นายนพเดช กรรณสูต กล่าวว่า "บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ (แหลมฉบัง) จำกัด ตระหนักและเห็นความสำคัญของป่าชายเลนแห่งนี้ จึงได้จัดกิจกรรมนี้ขึ้น เพื่ออบรมให้ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมระบบนิเวศป่าชายเลนแก่ชุมชนและเยาวชน ให้เข้าใจถึงธรรมชาติในการอยู่ร่วมกัน อาศัยพึ่งพากันโดยธรรมชาติ เพื่อให้ชุมชน และเยาวชนที่อยู่บริเวณรอบป่าชายเลนมีความรู้ และความเข้าใจในพื้นที่ และนำมาศึกษาปรับปรุงป่าชายเลนแหลมฉบังแห่งนี้ ให้ความความอุดมสมบรูณ์ และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ชุมชนแหลมฉบังต่อไปในอนาคต ซึ่งในปีนี้จอกจากการจัดอบรมทางวิชาการ และภาคสนามแล้ว ยังได้จัดนำชุมชนและเยาวชนทัศนศึกษาแหล่งธรรมชาติอื่น ได้แก่ โครงการพระราชดำริแหลมผักเบี้ย จังหวดเพชรบุรี ซึ่งเป็นป่าชายเลนที่อุดมสมบรูณ์และเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ดีที่สุด ของจังหวัดเพชรบุรี โดยเฉพาะโครงการฯ แหลมผักเบี้ย มีระบบบำบัดน้ำเสียให้ช่วยธรรมชาติ ตามพระราชดำริ แห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
ชุมชนบ้านแหลมฉบังเป็นชุมชนที่มีวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ที่ยาวนาน และเป็นชุมชนที่ถูกล้อมรอบด้วยภาคอุตสาหกรรม แต่ภายในชุมชนยังคงเหลือทรัพยากรทางธรรมชาติที่มีคุณค่า คือ ป่าชายเลน จำนวน 48 ไร่ หลังจากมีการเวนคืนพื้นที่ชุมชนบ้านแหลมฉบัง ส่งผลกระทบให้มีพื้นที่ป่าชายเลนถูกบุกรุก เสียหายอยู่ในสภาพที่เสื่อมโทรม ปี พ.ศ.2547 มีแกนนำชุมชนรวมกลุ่มเยาวชนและบุคคลในพื้นที่ช่วยกันฟื้นฟูสภาพป่าชายเลนจนเริ่มมีสภาพที่อุดมสมบรูณ์ ปัจจุบันมีการรวมกลุ่มชมชุนอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมป่าชายเลนบ้านแหลมฉบังเป็นเยาวชนและบุคคลในชุมชนบ้านแหลมฉบัง ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกรวมกันจำนวน 70 คน