สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ร่วมมือกับ 4 กูรูเศรษฐกิจ แนะทางรอดอุตสาหกรรมในอนาคต

อังคาร ๒๙ กันยายน ๒๐๑๕ ๑๑:๓๖
สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ร่วมกับวิทยากรเศรษฐกิจชั้นนำของประเทศ จัดการประชุมวิชาการ OIE Forum ประจำปี 2558 ในวันที่ 24 กันยายน 2558 ณ อาคารอิมแพ็คฟอรั่ม อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยนางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนายอาทิตย์ วุฒิคะโร ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานและเข้าร่วมงานในครั้งนี้

นางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหม่ นั่นคือ "การเปลี่ยนแปลงพลวัตโลก (Mega Trend)" ซึ่งถือเป็นบริบทการเปลี่ยนแปลงที่มีความเชื่อมโยงกับหลายภาคส่วน โดยมีประเด็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ 5 ประเด็น

ประเด็นที่ 1 โครงสร้างประชากรโลก โดยในอีก 35 ปีข้างหน้า สัดส่วนประชากรที่มีอายุมากกว่า 60 ปี จะเพิ่มขึ้นกว่า 1 เท่าจากปัจจุบัน

ประเด็นที่ 2 การเติบโตของสังคมเมือง ส่งผลให้ประชากรย้ายถิ่นฐานเพื่อแสวงหาอาชีพในเมือง มากขึ้น ดังนั้นในหลายๆ ประเทศรวมทั้งประเทศไทยจึงเร่งดำเนินนโยบายพัฒนาสังคมชนบท โดยมุ่งเน้นการกระจายรายได้และลดความเหลื่อมล้ำ

ประเด็นที่ 3 การเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศและความต้องการใช้ทรัพยากรที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดภัยพิบัติและความขาดแคลนทรัพยากร โดยการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่อดีตแต่กลับเห็นผลอย่างชัดเจนในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินไหว คลื่นยักษ์สึนามิ ภัยแล้ง ทำให้ผู้คนเริ่มตระหนักถึงภัยพิบัติจากธรรมชาติ ที่กระทบต่อระบบเศรษฐกิจมากขึ้น

ประเด็นที่ 4 ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น Digital Economy, Bio และ Nano Technology

และประเด็นสุดท้าย เกิดขึ้นจากสถานการณ์ความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศสำคัญๆ เปลี่ยนไป จึงทำให้ขั้วอำนาจทางเศรษฐกิจเริ่มเคลื่อนย้ายจากเดิมที่เศรษฐกิจโลกถูกขับเคลื่อนโดยกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วอาทิ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เยอรมัน แต่ในปัจจุบันขั้วอำนาจของเศรษฐกิจโลกกำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่ประเทศตลาดเกิดใหม่อย่างจีน อินเดีย บราซิล และกลุ่มประเทศอาเซียนซึ่งเศรษฐกิจกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายภายใต้บริบทใหม่หรือกระแสพลวัตโลกดังกล่าวนี้ รัฐบาลจึงได้จัดทำยุทธศาสตร์เพื่อการปฏิรูปประเทศไทย หรือโมเดลประเทศไทย 4.0 โดยในภาคอุตสาหกรรมเองต้องมีการพัฒนาและยกระดับกลุ่มอุตสาหกรรมเดิมของประเทศที่มีความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบ มุ่งสู่การปรับเปลี่ยนจากอุตสาหกรรมเพิ่มมูลค่า (Value Added Industries) ไปสู่อุตสาหกรรมสร้างมูลค่า (Value Creation Industries) โดยการนำองค์ความรู้ใหม่ๆ รวมกับเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพมาเป็นส่วนในการปรับ

โครงสร้างอุตสาหกรรม ภายใต้รากฐานของอุตสาหกรรมเดิมนั้นกระทรวงอุตสาหกรรมต้องมีการดำเนินงานใน 3 ส่วน คือ ต่อยอด เสริมสร้าง และซ่อมแซม

"ต่อยอด" โดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมูลค่าเพิ่มสูงและสามารถตอบสนองต่อความต้องการในกระแสโลก อีกทั้งยังเป็นการรองรับโครงสร้างประชากรโลกที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) สำหรับการต่อยอดอุตสาหกรรมนั้นจะต้องอาศัยการลงทุนและส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา เพิ่มมากขึ้น

"เสริมสร้าง" โดยการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รวมทั้งผู้ประกอบการ OTOP ที่มีอยู่แล้วให้มีความเข้มแข็ง และยังต้องสร้างผู้ประกอบการรายใหม่ที่มีคุณภาพในภูมิภาคต่างๆ สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจซึ่งเป็นแนวนโยบายมุ่งเน้นการกระจายรายได้และลดความเหลื่อมล้ำ

"ซ่อมแซม" จากรากฐานอุตสาหกรรมเดิมซึ่งมีความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบนั้น หากมีการนำ องค์ความรู้และเทคโนโลยีเข้าไปประยุกต์ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มผลิตภาพการผลิต (Productivity) การสร้างอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) การพัฒนาปัจจัยแวดล้อมเพื่อสนับสนุนภาคการผลิต (Enabling Factor) และการเชื่อมโยงเครือข่ายการผลิตการค้าและการลงทุน (Connectivity) จะทำให้อุตสาหกรรมดั้งเดิมของประเทศไทยยังคงสามารถรักษาฐานการผลิตได้

ทั้งนี้ การขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของกระแสพลวัตรโลกในอนาคตจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอาศัยการบูรณาการร่วมกันอย่างเป็นระบบของทุกภาคส่วน ภายใต้ยุทธศาสตร์เพื่อการปฏิรูปประเทศไทยในการขับเคลื่อนประเทศก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลาง (Middle Income Trap) ไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูง

การประชุมครั้งนี้ ประกอบด้วยการบรรยาย และการเสวนาด้านเศรษฐกิจจากวิทยากรผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับประเทศ อย่างนายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม นายเจน นำชัยศิริ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) และนายอโณทัย เวทยากร กรรมการผู้จัดการประจำภาคพื้นอินโดจีน บริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมเสวนาในหัวข้อ "ทิศทางอุตสาหกรรมไทยกับความท้าทายในอนาคต"

โดยได้รับเกียรติจาก ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน เป็นผู้ดำเนินรายการตลอดการประชุม นอกจากนี้ยังมีการเสวนาย่อยตามสาขาอุตสาหกรรมถึง 3 เวที ที่บอกเล่ารายละเอียดที่มา และความสำคัญในหัวข้อที่การพัฒนาอุตสาหกรรมน่าสนใจ ดังนี้ (1) อุตสาหกรรมแปรรูปเกษตร (Agrobase Industry) (2) อุตสาหกรรมวิศวการ (Engineering Industry) (3) อุตสาหกรรมสนับสนุนและอุตสาหกรรมบริการ (Supporting Industry and Industrial Service) รวมถึงทิศทางการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยในอนาคต เพื่อรับมือกับความผันผวนจากกระแสโลกและการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมในภูมิภาค นำพาประเทศหลุดพ้นกับดักรายได้ปานกลาง และที่สำคัญคือ การเติบโตอย่างสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยมีผู้ให้ความสนใจจากทุกภาคส่วนเข้าร่วมงานกว่า 800 คน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version