นายแดน ฮาร์โซโน่ ประธานกลุ่มธุรกิจลูกค้ารายย่อย และลูกค้าบุคคล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า "ดิจิตอลแบงก์กิ้งนับเป็นช่องทางให้บริการที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยในส่วนของธนาคารยอดการทำธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิตอลแบงก์กิ้งเติบโตถึงปีละ 30% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะเติบโตสูงถึง 40% ในปีนี้ สะท้อนถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการทำธุรกรรมการเงินด้วยตนเอง ทุกที่ ทุกเวลา ธนาคารจึงให้ความสำคัญกับการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาช่องทางออนไลน์ ให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ภายใต้กลยุทธ์ Omni-channel strategy ซึ่งมุ่งผสานช่องทางในการให้บริการไม่ว่าจะเป็นสาขา เอทีเอ็ม ออนไลน์ ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและสร้างประสบการณ์เดียวกันในการรับบริการของลูกค้าจากทุกช่องทาง"
"นับเป็นก้าวแรกในเอเชียที่กรุงศรีออนไลน์ใหม่ใช้ลูกค้าเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาและออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ "Full-function internet banking" ตอบสนองต่อความต้องการและการใช้งานของ 4 กลุ่มลูกค้าหลัก คือ ลูกค้ารายย่อย ลูกค้ากรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ ลูกค้า SME และลูกค้าที่เป็นบริษัทขนาดใหญ่ โดยมีหน้าเว็บไซต์ที่สวยงาม ปรับรูปแบบให้ใช้งานง่าย สามารถรองรับทุกอุปกรณ์การใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ โน้ตบุ๊ค แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟน ด้วยหน้าเว็บแบบ responsive ที่ปรับขนาดโดยอัตโนมัติให้พอดีกับทุกหน้าจอของการใช้งาน ครอบคลุมทุกผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่นำเสนอโดยธนาคารและบริษัทในเครือ โดยมีจุดเด่น อยู่ที่ลูกค้าของบริษัทในเครือกรุงศรีสามารถใช้บริการกรุงศรีออนไลน์ได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องมีบัญชีธนาคาร" นายแดน กล่าว
กรุงศรีออนไลน์ยังใช้เทคโนโลยี Single Sign-On (SSO) ที่ผู้ใช้งานจดจำเพียงรหัสประจำตัวเดียวแต่สามารถใช้งานได้ทุกช่องทางทั้งอินเทอร์เน็ต แบงก์กิ้ง และโมบาย แอพพลิเคชั่น และไม่ว่าจะเข้าใช้งานผ่านช่องทางใดระบบจะเชื่อมต่อกันเป็นหนึ่งเดียว
สำหรับในปีนี้ ธนาคารคาดว่าจะมีผู้ใช้งานผ่านกรุงศรีออนไลน์ และกรุงศรีออนไลน์แอพ รวมกว่า 2 ล้านราย ซึ่งจะทำให้มียอดผู้ใช้งานโตขึ้น 42% มียอดการทำรายการมากกว่า 120 ล้านรายการ โตขึ้น 30%จากปี 2014 และมียอดการทำธุรกรรมมากกว่า 400,000 ล้านบาทต่อปี โตขึ้น 40% จากปีก่อน