นายทฤษฎี ตุลยอนุกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีลอร์ ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเลนส์แว่นตาอันดับหนึ่งของโลกจากฝรั่งเศส เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีผู้คนกว่า 1.5 พันล้านคนทั่วโลก ใช้สมาร์ทโฟนทุกวัน และ 9 ใน 10 ของคนกลุ่มนี้ ใช้เวลาอยู่กับอุปกรณ์ที่มีหน้าจอดิจิตอลมาแล้วนานกว่า 2 ปี ทำให้ทุกวันนี้ผู้คนส่วนใหญ่ใช้เวลาไปกับการจ้องมองหน้าจอดิจิตอลต่างๆ อาทิ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ ทีวี นาฬิกาอัจฉริยะ เป็นอย่างมาก ทำให้ดวงตาไม่ได้หยุดพัก จากผลงานวิจัยชี้ชัดว่า คนส่วนใหญ่ใช้เวลา 7 ชั่วโมงต่อวันสำหรับการจ้องมองหน้าจอดิจิตอลต่างๆ และ 2.30 ชั่วโมงสำหรับจ้องมองสมาร์ทโฟนเพียงอย่างเดียว ทำให้ 7 ใน 10 คนมีอาการเมื่อยล้าจากการใช้ดวงตาอย่างชัดเจน เพราะดวงตาได้รับผลกระทบจากแสงสีน้ำเงินที่เป็นอันตรายจากอุปกรณ์ดิจิตอลต่างๆเหล่านี้ ส่วน 2 ใน 3 คนนั้น ต้องใช้เวลามากขึ้นในการแพ่งหน้าจอที่มีตัวอักษรเล็กมาก
" จากการทุ่มเทค้นคว้าวิจัยทางวิทยาศาสตร์กว่า 4 ปี ทำให้ได้ เลนส์แว่นตา ครีซอล อายเซน ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุด ที่ออกแบบมาสำหรับแก้ปัญหาต่างๆดังที่กล่าวมา โดยจะรวม 3 เทคโนโลยีไว้ในเลนส์เดียว คือ Light Scan® ทำหน้าที่ป้องกันอันตรายจากแสงสีน้ำเงินในหน้าจอดิจิตอลต่างๆ EyezenTM Focus ทำให้มองอักษรเล็กๆได้อย่างสบายตา และเพิ่มความผ่อนคลาย W.A.V.E. Technology ที่ให้ความคมชัดเหนือกว่าเลนส์ทั่วไปที่จำหน่ายอยู่ในท้องตลาดปัจจุบัน ทำให้ได้รับรางวัลเหรียญทอง ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับนวัตกรรมใหม่อันทรงคุณค่าในวงการแว่นตาและเลนส์ จากงาน Silmo ปารีส ประเทศฝรั่งเศส ทั้งนี้ ครีซอล อายเซน มีทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกันได้แก่ EyezenTM Plus 0.4 สำหรับวัยหนุ่มสาวที่มีอายุระหว่าง 20-29 ปี EyezenTM Pro 0.6 สำหรับช่วงก่อนวัยผู้ใหญ่ อายุระหว่าง 30-39 ปี และ EyezenTM Max 0.85 สำหรับช่วงเริ่มต้นของวัยผู้ใหญ่ ที่มีอายุระหว่าง 40-45 ปี มีจำหน่ายแล้วในประเทศไทย ตามร้านแว่นตาชั้นนำต่างๆ ทั่วประเทศ " นายทฤษฎี กล่าว
ทั้งนี้ สำหรับกลุ่มบริษัทเอสซีลอร์ (Essilor Group) ถือเป็นผู้นำอันดับหนึ่งของวงการอุตสาหกรรมเลนส์แว่นตาระดับโลก มีชื่อเสียงในการพัฒนาและผลิตเลนส์แว่นตาคุณภาพสูง รวมถึงอุปกรณ์ทางด้านตรวจวัดสายตา ในแต่ละปี เอสซีลอร์ มีการลงทุนในด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มากถึง 180 ล้านยูโรต่อปี โดยมีทีมนักวิจัยกว่า 550 คนทั่วโลก ส่งผลให้เอสซีลอร์สามารถคิดค้นเลนส์แว่นตาแบบใหม่ๆ ที่มีคุณสมบัติโดดเด่น เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบันออกมาสู่ท้องตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เทคโนโลยีการผลิตที่เป็นสิทธิบัตรเฉพาะของเอสซีลอร์ ทั้งเลนส์แว่นตาชั้นเดียว (Single Vision Lens) และเลนส์แว่นตาหลายชั้นไร้รอยต่อ (Progressive Lens) และในปี 2015 นี้ กลุ่มบริษัทเอสซีลอร์ ยังได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน Top 100 บริษัทที่มีนวัตกรรมดีเด่นถึง 5 ปีซ้อน จากนิตยสาร ฟอร์บ เอสซีลอร์ ยังมีบริษัทในเครือกระจายอยู่ทั่วโลกกว่า 30 ประเทศ และมีตัวแทนอีกกว่า 100 ประเทศ รวมถึงประเทศไทย โดยมีศูนย์กลางการผลิตอยู่ในยุโรป อเมริกาเหนือ อเมริกากลาง และเอเชีย
สอบถามข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ www.essilor.co.th/crizal-eyezen