นายมาร์ติน รูแอค กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมในครึ่งปีแรกเป็นที่น่าพอใจแม้ว่าตลาดมีการชะลอตัวและเกิดการแข่งขันกันสูง จากภาพรวมธุรกิจประกันภัยครึ่งแรกปี 2558 (ม.ค.–มิ.ย.) มีเบี้ยประกันวินาศภัยรับรวมทั้งสิ้น 103,017 ล้านบาท ขยายตัว 1.26 % ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านี้ถือว่าเรามีอัตราการเติบโตที่มากกว่า
แม้ว่าเบี้ยประกันวินาศภัยในตลาดที่มีเบี้ยรับสูงที่สุดยังคงเป็น ประกันภัยรถยนต์ จำนวน 59,809 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตที่ต่ำกว่าตลาด 0.90 % เนื่องจากตลาดรถยนต์มีการชะลอตัวลง ทั้งนี้ นายมาร์ติน เชื่อว่า แนวโน้มนี้จะเป็นไปในระยะยาว ทำให้บริษัทหันมามุ่งขยายตลาดทางด้านไลฟสไตล์และมุ่งหาช่องทางใหม่ ๆ
ผลประกอบการของแอกซ่าในช่วงครึ่งปีแรก :
- ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2558 นั้น แอกซ่ามีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงประมาณ 1.7 พันล้านบาท เติบโต 9.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา จัดอยู่ในอันดับที่ 18 ของอุตสาหกรรมประกันวินาศภัย
- ช่องทางการขายออนไลน์เติบโตกว่า 48% สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค
- เบี้ยประกันภัยรถยนต์ (Motor Insurance) มีเบี้ยรับอยู่ที่ 803 ล้านบาท ส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 1.34% ของตลาดประกันภัยภัยรถยนต์ทั้งหมด
- ประกันภัยทั่วไป (Non Motor Insurance) มีเบี้ยรับอยู่ที่ 817 ล้านบาท ส่วนแบ่งการตลาดที่ 1.89%
- ประกันอัคคีภัย (Fire Insurance) มีเบี้ยรับอยู่ที่ 74 ล้าน 1.34%
- ประกันประกันภัยขนส่งสินค้าทางทะเล (Marine Insurance) 88 ล้านบาท ส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 3.2% และสุดท้ายประกันภัยเบ็ดเตล็ด (Miscellaneous Insurance) 654 ล้านบาท ส่วนแบ่งที่ 1.88%
นายมาร์ติน กล่าวเพิ่มเติมถึงตลาดประกันวินาศภัยในช่วงครึ่งปีหลังว่าน่าจะมีสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้น ประกอบกับปัจจัยบวกที่ภาครัฐมีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ รวมทั้งภาคธุรกิจต่าง ๆ ออกมากระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของภาคประชาชน ซึ่งบริษัทฯ เองก็มีแผนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่เจาะกลุ่มตลาดไลฟสไตล์อีกด้วย
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แอกซ่าประกันภัย ได้มีการเปิดตัวกรมธรรมสมาร์ทคอนโด ประกันภัยที่มุ่งการคุ้มครองด้านอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์ตัวแรกในประเทศไทยที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการเติบโตของตลาดอาคารชุดหรือคอนโดมิเนียม โดยจากการประเมินของสมาคมอาคารอสังหาริมทรัพย์ไทยคาดว่าตลาดคอนโดปี 2558 นี้จะมียอดขายรวม 1.48 แสนล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีก่อน 4%
"สมาร์ทคอนโดถือเป็นผลิตภัณฑ์ตัวแรกที่มุ่งเจาะกลุ่มตลาดคนรุ่นใหม่ หรือ Gen Y ที่มีไลฟ์สไตล์ชอบความสะดวก รวดเร็ว นิยมแชร์ประสบการณ์ผ่านโลกออนไลน์ ซึ่งกลุ่มนี้ยังถือได้ว่าเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในการซื้อที่ดีและเป็นกลุ่มที่มีขนาใหญ่ที่สุด โดยเราได้ทำการออกแบบผลิตภัณฑ์และเปิดช่องทางการขายที่เหมาะกับพฤติกรรมของกลุ่ม Gen Y ด้วยการเปิดตัวกรมธรรม์ แอกซ่า สมาร์ท คอนโด ที่สามารถซื้อง่าย ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ มอบความคุ้มครองภัยทุกชนิดที่เกิดความเสียหายทั้งทรัพย์สินในอาคารและตัวอาคารพร้อมกันในกรมธรรม์เดียว เบี้ยประกันภัยเริ่มต้นเพียง 2,256 บาทต่อปี และทุนประกันภัยเริ่มต้นที่ 1 ล้านบาท ซึ่งหลังจากที่เปิดตัวกรมธรรม์ สมาร์ท คอนโด ไปแล้วคาดว่าจะสามารถเพิ่มประกันสัดส่วนของคอนโดมิเนียมได้มากกว่า 20-30% หรือ คิดเป็น 10% ของพอร์ตทั้งหมด"
นอกจากนี้กรรมการผู้อำนวยการ แอกซ่าประกันภัย ยังกล่าวถึงสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทยว่า แม้ยังมีปัจจัยด้านลบจากในประเทศเอง และสภาวะการณ์ของเศรษฐกิจทั่วโลกที่ส่งผลต่อสภาพเศรษฐกิจของไทยเกิดการชะลอตัวและชะงักไปบ้างในช่วงที่ผ่านมา แต่กลุ่มแอกซ่าซึ่งเป็นบริษัทแม่ยังคงมั่นใจในการลงทุนในเอเชีย และถือได้ว่าการเปิด AEC คือโอกาสสำคัญที่ขยายฐานลูกค้ากลุ่มผู้บริโภคจาก 65 ล้านคนสู่ 600 ล้านคน โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านกลุ่ม CLMV คือ กัมพูชา สปป.ลาว พม่า และเวียดนาม ที่มีชายแดนติดกับประเทศไทยและมีความคุ้นเคยกับสินค้าของประเทศไทยเป็นอย่างดี
รัฐบาลไทยให้การสนับสนุนที่ดีในการผลักดันด้านต่าง ๆ เพื่อการเข้าสู่ AEC โดยเฉพาะประเทศในกลุ่ม CLMV ยกตัวอย่างเช่น ในส่วนของประกันสุขภาพเนื่องมาจากการที่รัฐบาลวางยุทธศาสตร์ผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลาง "ฮับ" (Medical Hub) ด้านการรักษาพยาบาลในเอเชียก็ส่งผลดีต่อธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องหลายอย่างรวมถึงประกันสุขภาพ เพราะในบางประเทศ เช่น สปป.ลาว ไม่มีประกันสุขภาพ
"แอกซ่าเองเรามองเห็นโอกาสนี้ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ CLMV ล่าสุดเราได้ร่วมมือกับพันธมิตรใน สปป. ลาวเพื่อขยายพื้นที่ความคุ้มครองเพิ่มความอุ่นใจให้กับผู้ใช้รถยนต์อีกขั้น และในอนาคตแอกซ่าเองก็มุ่งที่จะขยายการเติบโตของประกันสุขภาพให้ก้าวเข้าไปสู่ Top 5 ของตลาดประกันวินาศภัย"
นอกจากนั้นในปีนี้แอกซ่ายังได้มีการเปิดตัวลูกค้าสัมพันธ์ AXA Call Center อย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นศูนย์กลางข้อมูลของลูกค้าและตัวแทน และยังได้เปิดตัวสาขาใหม่เพิ่มอีก 2 สาขาในจังหวัดนครปฐม และฉะเชิงเทรา จากเดิม 17 สาขา เพื่อรอบรับการขยายตัวของฐานลูกค้าด้วยการบริการที่รวดเร็วและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
ด้วยพันธกิจที่ยึดมั่นต่อพันธะสัญญาของกลุ่มแอกซ่าอย่างเคร่งครัด และได้แผ่ขยายความรับผิดชอบไปสู่ลูกค้า หุ้นส่วนธุรกิจ ผู้ถือหุ้น พนักงาน ไปจนกระทั่งชุมชน และสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังมุ่งออกแบบผลิตภัณฑ์โดยคำนึงถึงหลัก Customer Centric ซึ่งสามารถการันตีได้ด้วยการเป็นแบรนด์ประกันภัยอันดับ 1 ต่อเนื่องกันเป็นเวลาถึง 6 ปีซ้อน ถือเป็นสิ่งที่พิสูจน์ความแข็งแกร่งตอกย้ำความเป็นผู้นำระดับโลกและตัวจริงในตลาดประกันภัยไทยได้เป็นอย่างดี ด้วยศักยภาพเหล่านี้จึงเชื่อว่าจะผลักดันให้ถึงเป้าหมายตามที่บริษัทตั้งไว้ คาดว่าผลประกอบสิ้นปีนี้ จะเติบโตเหนือกว่าการเติบโตของตลาดประกันวินาศภัยอย่างแน่นอน" นายมาร์ติน กล่าวทิ้งท้าย