นายเกรียงไกร ทำนุทัศน์ นักวิเคราะห์กลยุทธ์อาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) (AECS) เปิดเผยว่า แนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้มีโอกาสผันผวนในกรอบ 1,370-1,415 จุด โดยประเด็นที่เป็นความเสี่ยงจากต่างประเทศจะยังมาจากความกังวลเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของประเทศจีนที่มีโอกาสขยายตัวต่ำกว่า 6% ในปี 2559 อย่างไรก็ตาม มองว่าตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสที่จะฟื้นตัวได้ในช่วงกลางสัปดาห์ จากความคาดหวังเรื่องนโยบายเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้ดัชนีมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบเหนือ 1,400 จุด ได้
ขณะที่กลยุทธ์การลงทุน หุ้นที่ปรับตัวลงมาแรง ซื้อขายด้วย Valuation ไม่สูง มีอัตราการจ่ายปันผลดี (แต่อาจต้องยอมรับความเสี่ยงเรื่องการปรับลดผลการดำเนินงานในระยะกลาง) ได้แก่ กลุ่มที่อยู่อาศัย ได้แก่ LPN, SPALI, PS, LH กลุ่มโรงกลั่น ได้แก่ TOP, BCP (ค่าการกลั่นติดลบ แต่ราคาสะท้อนในปัจจัยพื้นฐาน) และ IRPC เป็น Top Pick ในกลุ่มโรงกลั่น กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ได้แก่ TMB หุ้นที่มีปัจจัยเรื่องการประมูลรองรับ ได้แก่ TPCH (รอสรุปประมูลโรงไฟฟ้า 50 MW), มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในกลุ่มที่อยู่อาศัย, กระตุ้นการบริโภค (HMPRO, GLOBAL) และการเร่งเบิกจ่ายการลงทุนภาครัฐฯ (STEC, PYLON)
สำหรับนักลงทุนระยะกลาง หาจังหวะซื้อ บริษัท KAMART, FORTH, PYLON, TPIPL, IRPC, NYT เมื่อตลาดมีการปรับฐาน
ส่วนกลยุทธ์หุ้น 5 ตัวประจำสัปดาห์ TTA ([email protected], [email protected]), TPIPL ([email protected], [email protected]), TPCH ([email protected], TP@25) และถือ PYLON ([email protected], TP@15), KAMART ([email protected], TP@8) ต่อจากสัปดาห์ก่อนหน้า ขณะที่หุ้นที่เรารอซื้อกลับ FORTH, TRUE, STEC, KTC
"เราประเมิน SET อยู่ในกรอบ Trading เป็นสัปดาห์ที่ 3 นับตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน SET ให้ผลตอบแทนเพียง 0.6% โดยเป็นการแกว่งตัวในกรอบระหว่าง 1,355-1,433 จุด ในภาวะที่ตลาดหุ้น Sideway กลยุทธ์การลงทุนยังต้องเป็นลักษณะขึ้นสูงขาย ลงมาซื้อ" นายเกรียงไกรกล่าวในที่สุด