กรุงเทพฯ--11 ก.พ.--กู๊ด เน็ตเวิร์ค
นายแพทย์ ชิตพล เศรษฐบุตร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง เป็นวิทยากรปัญหาเส้นผมและ หนังศีรษะ ในงานเสวนาเรื่อง “อย่ายอมแพ้...เรื่องผมร่วง” จัดโดย บริษัท สมาพันธ์เทรดดิ้ง จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพเส้นผม Zepharan ในประเทศไทย เพื่อส่งเสริมความก้าวหน้าในการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์
ในการแก้ปัญหาผมร่วงและศีรษะล้านของคนไทยในด้านวิชาการให้กับเภสัชกร นักวิชาการ และประชาชนที่มีปัญหาด้านเส้นผมและหนังศีรษะทั่วไปที่สนใจได้รับฟังฟรี เมื่อเร็วๆนี้
นักวิชาการด้านเส้นผมและหนังศีรษะ มักจะเรียกภาวะที่ผมหลุดร่วงมากกว่าปกติว่า “Alopecia” ซึ่งเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ ตั้งแต่ความเครียด ฮอร์โมนเพศชาย การถ่ายทอดทางพันธุกรรม ผลจากการใช้ยาบางชนิด และการติดเชื้อ เป็นต้น พบได้ทุกเพศทุกวัย แต่มักพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง การแก้ปัญหาจำเป็นต้องวินิจฉัยให้ทราบถึงสาเหตุของอาการในผู้ป่วยแต่ละราย
สำหรับ ผมร่วงมีหลายชนิด ที่พบบ่อยๆ ได้แก่ ผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia areate)จะร่วงเป็น วงกลมๆ คล้ายเหรียญบาทหรือใหญ่กว่า มีบริเวณผมร่วงเป็นบริเวณที่ชัดเจน ซึ่งพบได้ทุกที่บนศีรษะ ผมร่วงหลังจากคลอด หรือไข้สูง (Telogen effluvin) พวกนี้ผมจะร่วงวันละเป็นร้อยๆ เส้น และเวลาลูบผมจะติดมือออกมาเลย ซึ่งผมร่วงดังกล่าวนี้ อาจจะหายเองได้ ดังนั้น จะมีคนไข้บางคนเข้าใจผิดว่า ใช้ยาทา ตัวนั้น ตัวนี้ แล้วทำให้ผมขึ้นได้ ซึ่งจริงๆ แล้วผมมันขึ้นเอง
สาเหตุของผมร่วงที่พบบ่อย อีกอย่างคือ ผมร่วงแบบพันธุกรรมหรือผมร่วงจากกรรมพันธุ์ (Androgenetic alopecia) กลุ่มนี้จะถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์แต่จะไม่เกิดกับลูกหลานทุกคน จะเกิดกับบางคนเท่านั้น และผมร่วงลักษณะนี้เป็นได้ทั้งหญิงและชาย ผู้หญิงจะร่วงบริเวณกลางกระหม่อม ส่วนผู้ชายจะเริ่มร่วงจากด้านหน้าไปถึงบริเวณกลางกระหม่อม หรือหัวเถิก จะเป็นมากเมื่ออายุมากขึ้น พบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง และมีความรุนแรงมากกว่า อาการของผมร่วงจะไม่มีแผลเป็น ส่วนผู้หญิงจะเริ่มจากบริเวณกลางกระหม่อม และลุกลามจนทั่วทั่งศีรษะ เส้นผมที่งอกใหม่จะเล็กและบางกว่าปกติ
สำหรับผมร่วงที่เป็นผลจากการรักษาโรคมะเร็งด้วยวิธีเคมีบำบัด เป็นสิ่งที่พบเห็นและทราบกัน
ดี ไม่ได้เกิดขึ้นกับการทำเคมีบำบัดทุกชนิด แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะหลีกเลี่ยงได้ยาก นอกจากยาเคมีบำบัดยังมียา
อื่นที่ทำให้ผมร่วงได้เหมือนกัน เช่น ยารักษาสิว ยารักษาโรคเก๊าต์
สาเหตุจากผมร่วงที่เกิดจากโรคภัยไข้เจ็บจำเป็นต้องนึกถึงเสมอว่า สาเหตุเกิดจากอะไร โรคที่
พบได้บ่อยๆในเวชปฏิบัติที่เป็นสาเหตุของอาการผมร่วง ได้แก่ โรคของต่อมไทรอยด์ โรคติดเชื้อราที่หนังศีรษะ โรคไทฟอยด์ ไข้หวัดใหญ่ อีกภาวะที่ต้องนึกถึงเสมอ คือ การขาดอาหาร เช่น ภาวะขาดธาตุเหล็ก ซึ่งพบได้ในหญิงที่เสียเลือดจากการมีประจำเดือนครั้งละมากๆ ภาวะขาโปรตีนในร่างกาย รวมทั้งโรคเรื้อรังทั้งหลาย
นอกจากนั้น พบว่า บางคนชอบดึงผมจนเป็นนิสัยและทำให้ผมหลุดร่วงคราวละมากๆ การสระผมบ่อยเกินไป ย้อมผม โกรกสีผม รวมทั้งการเป่าผมมากเกินไป ก็ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมร่วงเช่นกัน
ปกติเส้นผมบนหนังศีรษะในคนเรา โดยเฉลี่ยมีประมาณ 100,000 —120, 000 เส้น เส้นผมมีการเจริญเติบโตเป็นระยะๆ โดยเริ่มจากรากผมขึ้นมา โดยเฉลี่ยใช้เวลาในการเจริญเติบโตทั้งสิ้นประมาณ 5 ปี และมีอัตราการเจริญประมาณ 0.35 ม.ม. ต่อวัน หลังจากนั้นจะหยุดการเติบโตเป็นเวลานาน 3 เดือน แล้วจึงหลุดร่วงไป เส้นผมเส้นใหม่ขึ้นมาแทนที่ ในแต่ละวันเส้นผมหลุดร่วงจากหนังศีรษะได้ประมาณ 50 เส้นไม่เกิน 100 เส้น ทั้งนี้ขึ้นกับสุขภาพของเส้นผมและระบบเลือดไหลเวียนของบริเวณหนังศีรษะ
ผมคนเราร่วงทุกวัน มากบ้าง น้อยบ้าง ถ้าในวันหนึ่งร่วงประมาณ 20 เส้น ถือว่าร่วงน้อย ร่วงถึงประมาณ 60 เส้นถือว่า ร่วงธรรมดา หรือถ้าผมร่วงแหว่งหายไปเป็นหย่อม ถือว่าผิดปกติ ทั้งนี้ขึ้นกับ สุขภาพของเส้นผมและระบบเลือดไหลเวียนของบริเวณหนังศีรษะ และอยู่ที่ระยะเวลาผลัดผมของแต่ละบุคคลด้วย ผมเก่าร่วงเท่าไร ผมใหม่งอกขึ้นแทนเท่านั้น ก็ไม่เป็นปัญหา ถ้าผมใหม่งอกขึ้นจำนวนน้อยกว่าผมที่ร่วงไป ผมจะบางลง และเริ่มเป็นปัญหา เมื่อร่วง 30-40 เปอร์เซ็นต์ของผมทั้งศีรษะ ถือว่าผิดปกติ ทีเดียว อาจจะเรียกว่า เป็นจุดเริ่มต้นของศีรษะล้านก็ว่าได้
เภสัชกรหญิง วรศิริ ศิริคะรินทร์ กล่าวว่า ความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์ได้มีส่วนเข้ามาช่วยแก้ไขเรื่องปัญหาผมร่วงได้มากขึ้น ในงานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์จากประเทศจีน ที่ชื่อ Prof. Dr. Yang Chong Ren จาก Kunming Institute of Botany Chinese Academy of Sciences ได้มีการคิดค้นสูตร
พิเศษ ซีพีซี ที่พัฒนามาจากสารสกัดจากพืชธรรมชาติหลายชนิด ที่ขึ้นในแถบตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน เพื่อใช้สำหรับแก้ปัญหาผมร่วง ศีรษะล้านชนิดต่างๆ ซึ่งผลวิจัยที่ออกมา ในวงการการแพทย์และ นักวิชาการด้านเส้นผมและหนังศีรษะต่างก็ยอมรับว่าได้ผล และสารประกอบหลายชนิดมาจากสาร ธรรมชาติที่ได้จากต้นไม้ในตระกูลชื่อ Stephania cepharantha ในประเทศจีน
จากการศึกษาทางวิชาการในงานวิจัยของ Prof. Dr. Yang Chong Ren เป็นงานวิจัยที่วิเคราะห์ตรงสาเหตุที่ทำให้ผมร่วง ส่วนใหญ่มาจากการมีเลือดไปเลี้ยงปลายรากผมใต้หนังศีรษะไม่พอเพียง เซลล์ผิวหนังบริเวณหนังศีรษะมีการผลิต ซีบั่ม(Sebum) มากเกินไป ทำให้เกิดการอุดตันบริเวณโคนรากผม และสาเหตุจากฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgenic Hormone) ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดศีรษะล้านจากกรรมพันธุ์
Prof. Dr. Yang Chong Ren ได้นำสูตรพิเศษ ซีพีซี ที่พัฒนาคิดค้นได้นั้นมาทดสอบปลูกผมกับอาสา
สมัครที่สถาบันการแพทย์ 4 แห่ง เป็นเวลา 2 เดือน ในสาธารณรัฐประชาชนจีน พบว่า อาสาสมัครที่เข้าร่วมใน
โครงการนี้มีทั้งหมด 240 คนใน 4 สถาบัน พบว่า สูตรพิเศษ ซีพีซี สามารถใช้แก้ปัญหาผมร่วง ศีรษะล้านจาก
สาเหตุต่างๆ อย่างได้ผล คิดเป็น 83% ของทั้งหมด หรือ 199คน
ในรายงานของ Prof. Dr. Yang Chong Ren กล่าวถึงกลไกการออกฤทธิ์ ซีพีซี จะช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์เส้นผมใหม่และลดการหลุดร่วงของเส้นผม โดยเพิ่มการไหลเวียนเลือดของหลอดเลือดฝอยแขนงเล็กๆ บริเวณโคนรากผม พร้อมกับเพิ่มคุณภาพของเลือดบริเวณโคนรากผมให้มีสารสำคัญเพื่อช่วยป้องกันผมหลุด
ร่วง กระตุ้นการเติบโตของเส้นผม กระบวนการทำงานของ ซีพีซี จะเพิ่มสารอาหารบำรุงเส้นผม และเพิ่มเม
ตาบอลิซึ่มในเซลล์เส้นผม ทำให้รากและเส้นผมแข็งแรงและเสริมสร้างเส้นผมใหม่
ในการศึกษายังทำการทดสอบผลข้างเคียงทางเภสัชวิทยาอย่างละเอียดหลายขึ้นตอน พบว่า ปลอดภัยต่อผิวหนัง ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือการระคายเคืองจากการถูกกระตุ้นภายหลังทาสารสกัด ซีพีซี บนผิวหนังที่
ทาทิ้งไว้เป็นเวลานานๆ และหลายๆ ครั้ง อย่างไรก็ตาม การศึกษาของ Prof. Dr. Yang Chong Ren
ช่วยพัฒนาให้เกิดความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์ในการแก้ปัญหาผมร่วง ศีรษะล้าน ทำให้นักวิชาการด้านเส้นผมและหนังศีรษะต่างให้ความสนใจกับกรณีศึกษาของ Prof. Dr. Yang Chong Ren อย่างกว้างขวางขึ้น และขยายผลการศึกษา โดยให้ความสำคัญกับการรักษาผมร่วงที่สาเหตุเป็นหลัก แพทย์เองก็จะพยายามซักประวัติและตรวจร่างกายเพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุที่แน่นอน ก่อนที่จะให้คำแนะนำหรือการรักษาที่ถูกต้องอย่างมีประสิทธิภาพ
การวิจัยดังกล่าว ยังบอกให้ทราบถึงความก้าวหน้าในวิธีการรักษาเส้นผมที่ดีด้วยว่า ต้องดูแล เส้นผมตั้งแต่ยังไม่ร่วง จะทำให้ตนเองมีผมที่สวยงามอยู่คู่กับหนังศีรษะได้ไปยืนนาน และยังช่วยชะลอไม่ให้เกิดผมหงอกก่อนวัยอีกด้วย การดูแลผมควรได้รับสารอาหารธรรมชาติอย่างเพียงพอ จะไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงและไม่เป็นการทำร้ายเส้นผม และไม่จำเป็นที่ต้องแก้ปัญหาด้วยการใช้ยา เพราะเราป้องกันตั้งแต่เริ่มต้นก่อนมีปัญหาผมร่วง
การหันกลับมาฟื้นฟูและเสริมสร้างเส้นผมขึ้นมาใหม่ที่ได้ผลแบบธรรมชาติ นั่นเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว เพื่อแก้ปัญหาผมร่วงเสียแต่เนิ่นๆ ตรงจุดที่ป้องกันที่รากฐานของเส้นผมโดยตรง ถ้าสังเกตเห็นว่าผมเริ่มร่วง บางลงเรื่อยๆ จนมองเห็นหนังศีรษะ หรือร่วงผิดปกติ ไม่ว่าจะมาจากสาเหตุใดๆ ก็ตาม ไม่ควรรีรอ รีบแก้ไขทันทีก่อนที่จะสายเกินแก้ จนศีรษะล้านได้ แก้ไขตั้งแต่เริ่มแรกจะทำได้ง่ายกว่าปล่อยทิ้งไว้ จนหันมาใช้ยาเมื่อมีปัญหามากแล้ว
ทั้งนี้ เนื่องจากวิธีการรักษาผมร่วงแบบเดิม ๆ โดยเฉพาะผมร่วงจากกรรมพันธุ์ คือ การใช้ยา
Minoxidil กินและทา การทาจะได้ผลเพียง 30% ส่วนการกินจะได้ผล 90% แต่ข้อเสียของการทานยาคือ
เวลาหยุดยาแล้วผมจะร่วงเหมือนเดิม และการทาน ยานานๆ (6เดือนขึ้นไป) จะมีอาการดื้อยา โดย
สังเกตได้จากผมจะร่วงได้ ทั้งๆ ที่รับประทานยาอยู่ ข้อควรระวังที่สำคัญที่สุด ยานี้ทำให้ทารกในครรภ์พิการ
ได้ ห้ามใช้ในผู้หญิงตั้งครรภ์อย่างเด็ดขาด และแม้ว่าจะมีการพัฒนายาตัวใหม่ ชื่อ Finasteride ก็ยังมีข้อ
เสียของยาตัวนี้ คือ ห้ามใช้ในผู้หญิง อาจทำให้ความรู้สึกทางเพศลดลงได้ เวลาหยุดยา อาจทำให้ผมร่วง
เหมือนยา Minoxidil ได้ สุดท้าย ถ้าการกินยา และทายาไม่ได้ผล ก็ต้องทำศัลยกรรม โดยแพทย์ ศัลยกรรมตกแต่ง ซึ่งจะย้ายเส้นผมมาปลูกเป็นเส้นๆ เลย ซึ่งได้ผลดีแต่ค่าใช้จ่ายก็สูงพอสมควร ส่วนการถักทอเส้นผมที่บางนั้น เทียบแล้ว เหมือนการใส่วิกผู้สนใจทั่วไป ติดต่อขอทราบข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่โทร 0-2948-4888
เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ โดย บริษัท กู๊ด เน็ตเวิร์ค จำกัด ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คุณ ภาวินี ชนะพลชัย โทร 0-9770-2659 , 0-29468470-2--จบ--