กอช. มั่นใจสิ้นปีได้สมาชิกตามเป้า 600,000 ราย

อังคาร ๒๙ กันยายน ๒๐๑๕ ๑๙:๐๖
• ประชาชนผู้ประกอบอาชีพอิสระให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง

• ภายในเดือนแรก มีสมาชิกสมัครแล้วกว่า 300,000 ราย

กองทุนการออมแห่งชาติหรือ กอช. เชื่อมั่นภายในปีนี้ จะสามารถรับสมัครสมาชิกได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ 600,000 ราย ทั้งนี้เพราะประชาชนให้ความสนใจตรวจสอบสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งการรับสมัครสมาชิกจาก 3 ธนาคารตัวแทน เป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้สมัครเฉลี่ยวันละ 5,000 ราย

นายสมพร จิตเป็นธม เลขาธิการ กอช. เปิดเผยว่าภายหลังจากที่ กอช. เริ่มรับสมัครสมาชิกตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคมที่ทำเนียบรัฐบาล จนถึงขณะนี้ กอช. สามารถรับสมัครสมาชิกได้แล้ว 300,471 ราย ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่เกินกว่า 50% ของเป้าหมาย ในขณะที่ระยะเวลาผ่านไปเพียง 1 เดือนเศษ ทำให้ กอช. มีความมั่นใจอย่างมากว่าจะสามารถรับสมัครสมาชิกได้ตามเป้าหมาย 600,000 คนภายในปีนี้อย่างแน่นอน โดยเป้าหมายสิ้นปีหน้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,500,000 คน และ 3,000,000 คน ในสิ้นปี พ.ศ. 2561

"ที่ทำให้ กอช. มั่นใจยิ่งกว่านั้นคือรัฐบาลได้ให้การสนับสนุนประชาสัมพันธ์กระตุ้นให้ประชาชนที่มีคุณสมบัติไปตรวจสอบสิทธิ์ และให้เชิญชวนให้สมัครด้วยเพื่อประโยชน์ภายหลังอายุ 60 ปี นอกจากนี้ ธนาคารทั้งสามแห่ง ได้ให้ความร่วมมืออย่างดี โดยระดมพนักงานดำเนินการรับสมัคร ซึ่งขณะนี้ ยอดผู้สมัครเข้ามาอย่างสม่ำเสมอเฉลี่ยวันละ 5,000 ราย" นายสมพร กล่าว

นายสมพร กล่าวว่าจนถึงขณะนี้ ยอดเงินที่สมาชิกส่งเข้ากองทุน มีประมาณ 281 ล้านบาท โดยผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์หรือ ธ.ก.ส. 189 ล้านบาท ธนาคารออมสิน 62 ล้านบาทและธนาคารกรุงไทย 30 ล้านบาท

นายสมพร กล่าวว่าจำนวนผู้สมัครทั้งหมด ธกส. 194,000 ราย มาจากธนาคารออมสิน 87,000 ราย และ19,000 รายมาจากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โดยเป็นสมาชิก ภาคเหนือร้อยละ 10 ภาคกลางร้อยละ 18 ราย ภาคตะวันออกร้อยละ 5 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือร้อยละ 59 ภาคตะวันตกร้อยละ 3 และภาคใต้ร้อยละ 5

สำหรับสมาชิกทั้งหมดนี้ ประมาณร้อยละ 75 มีอาชีพเกษตรกร ร้อยละ 12 อาชีพรับจ้างทั่วไปและ อาชีพอื่น ๆ ส่วนร้อยละ10 มีอาชีพค้าขาย และนิสิต นักศึกษา ร้อยละ 3 โดยมียอดเงินฝากเฉลี่ยครั้งละ 930 บาท

กอช. เป็นหน่วยงานล่าสุดที่รัฐบาลนำโดยพลเอกประยุทธ์ ได้ผลักดันจนสามารถดำเนินการรับสมัครสมาชิกได้ โดย กอช. ก่อตั้งภายใต้พระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. 2554 เพื่อเป็นทางเลือกสวัสดิการเงินบำนาญสำหรับประชาชนที่ประกอบอาชีพอิสระและแรงงานนอกระบบซึ่งไม่มีสวัสดิการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับหลักประกันยามชราภาพ โดยสมาชิกสามารถสมัครได้ที่สาขาของธนาคารทั้ง 3 แห่งทั่วประเทศ เพียงยื่นบัตรประชาชนเพื่อตรวจสอบสิทธิ์การสมัคร และหากมีคุณสมบัติสมัครได้ สามารถใช้เพียงบัตรประชาชนยื่นสมัครพร้อมกับเงินฝากตามกำลังของแต่ละคน แต่ต้องไม่ต่ำกว่า 50 บาท

สำหรับผู้สมัคร กอช. แบ่งสมาชิกออกเป็น 3 ประเภทได้แก่ประเภทอายุ 15 ปีถึง 30 ปี เมื่อสมาชิกส่งเงินออมเข้าระบบ รัฐบาลจะโอนเงินสมทบในอัตรา 50% ของเงินออมแต่ไม่เกินปีละ 600 บาท ประเภทอายุ 30 ปีถึง 50 ปี รัฐบาลจะสมทบในอัตรา 80% ของเงินออมแต่ไม่เกินปีละ 960 บาท และประเภท 50 ปีถึง 60 ปี รัฐบาลจะสมทบในอัตรา 100% แต่ไม่เกินปีละ 1,200 บาท โดยสมาชิกทุกประเภท สามารถส่งเงินออมได้ไม่เกินปีละ 13,200 บาท และสมาชิกสามารถหยุดส่งเงินออมได้โดยสมาชิกภาพยังดำรงอยู่

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ