ดร.นำกฤติ จีรพุทธิรักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีเอ็นที แคปปิตอล จำกัด เปิดเผยว่า กลุ่มธุรกิจ บริษัท ทีเอ็นที แคปปิตอล จำกัด หรือ TNT Capital ก่อตั้งมาเพื่อมีบทบาทเป็น Venture Capital ที่มีหน้าที่สนับสนุนธุรกิจระดับ SMEs ให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล อีกทั้งยังเป็นการลดช่องว่างระหว่างสถาบันการเงินกับผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งที่ผ่านมา ทางเรามองว่าทางสถาบันการเงินยังมีบทบาทในการพัฒนาผู้ประกอบการไม่เพียงพอ ทั้งด้านการจัดเงินระดมทุน ด้านคำปรึกษาด้านโครงสร้างองค์กร และอื่นๆ เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ ทางเราจึงจัดตั้งให้ TNT Capital ที่มีพร้อมทั้งด้านบริการแหล่งเงินทุน ด้านแหล่งเงินกู้ และคำปรึกษาทางธุรกิจจากผู้ชำนาญการทางด้านการเงินและการบริการจัดการ
ทั้งนี้ TNT Capital ยังให้บริการที่ปรึกษาทางธุรกิจแก่ลูกค้าที่ต้องการคำแนะนำด้านธุรกิจ ทั้งในด้านการปรับปรุงโครงสร้างองค์กร ปรับโครงสร้างแหล่งเงินทุน และการควบรวมกิจการ ซึ่ง TNT Capital มองว่าบริการที่ได้กล่าวมา สามารถปลดล็อกมูลค่าที่แท้จริงของบริษัทลูกค้าได้
นอกจากนั้น TNT Capital ยังเปิดโอกาสให้ลูกค้าของเราที่ต้องการมองหาการลงทุนในธุรกิจเปิดใหม่ เข้าร่วมลงทุนกับทาง TNT Capital ซึ่งนอกเหนือจากผลกำไรที่ได้จากการลงทุนแล้ว ลูกค้ายังสามารถนำบริษัทร่วมลงทุนมาต่อยอด ขยายกิจการเดิมของลูกค้าเองได้อีกด้วย
TNT Capital มีทุนจดทะเบียนเริ่มต้นที่ 10 ล้านบาท มีผู้ถือหุ้นหลักนำโดย โดยมีผู้ถือหุ้นหลักนำโดย คุณศุขสนั่น โชติกเสถียร, ดร.ทนง พิทยะ, คุณศิริวรรณ ปราศจากศัตรู, ดร.นำกฤติ จีรพุทธิรักษ์, คุณณัฐพงศ์ พันธเกียรติไพศาล, คุณภาวนา โชติกเสถียร และคุณปิยะภา จงเสถียร และคาดว่าในปี 2559 จะเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 20 ล้านบาท และ 100 ล้านบาทในปีถัดไป
ทางด้านนายณัฐพงศ์ พันธเกียรติไพศาล หนึ่งในทีมผู้บริหาร บริษัท ทีเอ็นที แคปปิตอล จำกัด กล่าวเสริมว่า จุดเด่นของ TNT Capital คือนโยบายในการลงทุนของ TNT ที่มุ่งเน้นธุรกิจที่สามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่งได้ในอนาคต ซึ่งทาง TNT Capital พร้อมให้คำแนะนำทางกลยุทธ์การแข่งขันจากที่ปรึกษาทางธุรกิจของ TNT Capital อีกทั้งทาง TNT Capital ยังมุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เพื่อเป็นช่องทางการเติบโตของธุรกิจที่ทาง TNT Capital ได้ร่วมลงทุนด้วย
ซึ่งทางผู้บริหารระดับสูงของ TNT Capital มีประสบการณ์ด้านการบริหารธุรกิจ ซึ่งจุดนี้จึงทำให้ทาง TNT Capital แตกต่างจาก Venture Capital ทั่วไปที่มุ่งเน้นแต่ผลกำไรของกองทุนอย่างเดียว ทาง TNT Capital ต้องการให้บริษัทที่ร่วมลงทุนด้วยสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน และมีขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับภูมิภาคได้
และในด้าน Venture Capital ทาง TNT Capital กำลังสนใจกลุ่มธุรกิจที่สามารถเติบโตในอนาคตได้อย่างยั่งยืน ซึ่งธุรกิจด้าน Digital Online ก็เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ทาง TNT Capital มีการติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากทาง TNT Capital มองเห็นศักยภาพของตลาด Digital Online อย่างยิ่ง
"กลุ่มลูกค้าหลักสำหรับบริการที่ปรึกษาที่ทาง TNT Capital มีความสนใจเป็นพิเศษ จะเป็นบริษัทที่ต้องการขยายธุรกิจโดยมีแผนทางธุรกิจในอนาคตที่ชัดเจน หรือบริษัทที่ต้องการปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางธุรกิจเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน" นายณัฐพงศ์ พันธเกียรติไพศาล กล่าวสรุปทิ้งท้าย