นายชุมพล อิศรางกูร ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีเอ็มซี จำกัด (มหาชน) หรือ EMC เปิดเผยว่า จากกรณีที่บริษัทฯได้ดำเนินการเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 6,822 ล้านหุ้นคาดว่าจะสามารถระดมทุนได้ราว 1,580 ล้านบาท บริษัทฯขอยืนยันว่าการดำเนินการเพิ่มทุนดังกล่าวเป็นการขยายฐานทุนของบริษัทฯให้มีความเหมาะสม เพียงพอ และเป็นการเตรียมความพร้อมของเงินทุนเพื่อรองรับงานในอนาคต ในขณะเดียวกันการเพิ่มทุนในครั้งนี้บริษัทฯต้องการให้ผู้ถือหุ้นเดิมได้รับประโยชน์ ด้วยการให้สิทธิกับผู้ถือหุ้นเดิมสามารถจองหุ้นเพิ่มทุนในอัตราส่วนที่กำหนดไว้ 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ได้ในราคา 0.25 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี หรือ P/BV รวมถึงผู้ถือหุ้นเดิมจะได้รับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือ วอแรนต์ EMC-W5 ตามสัดส่วนการถือหุ้นโดยไม่คิดมูลค่า ในอัตราส่วน 2 หุ้นสามัญใหม่ที่จองซื้อหุ้นเพิ่มทุน ต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ EMC-W5 ในราคาใช้สิทธิเท่ากับ 0.25 บาทต่อหุ้น และที่สำคัญที่สุดเมื่อโครงการ และการรับงานต่าง ๆ ของบริษัทฯดำเนินไปตามเป้าหมายที่วางไว้ก็จะเป็นโอกาสที่ผู้ถือหุ้นเดิมจะได้รับผลตอบแทนในอนาคตอีกด้วย
โดยเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนดังกล่าวบริษัทฯจะนำมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ทั้งโครงการที่อยู่ในระหว่างพัฒนา เช่น โครงการแลนด์มาร์ค มหาชัย รวมถึงเพื่อรองรับการเข้าประมูล หรือรับงานโครงการรับเหมาก่อสร้างใหม่ ๆ ทั้งโครงการขนาดกลางจนถึงโครงการขนาดใหญ่ ทั้งทางภาครัฐ และเอกชน ที่เริ่มมีการทยอยอนุมัติโครงการต่าง ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และเมกะโปรเจกต์ต่าง ๆ ซึ่งบริษัทฯมีโอกาสในการที่จะเข้าไปรับงานดังกล่าวในหลายโครงการ ซึ่งในบางโครงการก็มีความคืบหน้าไปมากแล้ว โดยเงินทุนดังกล่าวจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือทางด้านฐานะการเงินของบริษัทฯ อีกด้วย
'เราต้องการที่จะบอกไปยังผู้ถือหุ้นถึงการเพิ่มทุนครั้งนี้ว่า เป็นการเพิ่มทุนที่เรามีแผนธุรกิจรองรับชัดเจน ไม่ใช่การเพิ่มทุนโดยที่ไม่รู้จะนำไปทำอะไร หรือนำไปใช้โดยที่ไม่เกิดประโยชน์กับผู้ถือหุ้น ซึ่งจะเห็นได้จากโครงการ รวมถึงการทยอยรับงานต่าง ๆ ที่จะมีให้เห็นอย่างต่อเนื่องหลังจากนี้ ที่สำคัญเราอยากจะสร้างโอกาสในการได้รับผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นเดิมในอนาคตอีกด้วย ส่วนหนึ่งเพราะเราอยากให้บริษัทฯเติบโตไปด้วยตัวเอง ไม่อยากแบกรับภาระดอกเบี้ยทางการเงิน รวมถึงเป็นโอกาสที่จะได้ทำงานเพื่อสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นอีกด้วย' นายชุมพลกล่าว