เรื่องการคาดการณ์ประมาณกำลังคนและยุทธศาสตร์การพัฒนากำลังคนด้านการผลิตอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ยังพบว่า การคาดการณ์ประมาณกำลังคนด้านการผลิตอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ ในช่วงปี 2554 – 2559 มีความต้องการกำลังคนปีละ 11,770 – 16,261 คน
"ดังนั้น อาร์เอฟเอสในฐานะ Hospital Facilities Management นอกเหนือจากบทบาทการติดตั้งและดูแลรักษาเครื่องมือแพทย์ รวมถึงการอำนวยความสะดวกด้านต่างๆ ในโรงพยาบาลแล้ว การพัฒนาบุคลากรด้านเครื่องมือแพทย์ให้มีศักยภาพและสามารถแข่งขันได้กับนานาประเทศเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน โดยในปีที่ผ่านมาอาร์เอฟเอสได้ลงนามความร่วมมือทางวิชาการกับสถาบันอีซีอาร์ไอ (ECRI Institute) ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรจากประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมนำร่องจัดโครงการอบรมเครื่องมือแพทย์ (Biomedical Engineering Competency Training : BECT®) 3 หลักสูตรในครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ปรากฎว่าได้รับการตอบรับและประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยมีผู้เข้าอบรมและได้ใบประกาศนียบัตรจำนวนกว่า 50 คน ซึ่งที่มาของความสำเร็จดังกล่าวเกิดจากจุดเด่นของหลักสูตรที่ตอบโจทย์ความต้องการของอุตสาหกรรมโดยเป็นหลักสูตรพื้นฐานที่ทุกโรงพยาบาลต้องใช้ และผ่านการคิดค้นและพัฒนาจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลกมากว่า 10 ปี รวมถึงมีการนำไปฝึกอบรมในหลายประเทศในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกไม่น้อยกว่า 500 รายอาทิ มาเลเซีย, ฮ่องกง, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย และไต้หวัน"
จากความสำเร็จดังกล่าว อาร์เอฟเอสจึงเดินหน้าสานต่อโครงการอบรมเครื่องมือแพทย์ต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง (Biomedical Engineering Competency Training : BECT®) โดยล่าสุดประกาศผนึกกำลังกับสถาบันอีซีอาร์ไอ (ECRI Institute) เตรียมจัดอบรมอีก 3 หลักสูตร ประกอบด้วย ME3 ด้านการตรวจสอบและเฝ้าระวัง, ME4 ด้านเครื่องทดสอบช่วยหายใจ และ ME5 ด้านเครื่องดมยาสลบ โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถในการใช้งานอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ได้อย่างถูกต้องปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ ตลอดจนสามารถดูแล บำรุง รักษาได้อย่างถูกต้อง พร้อมทั้งสร้างอาชีพป้อนเข้าสู่ตลาดเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ของไทย และมีความพร้อมในการแข่งขันในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยยังคงเน้นเจาะกลุ่มบุคลากรเครื่องมือแพทย์ในโรงพยาบาลต่างๆ และนักศึกษาด้านวิศวกรรมชีวการแพทย์ที่ต้องการเพิ่มศักยภาพให้ตนเอง
"การจัดอบรมเครื่องมือแพทย์ในครั้งนี้ ผู้เข้าอบรมจะได้เรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญแบบครบทุกกระบวนการของอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยยกระดับทักษะฝีมือให้มีมาตรฐานซึ่งทำให้เกิดความเชื่อมั่นกับทีมแพทย์และผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยิ่งขึ้น และถือเป็นมาตรฐานที่รองรับโดยสถาบันอีซีอาร์ไอ (ECRI Institute) เป็นรายแรกในประเทศไทย โดยตั้งเป้าในครึ่งปีหลังจะสามารถผลิตบุคลากรให้กับอุตสาหกรรมได้เพิ่มอีกกว่า 60 ราย และมีแผนจะรุกจัดสัมมนาให้ความรู้ด้านวัสดุและอุปกรณ์ทางการแพทย์เพิ่มขึ้นด้วย"
สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่สนใจพัฒนาทักษะและขีดความสามารถด้านเครื่องมือแพทย์ สามารถติดต่อเข้าร่วมโครงการได้ที่ บริษัท อาร์เอฟเอส จำกัดโทร. 02-688-6508 หรือ www.rfs.co.th