"ปัจจุบัน คนไทยยังบริโภคไข่อยู่ที่ประมาณ 220 ฟองต่อคนต่อปี ซึ่งถือเป็นปริมาณค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว เช่น สิงคโปร์ หรือญี่ปุ่น ที่รับประทานไข่ในปริมาณ 300-350 ฟองต่อคนต่อปี ในขณะที่ ไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการผลิตไข่สูงเป็นอันดับสองในภูมิภาคอาเซียน เนื่องจาก ยังมีข้อมูล โดยเฉพาะจากโซเชียลมีเดียที่ยังสร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนและความกังวลให้กับผู้บริโภค เกี่ยวกับคอเรสเตอรอลและไขมันในไข่ การจัดประชุมในปีนี้ จึงต้องการเผยแพร่งานวิจัยและความรู้ทางวิชาการที่ช่วยยืนยันให้ประชาชนได้มั่นใจในประโยชน์ของไข่และหันมาบริโภคไข่เพิ่มขึ้น " น.สพ.ศักดิ์ชัย กล่าว
สมาคมฯ จัดงานประชุมทางวิชาการเป็นประจำทุกปี เพื่อเผยแพร่ความรู้และผลงานทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ปีก เป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมสัตว์ปีกและร่วมสร้างคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้น โดยปีนี้สมาคมฯ จัดสัมมนาทางวิชาการภายใต้หัวข้อ "มัน มันส์ กับสุขภาพ" ขึ้น เพื่อเชิญนักวิชาการและนักวิจัยมาแบ่งปันความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับคอเรสเตอรอลและไขมัน เพื่อมีส่วนช่วยผลักดันให้คนไทยหันมารับประทานไข่กันมากขึ้น โดยมุ่งหวังให้คนไทยบริโภคไข่300 ฟองต่อคนต่อปีภายใน 2-3 ปีข้างหน้า
ด้าน น.สพ.มงคล แก้วสุทัศน์ กรรมการบริหารสมาคมฯ กล่าวเสริมว่า ไข่เป็นอาหารสำหรับคนทุกเพศทุกวัย สำหรับผู้ที่มีสุขภาพปกติสามารถรับประทานไข่ได้วันละ 1-2 ฟองได้ เพราะไข่มีคุณค่าทางอาหาร เป็นแหล่งโปรตีน รวมถึงแร่ธาตุสำคัญและจำเป็นต่อร่างกายหลายตัว เช่น เซเรเนียม (Selenium) ที่ช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ ช่วยชะลอวัย และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ ไข่ยังเป็นแหล่งDHA และ EPA ที่ช่วยป้องกันโรคสมาธิสั้นในเด็ก ลดความเสี่ยงการเป็นโรคไขมันในหลอดเลือด อีกด้วย นอกจากนี้ ในปัจจุบัน กระแสผู้บริโภคทั่วโลกให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น จึงมีแนวโน้มต้องการบริโภคไข่ ที่เรียกว่าFunctional Egg มากขึ้น Functional Egg เป็นไข่ที่เพิ่มแร่ธาตุพิเศษ เช่น ไข่เสริมโอเมก้า 3 ไข่เสริมไอโอดีน ไข่เสริม DHA เป็นต้น ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับไข่ และเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคที่สนใจดูแลเรื่องสุขภาพอีกทางหนึ่งด้วย