นายธีรภัทร กล่าวต่อไปว่า การลงพื้นที่ตรวจสอบที่ศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบของสหกรณ์โคนมมวกเหล็ก เพื่อตรวจเยี่ยมกิจการและระบบตรวจสอบคุณภาพน้ำนมดิบของศูน์ฯ ที่รับซื้อจากเกษตรกรสมาชิก และการตรวจสอบโรงงานแปรรูปนมพาสเจอร์ไรส์ และ ยู.เอส.ที. ของสหกรณ์โคนมมวกเหล็ก และโรงงานแปรรูปนมพาสเจอร์ไรส์ และ ยู.เอส.ที. ของบริษัท คันทรีเฟรซแดรี่ จำกัด เพื่อตรวจเยี่ยมกิจการ และระบบคุณภาพในกระบวนการผลิตนมโรงเรียนนั้น ถือว่ามีความพึงพอใจ เนื่องจากโรงงานมีการดำเนินงานถูกต้องตามขั้นตอน จึงค่อนข้างมีประสิทธิภาพ และทำให้นมโรงเรียนมีคุณภาพ ตรงตามมาตรฐานที่กำหนด โดยจะยึดเป็นมาตรฐานในการสุ่มตรวจโรงงานแห่งอื่นๆ ต่อไป ซึ่งได้มอบหมายให้ อ.ส.ค. ประสานกับกรมปศุสัตว์ และ อย. ในการสุ่มตรวจโรงงานแปรรูปแห่งอื่น ๆ ซึ่งการลงไปตรวจสอบนั้นจะเป็นการสุ่มตรวจโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า หากพบโรงงานที่ไม่ได้มาตรฐานก็จะมีการดำเนินการตามขั้นตอน และมีบทลงโทษต่อไป
นอกจากนี้ จะส่งเสริมให้มีการประเมินด้วยว่า นมโรงเรียนนั้นมีประสิทธิภาพมากแค่ไหน โดยจะมีการวัดจากพัฒนาของเด็กทั้งในเรื่องของการเจริญเติบโตและทางด้านสติปัญญา เป็นต้น ทั้งนี้ จำนวนเด็กนักเรียนที่อยู่ในโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน มีทั้งสิ้นจำนวน 7,668,487 คน ซึ่งเด็กนักเรียนต้องดื่มนมวันละ 200 มล./คน ดังนั้น ต้องใช้ปริมาณน้ำนมวันละ 1,564.99 ตัน