นายกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นจูรี่21 (ประเทศไทย) จำกัด (Mr. Kitisak Jampathipphong, Chief Executive Officer of Century 21 (Thailand) Co Ltd) เปิดเผยว่า ในการลงนามความร่วมมือกับบริษัท โยโกฮาม่า โฮลดิ้ง จากประเทศญี่ปุ่นครั้งนี้เป็นการลงทุนส่วนตัว ด้วยเพราะเห็นว่าบริษัท โยโกฮาม่าฯ มีประสบการณ์ และมีความเชี่ยวชาญในการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ อีกทั้งส่วนตัวได้เล็งเห็นว่ากระแสของโลกนั้นให้ความสำคัญกับพลังงานสะอาด หรือ Clean Energy และรัฐบาลไทย ก็เริ่มให้การสนับสนุนไม่ว่าจะเป็นการลดใช้พลังงานที่ไม่จำเป็นในครัวเรือน หรือการนำพลังงานทดแทนมาใช้ ขณะเดียวกัน ส่วนตัวที่มีประสบการณ์ด้านธุรกิจอสังหาฯ และมีความสัมพันธ์กับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ และพันธมิตรกับบริษัท โยโกฮาม่า โฮลดิ้ง ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์มามากว่า 8 ปี มีความสนใจในการนำนวัตกรรมระบบพลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ที่มีประสิทธิภาพของทางญี่ปุ่นมาติดตั้งในประเทศไทย
"การร่วมมือกันระหว่างผมกับโยโกฮาม่าจะเป็นการเสริมจุดแข็งซึ่งกันและกัน" นายกิติศักดิ์ กล่าว พร้อมกับให้ความเห็นต่อ ว่าธุรกิจดังกล่าวดำเนินการ ภายใต้บริษัท โยโกฮาม่า โฮลดิ้ง เอ็นเนอร์ยี่(ประเทศไทย) จำกัด แม้ความร่วมมือกันในครั้งนี้จะเป็นในนามส่วนตัวแต่ก็เป็นอีกบทสะท้อนหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าจากนี้ไป เซ็นจูรี่ 21 (ประเทศไทย) ในฐานะโบรกเกอร์อสังหาฯ กำลังนำธุรกิจอสังหาฯ มุ่งสู่ กรีน เซฟวิ่ง โดยจะนำเสนอทางเลือกให้คู่ค้าหรือพันธมิตรที่เป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่บริษัทฯ ได้เข้าไปมีส่วนร่วมรับบริหารงานขายและการตลาดให้ เพราะเชื่อว่าจะเป็นโอกาสในการสร้างและดูแลให้ที่อยู่อาศัย หรืออาคารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม รีสอร์ท หรือโรงงานอุตสาหกรรมที่เป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าเพิ่มอย่างต่อเนื่อง มูลค่าเพิ่มที่เกิดขึ้นได้ทั้งผู้บริโภคที่เป็นเจ้าของบ้านหรือผู้ที่มาใช้บริการ รวมถึงประเทศชาติก็จะได้ประโยชน์จากการให้ความร่วมมือของภาคเอกชนที่หันมาใส่ใจ Clean Energy ที่รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุน
ด้านนายทาคามิชิ มะสึดะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โยโกฮาม่า โฮลดิ้ง จำกัด จากประเทศญี่ปุ่น (Mr.Takamichi Mastsuda Chief Executive Office Yokohama Holding Energy Co.,Ltd.) กล่าวว่า บริษัท โยโกฮาม่า โฮลดิ้ง เอ็นเนอร์ยี่ นั้น ทำเกี่ยวกับการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์มามากกว่า 8 ปี มีการติดตั้งให้กับบ้านเรือนที่ญี่ปุ่นกว่า 1,000 ครัวเรือนต่อปี จนถึงปัจจุบันได้มีการติดตั้งมามากกว่า 10,000 ยูนิต ทั้งโซลาร์ รูฟ (Solar roof) และ โซลาร์ ฟาร์ม (Solar farm)
ด้วยประสบการณ์และประสิทธิภาพของบริษัทฯ ที่มีการจัดการแบบครบวงจร ทั้งการบริหารทางด้านบุคคลากร และพัฒนาคุณภาพของผลงานอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมีการนำนวัตกรรมการติดตั้งชั้นนำที่มีความสวยงามและทนต่อสภาพอากาศของทางญี่ปุ่นที่เรียกว่า "NODATEX" เป็นระบบแบบ Hybrid System มาใช้ ซึ่งเป็นนวัตกรรมชั้นนำเกี่ยวกับการติดตั้งตั้งฐานระบบ PV (Photovoltaic) ที่มีคุณภาพและความมั่นคงในการติดตั้งสูงสุด และทางบริษัทฯ ยังมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจอย่างแน่นแฟ้น กับบริษัท TOSHIBA, HITACHI และบริษัทชั้นนำทางด้านการไฟฟ้าอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้บริษัทติดอันดับ 1 ใน 50 บริษัทที่มียอดขาย PV สูงสุดในประเทศญี่ปุ่นได้ภายในระยะเวลาเพียง 2-3 ปี ที่ผ่านมา
บริษัทโยโกฮาม่ามีความตั้งใจที่จะขยายกิจการระบบพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีคุณภาพและมาตรฐานไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ซึ่งมีสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ อีกทั้งไทยและญี่ปุ่นยังมีความสัมพันธ์อันดีมาอย่างยาวนาน บริษัทโยโกฮาม่า จึงมีความตั้งใจในการนำระบบพลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์มาติดตั้งในประเทศไทยเป็นที่แรก เพื่อขยายกลุ่มธุรกิจทางด้านการอนุรักษ์พลังงานให้กว้างขวาง และส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดในครัวเรือน
ทั้งนี้สอดคล้องกับคุณกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นจูรี่21 ที่มีชื่อเสียงชั้นนำทางด้านอสังหาริมทรัพย์มามากกว่า 20 ปี ในด้านการประเมินความเป็นไปได้ในการลงทุน การจัดการการตลาด และพัฒนาธุรกิจ ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงได้มีการจับมือกันระหว่างผู้บริหารของเซ็นจูรี่ 21 กับบริษัท โยโกฮาม่า โฮลดิ้ง เพื่อลุยตลาดพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย โดยเฉพาะโครงการทางด้านบ้านจัดสรร, คอนโดมีเนียมที่เริ่มมีการนำพลังงานสะอาดมาใช้ในหลักการดำเนินธุรกิจของบริษัทโยโกฮาม่า จะยึดนโยบายเน้นไปที่คุณภาพของผลงานตามมาตรฐานญี่ปุ่น ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง แข็งแรง ทนทาน สวยงาม พร้อมบริการครบวงจร แต่ต้นทุนในการติดตั้งต่ำ รวมถึงรับประกันการรั่วซึมของหลังคาสูงสุดมากถึง 20 ปี
สำหรับผลงานของทางบริษัทฯ ในประเทศไทยที่ผ่านมา ได้มีการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับโชว์รูมโตโยต้า จังหวัดปราจีนบุรี จำนวน 74 kw และกำลังออกแบบการติดตั้งโซลาร์รูฟ ให้กับทางโชว์รูมโตโยต้า จังหวัดกบินทร์บุรี และทางบริษัทยังมีโครงการที่กำลังรอติดตั้งอยู่อีกมากมายให้กับโรงงานชั้นนำของประเทศญี่ปุน ที่ตั้งอยู่ในเขตนิคมโรจนะ จังหวัดอยุธยา โดยขณะนี้มี 3 โรงงาน ที่ได้ให้ความสนใจและกำลังอยู่ในช่วงศึกษาและวางแผนงาน ในจำนวน 1 เมกาวัตต์ ต่อ 1 ไซต์งาน และยังมีแผนที่จะเข้าร่วมในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินสำหรับหน่วยงานราชการ 600 เมกาวัตต์ โดยที่ใบอนุญาตจะออกภายในสิ้นปี 2558 และก่อสร้างแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน ปี2559 โดยตั้งเป้าหมายที่จะมีส่วนแบ่งในการก่อสร้างอยู่ที่ 10% หรือประมาณ 60 เมกาวัตต์ มูลค่าการก่อสร้างจะอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท
ตลอดจนทางบริษัทได้ริเริ่มพูดคุยกับทางบริษัทชั้นนำในประเทศญี่ปุนถึงความร่วมมือในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนอื่นๆ เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานขยะ, Bio Mass ซึ่งโครงการเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นโครงการที่ทางภาครัฐให้การสนับสนุนในอนาคต รวมไปถึงโครงการบ้านจัดสรรต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ ตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้จากการร่วมมือกับ Century 21 ซึ่งการร่วมมือกันนี้มีเป้าหมายที่จะนำเอาบริษัทโยโกฮาม่า โฮลดิ้ง เอนเนอร์ยี่ (ประเทศไทย) จำกัด เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายใน 3 ปี