ศ.นพ. สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกสมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า "สมาคมฯ ให้ความสำคัญด้านการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโรต้าในเด็กมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราต้องการกระจายความช่วยเหลือไปยังเด็กด้อยโอกาสที่เข้าถึงการรับวัคซีนได้ยาก เพราะเราตระหนักดีว่าอนาคตของเด็กเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ถ้าเด็กมีสุขภาพแข็งแรงก็จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ เราจึงมองว่าเป็นเรื่องจำเป็นที่รัฐบาลไทยควรเห็นถึงความสำคัญของการป้องกันโรค ขณะที่ประเทศอื่น ๆ ต่างให้ความสำคัญและให้งบประมาณมากมายในการป้องกันไม่ให้ประชาชนเป็นโรค เช่น ประเทศในแถบยุโรปและอเมริกาให้ความสำคัญอย่างมากกับการป้องกันโรคอุจจาระร่วงซึ่งมีสาเหตุจากเชื้อไวรัสโรต้า ทั้ง ๆ ที่มีระบบสุขอนามัยที่ดีอยู่แล้ว"
รศ.นพ.ชิษณุ พันธุ์เจริญ อาจารย์และวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า โครงการ "ร้อยโอกาส ร้อยการมอบให้ ส่งความห่วงใย ต้านภัยไวรัสโรต้า" เป็นโครงการที่ตอบโจทย์ปัญหาของเด็กไทยได้เป็นอย่างดี เพราะโรคอุจจาระร่วงในเด็กโดยมีสาเหตุจากเชื้อไวรัสโรต้าเป็นโรคที่พบบ่อย จึงเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้ รัฐบาลควรพิจารณาบรรจุให้เป็นวัคซีนที่รัฐบริการให้เด็กทุกคน เนื่องจากเรามีข้อมูลชัดเจนว่าการติดเชื้อไวรัสโรต้าเป็นปัญหาสำคัญของเด็กไทยจำนวนมาก"
สำหรับเชื้อไวรัสโรต้าพบบ่อยที่สุดในเด็กอายุ 5 ขวบปีแรก โดยเด็กจะมีอาการไข้ อาเจียน ถ่ายเป็นน้ำ อาการหนักอาจถึงขั้นขาดน้ำ ต้องนอนให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาล 3 – 7 วัน วิธีการป้องกันที่ดีที่สุดคือให้เด็กได้กินนมแม่ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโรค และอีกวิธีที่ช่วยป้องกันและช่วยลดความรุนแรงของโรคได้ คือการหยอดวัคซีน
โรคอุจจาระร่วงเนื่องจากเชื้อไวรัสโรต้าเป็นโรคที่ป้องกันได้และแพทย์แนะนำให้ป้องกัน เพื่อสุขภาพของเด็กเล็ก และการป้องกันโรคถูกกว่าค่ารักษาพยาบาล