ไทยพาณิชย์ประกาศผลกำไรไตรมาสที่ 3/2558 จำนวน 9 พันล้านบาท ผลกำไรลดลงเนื่องมาจากการตั้งสำรองที่เพิ่มสูงขึ้น

อังคาร ๒๐ ตุลาคม ๒๐๑๕ ๐๙:๒๘
ธนาคารไทยพาณิชย์ประกาศผลกำไร (ก่อนสอบทาน) ประจำไตรมาสที่ 3/2558 จำนวน 9,018 ล้านบาท – ลดลงประมาณ 32% จากไตรมาสที่ 3/2557 ซึ่งกำไรที่ลดลงนี้เป็นผลมาจากการการตั้งสำรองที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเพื่อรองรับผลกระทบจากลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่จำนวน 2 ราย (บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ SSI และ บริษัทลูกในประเทศอังกฤษซึ่งอยู่ระหว่างการพิทักษ์ทรัพย์ คือบริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี ประเทศอังกฤษ หรือ SSI UK) ซึ่งถูกจัดชั้นเป็นสินเชื่อด้อยคุณภาพในไตรมาสที่ 3/2558 รวมถึงรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ลดลงจากการปรับรายการดอกเบี้ยค้างรับที่รับรู้เป็นรายได้แล้วจากลูกค้าทั้งสองรายดังกล่าว ทั้งนี้ ผลกำไรที่ลดลงในครั้งนี้ได้รับการทดแทนด้วยกำไรจำนวนมากจากการขายหุ้นสามัญในพอร์ตการลงทุนของธนาคารฯ ซึ่งหากไม่คิดรวมผลกระทบจาก SSI และ SSI-UK ธนาคารฯ จะมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) ในระดับเดียวกันกับในปีที่ผ่านมา ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย (Non-NII) มีอัตราการเพิ่มขึ้นปานกลาง

นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและรองประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวถึงผลประกอบการในไตรมาสนี้ว่า "ผลกำไรที่ลดลงในครั้งนี้เกิดจากการที่ธนาคารฯ ดำเนินการตั้งสำรองเต็มจำนวนเพื่อรองรับผลกระทบจากสถานการณ์ของ SSI ซึ่งธนาคารฯ เห็นว่าเป็นหลักการที่รอบคอบและระมัดระวังอย่างดีที่สุดเมื่อคำนึงถึงสถานะของ SSI และ SSI-UK ทั้งนี้ ภาวะความผันผวนอย่างรุนแรงของอุตสาหกรรมเหล็กโลกในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาอยู่ในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และเป็นเรื่องที่เกินการคาดหมาย ในขณะที่ SSI เข้าซื้อกิจการโรงถลุงเหล็กประเทศอังกฤษในปี 2554 อย่างไรก็ตาม สำหรับในอนาคตนั้น คณะกรรมการและผู้บริหารของธนาคารฯ มีความเชื่อมั่นว่าโครงการการปรับปรุงเพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้าที่ธนาคารฯ กำลังดำเนินการอยู่เพื่อยกระดับประสิทธิภาพธุรกิจพื้นฐานของธนาคารฯ จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับความสามารถในการทำกำไรในอนาคตได้ดียิ่งขึ้นและสร้างความยั่งยืนให้กับธนาคารต่อไป"

รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ ลดลง 3.7% ในไตรมาสนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว รายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ลดลงมีสาเหตุหลักมาจากการปรับรายการดอกเบี้ยค้างรับที่รับรู้เป็นรายได้แล้วของ SSI และ SSI-UK และจากรายได้ดอกเบี้ยจากสินเชื่อระหว่างธนาคารและตลาดเงินที่ลดลง รายได้ที่ลดลงในครั้งนี้บางส่วนได้รับการชดเชยด้วยรายจ่ายดอกเบี้ยเงินฝากที่ลดลง ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มของตลาดและกลยุทธ์ของธนาคารฯ ในการลดค่าใช้จ่ายทางด้านเงินฝากเมื่อเทียบกับธนาคารอื่นๆ หากไม่คิดรวมผลกระทบจาก SSI และ SSI-UK ธนาคารฯ จะมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิในระดับเดียวกับในปีที่ผ่านมา

รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย เพิ่มขึ้น 75.3% ในไตรมาสนี้ จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา เหตุผลหลักเนื่องมาจากการรับรู้รายได้จากการขายหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงมาก เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้ ธนาคารฯ ได้ขายหุ้นสามัญจากพอร์ตการลงทุนของธนาคารฯ ออกไป และรับรู้เป็นกำไรจำนวน 7,700 ล้านบาท หากไม่รวมกำไรจำนวนนี้ รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยในไตรมาสนี้จะเพิ่มขึ้นโดยพอประมาณที่ 5.1% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ในช่วงก่อนหน้าของปีนี้ ธนาคารฯ ได้มีการทบทวนปรับอัตราการกันสำรองหนี้สงสัยจะสูญสำหรับครึ่งปีหลังของปี 2558 ไว้ที่ประมาณ 100-110 bps (หรือประมาณ 1-1.1%) ของยอดสินเชื่อคงค้างทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการคาดการณ์ถึงเศรษฐกิจของประเทศไทยที่ชะลอตัวท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่มีความไม่แน่นอน ซึ่งอาจทำให้สินเชื่อด้อยคุณภาพใหม่เกิดขึ้นสูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสนี้ หลังจากการปิดตัวลงของ SSI-UK และต้องอยู่ภายใต้คำสั่งพิทักษ์ทรัพย์นั้น ทำให้ SSI-UK กลายเป็นสินเชื่อด้อยคุณภาพ และหลักทรัพย์ค้ำประกันถูกกำหนดมูลค่าเป็นศูนย์ด้วย ซึ่งการผิดนัดชำระ หนี้ดังกล่าว ได้ส่งผลต่อ SSI ให้ต้องร่วมรับผิดชอบการชำระหนี้ และทำให้มูลค่าของหลักประกันลดลง ธนาคารฯ จึงตัดสินใจที่จะตั้งสำรองเพิ่มเติมอย่างมีนัยสำคัญเป็นจำนวน 1.1 หมื่นล้านบาท เพื่อรองรับกรณีของ SSI และ SSI-UK ไว้ทั้งหมด ซึ่งเป็นจำนวนเพิ่มเติมจากเงินสำรองปกติจำนวน 5 พันล้านบาทที่ตั้งเอาไว้ก่อนหน้านี้ ทำให้ไตรมาสนี้ ธนาคารฯ มีจำนวนเงินสำรองเพิ่มเป็น 1.6 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 400% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3/2557 จำนวน 3,222 ล้านบาท

ผลจากการที่ SSI และ SSI-UK ได้รับการจัดเป็นหนี้ด้อยคุณภาพนั้น ทำให้อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคารฯ เพิ่มขึ้นเป็น 3.02% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2558 จากเดิม 2.11% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2557 และ 2.22% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2558 และเนื่องจากสินเชื่อของ SSI-UK ได้รับการตั้งสำรองเอาไว้ทั้งหมดโดยกำหนดมูลค่าหลักประกันเป็นศูนย์ ธนาคารฯ จึงทำการจำหน่ายหนี้สูญลูกหนี้รายนี้ ณ สิ้นเดือนกันยายน พร้อมกันนี้ ระดับสำรองเพื่อการรองรับหนี้ด้อยคุณภาพโดยไม่รวมหลักทรัพย์ค้ำประกันลดลง จาก 140.4% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2557 และ 134.8% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2558 มาเป็น 100.8% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2558

นายญนน์ โภคทรัพย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า "แม้ว่าผลประกอบการไตรมาสที่ 3 จะลดลง แต่คณะผู้บริหารและพนักงานก็ยังมีความมุ่งมั่นที่จะนำพาธนาคารฯ ให้สร้างผลประกอบการที่แข็งแกร่งได้ต่อไปในอนาคต ซึ่งจะบรรลุผลได้จากความแข็งแกร่งของธนาคารฯ ทางด้านธุรกิจพื้นฐานที่ดำเนินงานในปัจจุบันและการผลักดันการเติบโตของธุรกิจในอนาคตจากการขับเคลื่อนธุรกิจแนวใหม่ที่กำลังริเริ่มอยู่ ณ ขณะนี้ ยิ่งไปกว่านั้น ธนาคารฯ มีความเชื่อมั่นว่าสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ที่เหลืออยู่ในปัจจุบันยังคงมีพื้นฐานที่ดี และเราหวังว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนผู้ถือหุ้นได้ตามเป้าหมายในอนาคตโดยการสร้างผลงานที่ดีเยี่ยมในทุกกลุ่มลูกค้าด้วยความสามารถของพนักงานที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจอย่างแท้จริง"

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของประเทศที่ให้บริการทางการเงินแบบครบวงจร ก่อตั้งขึ้นโดยพระบรมราชานุญาตในปี พ.ศ. 2449 โดยเป็นธนาคารพาณิชย์ไทยที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2558 ธนาคารมีมูลค่าตลาดรวม (Market Capitalization) สูงเป็นอันดับที่ 1 ในกลุ่มสถาบันการเงิน (455.6 พันล้านบาท) มีเครือข่ายสาขาและจุดให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ (สาขารวมทั้งสิ้น 1,203 สาขา ศูนย์แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 104 แห่ง เครื่องเอทีเอ็ม 10,044 เครื่อง) เพื่อให้บริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม ทั้งลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ลูกค้าธุรกิจขนาดกลาง/ขนาดย่อม และลูกค้าบุคคลด้วยขนาดสินทรัพย์ 2,762 พันล้านบาท สามารถเรียกดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.scb.co.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version