ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีซี คอนซัลแทนส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด เปิดเผยว่า ธุรกิจประชาสัมพันธ์เปรียบเหมือนการเป็นผู้ตามของเศรษฐกิจประเทศไทย ซึ่งไม่ว่าเศรษฐกิจในประเทศไทยจะเติบโตไปในทิศทางอย่างไร ธุรกิจการประชาสัมพันธ์จะต้องอิงตามในทิศทางเดียวกัน การปรับลดจีดีพีเหลือการเติบโตเพียงแค่ 3.8% จากเดิมที่เคยคาดไว้อยู่ที่ประมาณ 4.1% จากอัตราตัวเลขของจีดีพีที่ลดลง ย่อมส่งผลให้ธุรกิจประชาสัมพันธ์เป็นไปตามทิศทางการเติบโตของตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องไปด้วยกัน ขณะเดียวกันในด้านการแข่งขันของตลาดประชาสัมพันธ์ในประเทศไทย ปัจจุบันยังมีโอกาสเติบโต เนื่องจากมีผู้เล่นในธุรกิจนี้จำนวนน้อย แต่ก็ยังมีธุรกิจออนไลน์ เอเยนซีเพิ่มเข้ามาแทน ซึ่งเป็นทิศทางที่ธุรกิจประชาสัมพันธ์ควรต้องให้ความสำคัญและขยายธุรกิจจากรูปแบบดั้งเดิมมาสู่โซเชียลมีเดียหรือออนไลน์ให้มากขึ้น
"สำหรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของดีซีนับจากไตรมาส 4 เป็นต้นไป บริษัทได้ปรับโครงสร้างภายในเพื่อให้การบริหารงานมีความคล่องตัวยิ่งขึ้น ด้วยจุดแข็งที่เรามีเครือข่ายพันธมิตรที่เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ผนวกกับกลยุทธ์สำคัญที่จะทำให้การประชาสัมพันธ์ประสบความสำเร็จเสมอ คือ การมีความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยมและการรักษาความสัมพันธ์ให้ยั่งยืนระหว่างนักประชาสัมพันธ์กับสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ซึ่งเรามีทีมงานที่ดูแลในด้านนี้อย่างครบวงจร โดยเราจะให้บริการในรูปแบบ Total Solution ซึ่งจะทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าพวกเขาจะได้รับบริการที่เหนือความคาดหมายอย่างแน่นอน" ดร.วิทย์ กล่าว
ล่าสุด บริษัทได้มีการปรับปรุงพื้นที่ในส่วนของสำนักงานซึ่งยังคงตั้งอยู่ที่เดิมคืออาคารอัมรินทร์พลาซ่า ชั้น 22 บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ใจกลางกรุงเทพฯ อันเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการเดินทาง ทั้งในแง่ของสื่อมวลชนและลูกค้า โดยได้ปรับลดพื้นที่ลงเพื่อให้ทีมงานได้ทำงานกันอย่างใกล้ชิดและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม
"นอกจากนี้ บริษัทจะเพิ่มสัดส่วนธุรกิจใหม่ ได้แก่ ธุรกิจเทรนนิ่ง จัดอบรมการสื่อสารให้กับองค์กรต่างๆ และธุรกิจออนไลน์ เนื่องจากบริษัทมองเห็นอัตราการเติบโตของธุรกิจทั้ง 2 ประเภทที่มีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง พร้อมทั้งคาดว่าภาพรวมรายได้ของปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 5-10%" ดร.วิทย์ กล่าวเพิ่มเติม
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีซี คอนซัลแทนส์ฯ กล่าวอีกว่า ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่กำลังจะเกิดขึ้นส่งผลกระทบทั้งด้านบวกและลบต่อประเทศไทยแน่นอน ไม่เว้นธุรกิจประชาสัมพันธ์ที่จะมีการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ทั้งนี้ ธุรกิจประชาสัมพันธ์ทั่วโลกกำลังกลายเป็นผู้นำในการใช้กลยุทธ์การสื่อสาร โดยใช้เทคโนโลยีใหม่ในการสื่อสาร เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า สื่อมวลชนและผู้ถือหุ้น ทุกวันนี้ใครมีสมาร์ทโฟนก็สามารถเข้าถึงสื่อออนไลน์ได้อย่างสะดวก เราจึงต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การสื่อสารให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยมุ่งเน้นการบริหารสื่อแบบครบวงจร ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ ที่ตอนนี้มีช่องทีวีดิจิทัลเพิ่มขึ้นมาเป็นทางเลือกในการเผยแพร่ข่าวสารมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีสื่อวิทยุ สื่อออนไลน์ที่รวมถึงเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่างเฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ ไลน์ และเสิร์ชเอ็นจิ้นยักษ์ใหญ่ที่มีอิทธิพลต่อผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกอย่างกูเกิ้ล ตลอดจนแอพพลิเคชันต่างๆ บนสมาร์ทโฟน
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากบริการให้คำปรึกษาด้านประชาสัมพันธ์แล้ว สิ่งที่เป็นจุดแข็งอีกอย่างหนึ่งคือการจัดอบรมหรือเทรนนิ่งให้กับองค์กรและหน่วยงานต่างๆ ครอบคลุมและครบครันในทุกสายงาน ไม่ว่าจะเป็นด้านสื่อมวลชนสัมพันธ์ การสร้างแบรนด์เอกลักษณ์องค์กร นักลงทุนสัมพันธ์ ไปจนถึงการสื่อสารเพื่อรับมือกับวิกฤติการณ์ และการบริหารความสัมพันธ์กับหน่วยงานภาครัฐ
หัวข้อในการอบรมมีตั้งแต่การบริหารความสัมพันธ์กับหน่วยงานภาครัฐและสาธารณกิจ การสร้างแบรนด์/การตลาดสู่ผู้บริโภค ความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร การสื่อสารองค์กร การจัดงานและนิทรรศการการสื่อสารเพื่อรับมือกับวิกฤติการณ์ การสื่อสารในตลาดทุน การนำเสนอแนวคิดการมีความรับผิดชอบต่อสังคมในระดับปัจเจกบุคคล การอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับสื่อมวลชนและการสื่อสาร การสื่อสารและประชาสัมพันธ์ด้านสิ่งแวดล้อม สื่อมวลชนสัมพันธ์ การผลิตสื่อประชาสัมพันธ์องค์กรและสื่อการตลาด การติดตามและรวบรวมข่าวสาร การสื่อด้วยภาพและเสียง นอกจากนี้ยังมีบริการด้าน Editorial และ Copywriting อีกด้วย
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม และอัพเดทเทรนด์ประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ www.dcconsultants.co.th หรือ www.facebook.com/DCConsultants