นายศิริพงษ์ รุ่งโรจน์กิติยศ กล่าวถึง การกระจายหุ้นให้บุตรครั้งนี้ว่า "เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2558 ผมและภรรยาได้ทำการโอนขายหุ้นให้แก่บุตรชายทั้งสามคน คือ นายบัลลังก์ รุ่งโรจน์กิติยศ นายอังกฤษ รุ่งโรจน์กิติยศ และนายพลเอก รุ่งโรจน์กิติยศ คนละ 230 ล้านหุ้น รวม 690 ล้านหุ้น คิดเป็น 45.2% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ส่วนตัวผมและภรรยายังคงถือหุ้นของบริษัท รวมกัน 453 ล้านหุ้น คิดเป็น 29.7% และยังดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการเหมือนเดิม ทั้งนี้ ครอบครัวรุ่งโรจน์กิติยศ ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของกลุ่มบริษัทฯ โดยมีสัดส่วนการถือครองหุ้น 75% เช่นเดิม โดยผมและภรรยาได้ทำธุรกรรมการขายหุ้นผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ อย่างถูกต้องตามกฎเกณฑ์และระเบียบของตลาดหลักทรัพย์และ ก.ล.ต. ทุกประการ"
นายศิริพงษ์ ยังกล่าวอีกว่า "การขายหุ้นครั้งนี้ไม่มีผลกระทบต่อโครงสร้างการบริหารในองค์กร เพียงต้องการให้ลูกๆ ที่มีประสบการณ์ในธุรกิจนี้ดีอยู่แล้ว ได้เข้ามามีส่วนร่วมเป็นเจ้าของกิจการอย่างเป็นทางการ เรายังมีคณะผู้บริหารและคณะกรรมการบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นอย่างดี ที่จะร่วมกันสร้างความสำเร็จและการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับบริษัทฯ และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้ผู้ถือหุ้นทุกคน"
สำหรับบุตรทั้ง 3 คนที่ซื้อหุ้น PCSGH ครั้งนี้ ต่างก็เคยช่วยนายศิริพงษ์บริหารงานบริษัทย่อยของ PCSGH มาแล้วทั้งสิ้น ได้แก่ นายอังกฤษ รุ่งโรจน์กิติยศ ปัจจุบันยังเป็นกรรมการบริษัท พี.ซี.เอส. แมชีน กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PCSGH และเคยเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.ซี.เอส. ได คาสติ้ง จำกัด (PCD) นายบัลลังก์ รุ่งโรจน์กิติยศ เคยเป็นกรรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.ซี.เอส. พรีซิชั่น เวิร์ค จำกัด (PCW) และนายพลเอก รุ่งโรจน์กิติยศ เคยเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.ซี.เอส. ฟอร์จจิ้ง จำกัด (PCF) และเคยเป็นกรรมการบริษัท PCSGH ด้วย