บล.เออีซีมองหุ้นอสังหาฯกลับมาคึก! หลังรัฐงัดมาตรการกระตุ้นแนะซื้อ PS-LPN ได้รับอานิสงส์เต็มๆ P/E แค่ 9 เท่า ปันผลงาม

จันทร์ ๑๙ ตุลาคม ๒๐๑๕ ๑๑:๐๔
บล.เออีซี มองแนวโน้มหุ้นอสังหาฯกลับมาคึก รับอานิสงส์รัฐออกมาตรการกระตุ้น กระตุ้นยอดโอน แนะ "ซื้อ" PS-LPN ได้รับประโยชน์เต็มๆ P/E แค่ 9 เท่า จ่ายปันผลสูงถึง 4.5% เตือนผู้ประกอบการขนาดกลาง-เล็ก เสี่ยงถูกหั่นเครดิต หลังออกไปบุกตลาดภูธร ยอดโอนมีโอกาสพลาดเป้า! ราคาสินค้าเกษตรปรับตัวลดลง กดดันกำลังซื้อผู้บริโภค

นายเกรียงไกร ทำนุทัศน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) (AECS) เปิดเผยว่า มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่กระทรวงการคลัง เพิ่งประกาศออกมาเมื่อเร็วๆนี้ ถือเป็น Sentiment เชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โดยหุ้นที่ได้รับผลประโยชน์จากมาตรการดังกล่าวมากที่สุด ได้แก่ PS - LPN เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีราคาขายเฉลี่ยบ้านและคอนโดมิเนียมที่ 2.7 ล้านบาท และ 1.2 ล้านบาทต่อยูนิต ตามลำดับ ประกอบกับทั้ง 2 บริษัท ปัจจุบันซื้อขายด้วยระดับมูลค่า P/E ที่ 9 เท่า และมีการจ่ายปันผลที่ระดับ 4.5% แนะนำ Trading Buy

สำหรับมาตรการกระตุ้นอสังหาฯที่ประกาศอออกมาประกอบด้วย การผ่อนปรนหลักเกณฑ์อนุมัติสินเชื่อของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สำหรับผู้มีรายได้ไม่ถึง 30,000 บาท/เดือน โดยตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อรวม 1 หมื่นล้านบาท การลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองเหลือ 0.01% สำหรับผู้ที่มีการโอนกรรมสิทธ์ในช่วงระยะเวลา 6 เดือนข้างหน้า และสิทธิลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ซื้อบ้านหลังแรกมูลค่าไม่เกิน 3 ล้านบาทสามารถนำมูลค่า 4% ของราคาบ้านมาลดหย่อนภาษีเป็นระยะเวลา 5 ปี ภายใต้เงื่อนไขว่าการโอนกรรมสิทธิ์ต้องเกิดก่อนสินปี 2559 และผู้ซื้อจะต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธ์เป็นระยะเวลา 5ปี

"ถือเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยในเรื่องของกระตุ้นการโอน รวมทั้งช่วยเหลือผู้ซื้อบ้านที่มีรายได้ต่ำ และลดความเสี่ยงอุปทานส่วนเกินของกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะบ้านและที่ดิน และคอนโดมิเนียมที่มีโครงการที่กำลังจะเสร็จเป็นจำนวนมากในช่วง ปี 2558-2559" นายเกรียงไกร กล่าว

อย่างไรก็ตาม ภาคธุรกิจอสังหาฯ จะฟื้นตัวได้อย่างยั่งยืนได้จะต้องมีปัจจัยผลักดันจากโครงการลงทุนภาครัฐที่มากขึ้น อาทิ โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายต่างๆ หรือโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ที่เพียงพอ เนื่องจากทำเลที่ตั้งของที่อยู่อาศัยเป็นปัจจัยสำคัญต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคในปัจจุบัน

"มีบ้านและคอนโดมิเนียมในต่างจังหวัดที่ก่อสร้างเสร็จแล้ว และกำลังจะแล้วเสร็จเป็นจำนวนมาก ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะสามารถช่วยกระตุ้นการโอนได้ในส่วนหนึ่ง แต่ถ้าหากทำเลไม่ดี เช่น การคมนาคมไม่สะดวกจะมีผลต่อการตัดสินซื้อของผู้บริโภค ขณะที่โครงการบ้าน และคอนโดฯ ตามแนวรถไฟฟ้า ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะจะเห็นได้ว่าเปิดตัวโครงการออกมามักจะขายได้หมด"นายเกรียงไกรกล่าว

สำหรับภาพรวมธุรกิจอสังหาฯ ยังมีความแตกต่างกันระหว่างผู้ประกอบการรายเล็กและรายใหญ่ โดยผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กมีความเสี่ยงคือ ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น มีการขยายธุรกิจในต่างจังหวัดเป็นสัดส่วนสูง ในขณะที่การโอนมีแนวโน้มชะลอตัวลง เนื่องจากรายได้ภาคการเกษตรปรับลดลง ส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค และอาจเผชิญกับความเสี่ยง เรื่องอันดับเครดิตในปี 2559 กรณีที่การโอนไม่เป็นไปตามเป้า

ส่วนผู้ประกอบการรายใหญ่ยังมีสถานการณ์เงินที่เข้มแข็ง แต่อยู่ในภาวะชะลอตัวการเปิดโครงการใหม่ เนื่องจากรอความชัดเจนของโครงการลงทุนภาครัฐ ซึ่งในกรณีที่การลงทุนภาครัฐชะลอตัวจะส่งผลความเสี่ยงยอดขายใหม่ที่อาจต่ำกว่าที่คาด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ