นายกสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย ปฏิเสธนำเข้ากุ้งจากอินโดนีเซียจนทำให้ราคาในประเทศตกต่ำ

ศุกร์ ๐๙ ตุลาคม ๒๐๑๕ ๑๑:๒๕
บ่ายวันนี้ ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย นำโดยนายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ นายกสมาคมฯ พร้อมด้วย ชี้แจงกรณีมีกระแสข่าวการนำเข้ากุ้งทะเลจากประเทศอินโดนีเซีย จนทำให้ราคากุ้งของเกษตรกรในประเทศตกต่ำ โดยสมาคมฯยืนยันว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้มีการนำเข้ากุ้งสดจากประเทศอินโดนีเซียแต่อย่างใด และประเทศไทยก็ไม่ได้มีกฎหมายห้ามนำเข้ากุ้งจากต่างประเทศ แต่หากต้องการนำเข้า จะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไข ของกรมประมง และกุ้งที่จะนำเข้าจากอินโดนีเซีย จะต้องเป็นกุ้งสุก หรือกุ้งที่ผ่านความร้อนด้วยอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 100 องศาเซลเซียส

ส่วนการที่สมาคมฯเข้าพบกรมประมงเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อขอให้กรมประมงอำนวยความสะดวกในการนำเข้ากุ้ง เพราะขณะนั้นผลผลิตกุ้งในไทยในช่วง 4 เดือนแรกมีปริมาณน้อยมาก ผู้ประกอบการห้องเย็นจึงต้องการหากุ้งมาผลิต เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเพื่อส่งออก และส่วนใหญ่เป็นการนำเข้ากุ้งต้มสุก ผู้ประกอบการไม่มีความตั้งใจจะนำเข้ากุ้งเพื่อมากดดันราคากุ้งไทย และมีมาตรการว่า หากต้องการนำเข้ากุ้งต้องซื้อผลผลิตกุ้งในประเทศ ในอัตรากุ้งไทย 2 ส่วน ต่อกุ้งนำเข้า 1 ส่วน

นายกสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย กล่าวว่า โดยปกติ ไม่มีกฎหมาย ห้ามนำเข้ากุ้ง แต่มีกระบวนการตรวจสอบโรคติดต่อ ของกรมประมงใช้เวลานาน กรณีของการขอนำเข้ากุ้งอินโดนีเซีย เป็นสมาชิกของสมาคมฯจริง ที่ได้ร่วมทุนกับญี่ปุ่น โดยมีฟาร์มเลี้ยงกุ้งในเกาะ Serum ซึ่งเลี้ยงกุ้งไซต์ใหญ่ ต้องการนำเข้ากุ้งมาแปรรูปเพื่อส่งออกไปญี่ปุ่นและสหรัฐ ฯ แต่กรมประมงมีขั้นตอนตรวจสอบใช้เวลานาน เอกชนรายนั้นจึงยื่นหนังสือยกเลิกนำเข้าแล้ว และส่งไปแปรรูปที่เวียดนามแทนแล้ว

สำหรับราคากุ้งในประเทศที่ตกต่ำในช่วงที่ผ่านมา ไม่มีใครทราบสาเหตุที่แน่ชัด และยืนยันว่าไม่ได้มีสาเหตุจากการนำเข้าจากอินโดนีเซียแต่อย่างใด อย่างไรก็ดี ปัจจุบันราคาได้ดีดกลับขึ้นมาแล้ว ส่วนการช่วยเหลือเกษตรกรอย่างไรบ้างนั้น นายพจน์ กล่าวว่า ตอนนี้ห้องเย็นช่วยเกษตรกรอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามในเรื่องของการหาตลาดใหม่ ทดแทนตลาดอื่นที่หายไปนั้น ต้องยอมรับว่า ตลาดกุ้งมีจำกัด หาตลาดใหม่ไม่ได้ และขณะนี้ไทยสูญเสียตลาดกุ้งหักหัวไปแล้วเพราะมีผู้ผลิตประเทศอื่นเข้ามาทดแทน แต่ ไทยยังเป็นผู้นำในตลาดกุ้งต้มในโมเดิร์นเทรด และกุ้งแหวน

ทั้งนี้ การผลิตกุ้งภายในประเทศในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 159,000 ตัน และสิ้นปีคาดว่าจะอยู่ที่240,000-250,000 ตัน ซึ่งเป็นตัวเลขการผลิตที่ดีขึ้นหลังจากประสบปัญหาโรคตายด่วน แต่ยังไม่ถือว่าอยู่ในระดับปกติที่ในแต่ละปีการผลิตกุ้งไทยจะอยู่ที่ 4-5 แสนตัน หากว่าผลผลิตของไทยสามารถกลับไปที่ 3-3.5 แสนตันก็สามารถทำให้อุตสาหกรรมกุ้งไทยกลับมาดีขึ้น

พร้อมกันนี้ สมาคฯ ได้เสนอให้กรมประมง จัดตั้ง กรอ.กุ้ง คณะกรรมการร่วมมือระหว่างภาคเอกชน โดยมีตัวแทนผู้ผลิตและส่งออก เกษตรกรผู้เลี้ยง และผู้แทนภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ฝ่ายละ 3 คน ร่วมกำหนด นโยบายและวางแผนการทำงานอย่างเป็นระบบเพื่อความความยั่งยืนของอุตสาหกรรมต่อไป

ท้ายสุด ขอยืนยันว่าสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทยและสมาชิกของสมาคมฯ จะร่วมมือร่วมใจ กับเกษตรกรเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมกุ้งเลี้ยงของไทยในระบบ Cluster เพื่อให้มีผลผลิตกุ้งเพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศและส่งออก

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO