ก.พลังงาน แย้มข่าวดี เชื่อสถานการณ์ราคาน้ำมันไตรมาสสุดท้ายปี 58 มีโอกาสปรับราคาขึ้นสูงได้ยาก

อังคาร ๑๕ กันยายน ๒๐๑๕ ๑๕:๔๒
ก.พลังงาน แย้มข่าวดี เชื่อสถานการณ์ราคาน้ำมันไตรมาสสุดท้ายปี 58 มีโอกาสปรับราคาขึ้นสูงได้ยาก ชี้ปัจจัยราคาน้ำมันดิบมีทิศทางทรงตัวและอาจปรับตัวลดลง จากอุปทานล้นตลาด และกลุ่มโอเปคยังยืนยันไม่ลดกำลังผลิต ย้ำติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดและขอคนไทยช่วยประหยัดพลังงานต่อเนื่อง

นายชวลิต พิชาลัย รองปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์และทิศทางราคาน้ำมันของกระทรวงพลังงาน พบว่า ในปัจจุบันและไปจนถึงช่วงไตรมาสสุดท้ายปี 2558 นี้ ราคาน้ำมันน่าจะอยู่ในระดับทรงตัว และมีความเป็นไปได้น้อยที่ราคาน้ำมันจะปรับขึ้นสูง โดยราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศคาดว่าจะอยู่ในระดับปัจจุบัน และอาจยังมีโอกาสปรับตัวลดลง ทั้งในกลุ่มราคาน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล์ และน้ำมันดีเซลซึ่งถือเป็นเชื้อเพลิงสำคัญในภาคขนส่งและต่อภาคอุตสาหกรรม โดยน่าจะส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการจะกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ราคาน้ำมันน่าจะไม่มีราคาสูงมากนัก มาจากสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลก ที่มีผลกระทบต่อราคาขายปลีกในประเทศไทย โดยราคาน้ำมันดิบโดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบดูไบปรับตัวลดลงต่อเนื่อง จากอุปทานน้ำมันที่ล้นตลาด การผลิตเชลล์แก๊ส (Shell Gas) ของสหรัฐอเมริกาและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่เป็นไปอย่างเชื่องช้า ประเมินว่าราคาจะลดลงจากประมาณ 50 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ในช่วงสัปดาห์ก่อนเป็น 45 เหรียญฯ ในสัปดาห์นี้ และคาดว่าจะลดลงไปถึง 40 เหรียญฯ ในช่วงสัปดาห์ต่อไป

นอกจากนี้ ปัจจัยสำคัญคือความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลกหรือโอเปค ที่มีทีท่าว่ายังไม่ประกาศลดกำลังการผลิต จึงยังทำให้ราคาน้ำมันอยู่ในทิศทางขาลง รวมไปถึงผลจากการผลิตเชลล์แก๊สขึ้นมาใช้เองแทนการนำเข้าน้ำมันของสหรัฐฯ ประกอบกับสถานการณ์ในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยเฉพาะความคลี่คลายปัญหานิวเคลียร์ในประเทศอิหร่าน และทำให้อิหร่านส่งออกน้ำมันได้มากขึ้น จึงเป็นปัจจัยสำคัญซึ่งทำให้อุปทานน้ำมันล้นตลาดและส่งผลให้ราคาน้ำมันมีแนวโน้มลดลง

"กระทรวงพลังงานจะได้ติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกอย่างใกล้ชิด โดยการปรับลดราคาน้ำมันขายปลีกของไทย ทั้งในกลุ่มเบนซิน แก๊สโซฮอล์ทุกชนิด และกลุ่มดีเซล กระทรวงพลังงานขอยืนยันว่า ได้ปรับลดลงสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำมันในตลาดโลกอย่างทันท่วงที โดยในช่วงที่ผ่านมาจากราคาเฉลี่ยในตลาดโลกที่มีการปรับตัวลดลงซึ่งเมื่อเทียบกับการคำนวนราคาขายปลีกในประเทศได้สะท้อนการปรับตัวลดลงของตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง" นายชวลิตกล่าว

นายชวลิต กล่าวเพิ่มว่า แม้ทิศทางของสถานการณ์ราคาน้ำมันจะอยู่ในช่วงขาลง แต่กระทรวงพลังงานก็ต้องการความร่วมมือจากประชาชนในการประหยัดพลังงาน โดยเฉพาะมาตรการที่ทำได้ง่าย ๆ สำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ที่จะช่วยลดการใช้น้ำมัน เช่น การเติมลมยางให้อยู่ในระดับพอดีไม่ให้อ่อนและแข็งเกินไป การขับรถไม่เกิน 90 กม.ต่อชั่วโมง การไม่บรรทุกสิ่งของมากเกินความจำเป็น และการตรวจเช็คเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมออย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง ก็จะช่วยให้เกิดการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพ และจะช่วยให้ประเทศประหยัดเงินได้มากยิ่งขึ้นด้วย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ