คุณพิมพ์ผกา เล่าว่า "โครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" จัดขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมายุครบ 88 พรรษา ในปี 2558 ด้วยการมอบความอุดมสมบูรณ์ให้ผืนป่า เสริมสร้างการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ให้ชาวบ้านในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียง ได้ร่วมดูแลรักษาผืนป่า มีความเป็นเจ้าของ รักและหวงแหนในทรัพยากรป่าไม้ รวมทั้งรับทราบถึงประโยชน์ที่จะได้จากป่า อันจะส่งผลด้านคุณภาพชีวิตที่ดีและยั่งยืนให้แก่ชาวบ้าน และป้องกันการบุกรุกและครอบครองพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติจากชาวบ้าน ซึ่งกิจกรรมปลูกป่าครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งในโครงการ "ฟิวเจอร์พาร์ค จิตสำนึกสีเขียว" ที่แสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ด้วยการรณรงค์ให้พนักงาน ผู้ประกอบการร้านค้าในศูนย์การค้าฯ และประชาชนทั่วไป มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ปฏิบัติต่อเนื่องมาตลอดระยะเวลา 20 ปี
สำหรับการปลูกต้นไม้ครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจาก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา ในการจัดหาพื้นที่ปลูก ณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา อำเภอลำสนธิ จังหวัดลพบุรี ซึ่งเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา เป็นป่าต้นน้ำลำธารของลำสนธิ ไหลลงสู่แม่น้ำป่าสัก และเป็นป่าผืนสุดท้ายของจังหวัดลพบุรี ที่มีสภาพป่าค่อนข้างสมบูรณ์ หากแต่บางส่วนยังเสื่อมโทรมจากการที่เคยมีประชาชนบุกรุกทำกินและอยู่อาศัยมาก่อน นอกจากนี้ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกายังเป็นพื้นที่อยู่อาศัยอย่างปลอดภัยของสัตว์ป่าชนิดต่างๆ ทั้งที่อยู่มาดั้งเดิม เช่น เลียงผา เก้ง ชะมด อีเห็น เป็นต้น นอกจากนี้พื้นที่ป่าแห่งนี้ ยังเป็นผืนป่าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ทำข้อตกลงกับมูลนิธิคืนช้างสู่ธรรมชาติปล่อยช้างคืนสู่ป่า ณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มาตั้งแต่ ปี 2547
ซึ่งใครั้งนี้ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค ได้สร้างโป่งเทียมไว้เป็นแหล่งอาหารของสัตว์ พร้อมปลูกป่าบนพื้นที่ จำนวน 100 ไร่ โดยใช้พันธุ์ไม้ยืนต้น ที่เติบโตและเหมาะสมกับสภาพป่า จำนวน 7 ชนิด ได้แก่ อินทนิล, หวายป่า, ไผ่รวก, หว้า, ประดู่ป่า, มะค่าโมง, พะยูงรวมจำนวน 100,000 ต้น และตั้งแต่ปี 2544 จนถึงปัจจุบันศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค ได้ดำเนินการปลูกป่ารวมทั้งสิ้นจำนวน 1,838 ไร่ (347,600 ต้น) ช่วยเพิ่มออกซิเจนให้โลกได้ถึง 13,324 ตัน