นายเลิศปัญญา กล่าวว่า จากกรณีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันส่งผลทำให้เกิดเหตุการณ์อุทกภัยขึ้นในจังหวัด ทางภาคใต้ น้ำท่วมบ้านเรือนหลายพื้นที่ ตลิ่งพัง ถนนชำรุด สะพานขาดเดินทางยากลำบาก รวมถึงพื้นที่ทำการเกษตรเสียหาย เป็นจำนวนมาก ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนแล้วกว่า ๑,๐๐๐ ครัวเรือน โดยเฉพาะที่จังหวัดพังงาและสตูล ตนมีความห่วงใยประชาชนที่ประสบปัญหาดังกล่าว โดยได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เร่งสำรวจประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อน จากกรณีดังกล่าว โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายของกระทรวงฯ ได้แก่ คนชรา ผู้พิการ เด็ก และผู้ด้อยโอกาสทางสังคม เพื่อให้การช่วยเหลือตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯต่อไป
นายเลิศปัญญา กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีหญิงชาวกะเหรี่ยง ครอบครัวมีฐานะยากจน ป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูก ไร้สิทธิ์รักษาพยาบาลเพราะเป็นต่างด้าว ต้องทนทุกข์ทรมานนอนเจ็บปวด แต่ต้องอดทนเพราะต้องเก็บเงินทุกบาท ไว้ให้ลูกไปโรงเรียน และต้องรับภาระเลี้ยงดูลูกอีก ๓ คน ที่จังหวัดเชียงราย และกรณีชายอายุ ๒๖ ปี มีอาการป่วย ไม่สามารถเดินได้ รูปร่างสูงใหญ่ผิดปกติ มีน้ำหนักตัวกว่า ๒๐๐ กก. ส่วนสูง ๒๗๐ ซม. ที่จังหวัดสุรินทร์ ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดทั้ง ๒ จังหวัด (พมจ.) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจกระทรวงฯ พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยงข้องดูแลเรื่องการรักษาพยาบาล อย่างต่อเนื่องต่อไป
"ขอขอบคุณทุกท่านในการประชุม ศปก.พม. ครั้งนี้ ที่ร่วมทำงานมาด้วยกัน และรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานการประชุม ศปก.พม. ครั้งสุดท้าย ก่อนจะไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) ในวันที่ ๑ ต.ค.๕๘ นี้" นายเลิศปัญญา กล่าวท้าย