anitech ลุยAECมั่นใจก้าวเป็นเบอร์หนึ่งภายใน3ปี พร้อมประกาศรับประกันสินค้าทั่วเอเชียเป็นรายแรก

พฤหัส ๑๗ กันยายน ๒๐๑๕ ๑๗:๓๐
สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป ลุยตลาด AEC เต็มสูบ ขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าแบรนด์ไทยมาตรฐานญี่ปุ่น "anitech" และ"nobi" ลงตลาดเมียนมาร์ ลาว เวียดนาม และกัมพูชา คาดครอบคลุม 10 ประเทศภายใน 3 ปี ก่อนบุกเจาะตลาดจีนและเอเชีย ตั้งเป้า 5 ปี แบรนด์ไทยคลุมตลาดเอเชีย ชูจุดแข็งประกาศรับประกันสินค้าทั่วเอเซีย ด้วยวงเงินคุ้มครองสูงสุดถึง 300,000 บาท มั่นใจดีไซน์โดนใจ นวัตกรรมและความหลากหลายของสินค้าตอบโจทย์ลูกค้าทุกเพศและวัย

นายพิชเยนทร์ หงษ์ภักดี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป จำกัด ผู้นำสินค้านวัตกรรมไลฟ์สไตล์ทันสมัยสำหรับคนรุ่นใหม่ ภายใต้เครื่องหมายการค้าของตัวเองแอนิเทค(anitech), โนบิ(nobi), โมโนเวทีฟ(monovativ) และเพนทากอนซ์(Pentagonz) เปิดเผยว่า ปัจจุบันสินค้า IT ในประเทศกลุ่มอาเซียน และเอเชีย ถือว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง มีโอกาสเติบโตอีกมาก รวมถึงหลายประเทศยังมีความต้องการด้าน IT เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์ มือถือ และกลุ่มสินค้าปลั๊กไฟที่ถือเป็นกลุ่มสินค้าคอนซูเมอร์ไลฟ์สไตล์ (Consumer Lifestyle) ที่จำเป็นในชีวิตประจำวันจากไลฟ์สไตล์ที่ปรับเปลี่ยน โดยสินค้าเหล่านี้ยังไม่มีผู้นำตลาดที่แท้จริงจากความหลากหลายของสินค้า จึงนับเป็นโอกาสที่ดีของบริษัทที่จะเข้าไปเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า

โดยที่ผ่านมาบริษัทได้เพิ่มจำนวนสินค้าและประเภทสินค้าแบรนด์ "แอนิแทค (anitech)" เข้าไปยังกลุ่มประเทศ AEC มากขึ้น ทั้งในเมียนมาร์ สปป.ลาว และเวียดนาม จากที่วางสินค้าจำหน่ายก่อนหน้านี้ และได้รับความนิยมจากผู้ใช้จำนวนมาก ด้วยรูปแบบและการดีไซน์ที่ทันสมัย ฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน ทำให้แบรนด์ "แอนิแทค (anitech)" มีส่วนแบ่งทางการตลาดแต่ละประเทศมากขึ้น ซึ่งจะขยายครอบคลุมทั้ง 10 ประเทศในกลุ่ม AEC ในปี 2561 และตั้งเป้าเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายยังประเทศจีนที่มีมูลค่าตลาดสูงมาก และขยายไปยังประเทศอื่นๆ ในเอเชียให้ครอบคลุม ภายในปี 2563

บริษัทได้ทำการขยายการผลิตในเมืองไทยเพื่อให้สอดคล้องกับการขยายตลาดใน AEC โดยทางบริษัทได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ซึ่งช่วยให้สามารถควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพได้เป็นอย่างดี ขณะที่มีการลงทุนในส่วน R&D LAB จะสามารถเพิ่มจำนวนสินค้าหมวดใหม่จาก 500 เป็น 2,000 รายการ และยังทำให้การออกแบบสินค้าใหม่ดูโดดเด่นกว่าสินค้าของแบรนด์อื่นๆ ทั้งการเพิ่มมูลค่าให้สินค้า และกระตุ้นความต้องการซื้อ ตลอดจนมีการตรวจสอบคุณภาพสินค้าที่เข้มงวดก่อนออกจำหน่าย ซึ่งทั้งหมดเป็นกลยุทธ์การแข่งขันด้านดีไซน์และคุณภาพสินค้าที่จะช่วยให้แบรนด์สินค้ามีความยั่งยืนมากกว่าการแข่งขันทางด้านราคาเพียงอย่างเดียว

นอกจากนี้ ยังอยู่ในระหว่างการลงทุนระบบการจัดการภายในขององค์กร(ERP) และปรับปรุงระบบ Supply Chain ใหม่เพื่อการพัฒนาให้เป็นธุรกิจขนาดใหญ่จากที่อยู่ในระดับ SME และสร้างแบรนด์ให้แข็งแรง ส่งมอบได้เร็วขึ้น และทันต่อการเปลี่ยนแปลงตามความต้องการของผู้บริโภค

"บริษัทเชื่อมั่นว่าจะก้าวสู่ความเป็นผู้นำด้าน Consumer Electronic ในประเทศเมียนมาร์ได้ในอนาคต จากช่วง 3 ปีที่ผ่านมา การจำหน่ายสินค้าในเมียนมาร์ถือว่าประสบความสำเร็จ เนื่องจากประเทศกำลังพัฒนาและสู่ยุค IT มากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการสินค้ามีมาก จนบริษัทมีการเติบโตของยอดขายกว่า 200% มีส่วนแบ่งเป็น Top 2 ของกลุ่มประเทศสินค้าเดียวกัน จากมูลค่าตลาดโดยรวมของสินค้าคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ค และคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะอยู่ที่ 55,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 2,000 ล้านบาท กลุ่มสินค้าที่เกี่ยวข้อง และกลุ่มสินค้าชิ้นส่วนหรือส่วนประกอบอยู่ที่ 8,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 300 ล้านบาท "นายพิชเยนทร์ กล่าว

สำหรับบริการหลังการขายบริษัทให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เช่นเดียวกับการรับประกันสินค้า โดยแบรนด์"แอนิแทค (anitech)" สร้างความเชื่อมั่นด้วยการคุ้มครองผู้ใช้งานสินค้าจากการบาดเจ็บ และความเสียหายต่อทรัพย์สินที่อาจเกิดขึ้น (Products Liability Insurance) ด้วยการตั้งวงเงินคุ้มครองด้านความปลอดภัยในการรับประกันสินค้าสูงสุดถึง 300,000 บาท ซึ่งเป็นการสร้างจุดขายและมาตรฐานใหม่ให้กับสินค้าในอุตสาหกรรมเดียวกัน และถือเป็นแบรนด์แรกในกลุ่มสินค้านี้ ซึ่งการรับประกันสินค้าครอบคลุมถึงการซื้อสินค้าและนำไปใช้ในต่างประเทศ กลุ่มผู้ใช้ที่ชื่นชอบเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น จีน เกาหลี และประเทศอื่นๆ ทวีปเอเชีย

ทั้งนี้ ปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 170 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ในประเทศ 95% และต่างประเทศ 5% คาดรายได้รวมทั้งปีอยู่ที่ 190 ล้านบาท หากในอนาคตบริษัทมีการจำหน่ายสินค้าไปในกลุ่มประเทศ AEC และจีนเพิ่มน่าจะส่งผลให้สัดส่วนรายได้ปรับเปลี่ยนไป โดยบริษัทตั้งเป้าหมายในปี 2016 เพิ่มสัดส่วนรายได้ต่างประเทศเพิ่มเป็น 20% ในประเทศอยู่ที่ 80% ในปี 2018 เพิ่มเป็นสัดส่วน 50% เท่ากัน และในปี 2020 เพิ่มสัดส่วนรายได้ต่างประเทศเพิ่มเป็น 20% ในประเทศอยู่ที่ 80%

ด้านนางสาวอัญชลี พรมอ่วม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป จำกัด กล่าวถึงการจัดจำหน่ายสินค้าในแต่ละประเทศว่า บริษัทจะแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายเพื่อกระจายสินค้าไปยังช่องทางการขาย ทั้งกลุ่ม Modern Trade ยกตัวอย่าง เช่น ประเทศเมียนมาร์ได้แต่งตั้งห้างในเครือของ Citimart จำหน่ายในห้าง Citimart และ Ocean ซึ่งห้างดังกล่าวอยู่ระหว่างการขยายสาขาเพิ่มทั้งในย่างกุ้ง และหัวเมืองอื่นๆ และช่องทาง Traditional Trade เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สินค้าแบรนด์ anitech และnobi เข้าไปยึดพื้นที่ขายของหน้าร้านได้เป็น Top 2 ของประเทศเมียนม่าร์ เป็นต้น

ขณะเดียวกัน บริษัทยังจำหน่ายผ่านตัวแทน โดยสนับสนุนการตลาดผ่าน Smart ID Group ที่มีนโยบายที่ชัดเจนในการทำงานร่วมกับคู่ค้าในแต่ละประเทศโดยมีเป้าหมายร่วมกันในแต่ละปี และดูแลทุกไตรมาสด้วยการส่งทีมเข้าไปประจำอยู่ในประเทศนั้นๆ เพื่อประสานการทำงานกับคู่ค้าทั้งด้านการขายและการตลาดควบคู่กันเพื่อความมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งอาศัยกลยุทธ์หลัก ได้แก่ การส่งเสริมแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักด้วยการศึกษาพฤติกรรมการบริโภคข่าวสาร หรือการรับรู้ของประชาชนในประเทศนั้นๆ เพื่อทำการตลาดอย่างเข้าถึงมากที่สุด ตลอดจนการจัดทำกิจกรรมทางการตลาดหรือRoadshow สินค้าร่วมกับคู่ค้าในแต่ละประเทศ เพื่อให้ได้เห็นสินค้าจริงที่หลากหลาย พร้อมโปรโมชั่นที่จูงใจ

อย่างไรก็ตาม เพื่อกระตุ้นและจูงใจให้พื้นที่การขายมากขึ้น บริษัทได้จัดทำโปรแกรมการตลาดกับคู่ค้า(Trade Promotion) กับหน้าร้านค้าปลีก รวมถึงการทำแคมเปญสร้างความเชื่อมั่นกับคุณภาพสินค้าซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญ เนื่องจากตลาดต่างประเทศจะให้เครดิตสินค้าจากประเทศไทยค่อนข้างมาก ดังนั้นการที่ได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้สินค้า หรือตัวแทนจำหน่ายได้รับรู้ถึงนโยบายการคุ้มครองผู้ใช้งานสินค้าและความเสียหายต่อทรัพย์สิน การรับประกันสินค้าที่ผู้ใช้สินค้าสามารถเปลี่ยนสินค้าได้ตลอดอายุของการรับประกันของสินค้านั้นๆเมื่อเกิดปัญหา รวมทั้งการรับประกันความเสียหายต่อทรัพย์สินทั่วเอเชียจะช่วยผลักดันให้สินค้าได้รับความนิยม เพราะลูกค้ามีความมั่นใจที่จะใช้สินค้าของบริษัทมากยิ่งขึ้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version