กสิกรไทยชี้การควบรวมและซื้อกิจการมาแรง ธุรกิจไทยกว้านซื้อกิจการในอาเซียนเกือบ 200,000 ล้านบาท

พุธ ๒๑ ตุลาคม ๒๐๑๕ ๑๒:๑๓
บริษัทไทย-เทศแห่ซื้อกิจการหวังขยายธุรกิจแบบก้าวกระโดดรองรับเออีซี กสิกรไทยเผยแนวโน้มการควบรวมและซื้อกิจการสำหรับธุรกิจรายใหญ่มีสถิติการเติบโตต่อเนื่อง ช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันและเพิ่มประสิทธิภาพการสร้างเครือข่ายให้แข็งแกร่ง ทำให้ปริมาณธุรกรรมมีมูลค่าและทิศทางในการขยายการลงทุนสู่ตลาดที่มีศักยภาพใหม่ๆ มากขึ้น

นายจงรัก รัตนเพียรรองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันการควบรวมและซื้อกิจการ (Merger and Acquisition: M&A) เป็นช่องทางการขยายธุรกิจที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ทั้งในรูปแบบธุรกรรมที่บริษัทไทยไปซื้อกิจการบริษัทในต่างประเทศ บริษัทต่างชาติเข้ามาซื้อกิจการของบริษัทคนไทย และบริษัทไทยซื้อกิจการในประเทศไทย

ทั้งนี้ นักลงทุนไทยสนใจที่จะขยายการลงทุนในรูปแบบการซื้อหรือควบรวมกิจการในต่างประเทศ (Outbound M&A) เพื่อเพิ่มศักยภาพของธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศ โดยกลุ่มเอเชียแปซิฟิกเป็นภูมิภาคอันดับ 1 ที่นักลงทุนไทยสนใจเข้าไปลงทุนจากปัจจัยที่ตั้งและวัฒนธรรมที่ใกล้เคียง อีกทั้งเอเซียแปซิฟิคยังเป็นภูมิภาคที่ร้อนแรงของธุรกรรม M&A จากทั่วโลก เนื่องจากเป็นตลาดใหญ่ที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะตลาดอาเซียนที่มีประชากรกว่า 620 ล้านคนดันให้ธุรกรรม Outbound M&A ของไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยในปี 2556 ที่ตัวเลข Outbound M&A จากไทย พบว่ามีมูลค่าเพิ่มจากราว 0.15% ของจีดีพีในช่วงปี 2552-2554 มาอยู่ที่1.3% ของจีดีพีหรือกว่า 175,000 ล้านบาทระหว่างปี 2555-2558 ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับประเทศพัฒนาแล้วอย่างสิงคโปร์

นอกจากนี้ อาเซียนยังมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่คาดว่าใน 3 ปีข้างหน้าจะอยู่ที่ 4.6-4.9%โดยเฉพาะกลุ่มประเทศ CLMV ที่มีอัตราการขยายตัวราว 7% เทียบกับประเทศไทยที่อาจโตได้เพียง 3.2-3.6%เท่านั้น โดยคาดว่ากลุ่ม CLMV จะมีกำลังซื้อในเขตเมืองเพิ่มขึ้นจาก 6.3 ล้านล้านบาท ในปี 2556 เป็น8.05 ล้านล้านบาทในปี 2563 หรือโตถึง 4% ต่อปี CLMV จึงยังเป็นกลุ่มประเทศหลักของ Outbound M&A ของธุรกิจไทยต่อไป โดยอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ธุรกิจไทยให้ความสนใจการเข้าซื้อกิจการ ได้แก่ อุตสาหกรรมกลุ่มสินค้าบริโภคอุปโภคและอุตสาหกรรมบริการ โดยคาดว่ากลุ่มบริการจะมีจำนวนดีลสูงที่สุดขณะที่การควบรวมและซื้อกิจการของบริษัทต่างชาติที่มีต่อกิจการในประเทศไทย (Cross-Border M&A) ขยายตัวเพราะต้องการใช้ไทยเป็นฐานการลงทุนเพื่อต่อยอดไปยังตลาด AEC เนื่องจากไทยเป็นศูนย์กลางในภูมิภาค

ส่วนการควบรวมและซื้อกิจการระหว่างธุรกิจไทยกับไทย (Domestic M&A) ส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อาหารและเครื่องดื่ม เคมีภัณฑ์ และธุรกิจด้านสุขภาพ โดยคาดว่ากลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะยังมีโอกาสขยายตัวต่อเนื่องจากกระแสการขยายตัวของเขตเมือง (Urbanization) และแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ทั่วประเทศ รวมถึงแผนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษเช่นเดียวกับอุตสาหกรรมเกี่ยวกับสุขภาพที่มีแนวโน้มการขยายตัวของประชากรที่ใส่ใจต่อสุขภาพมากขึ้น

นายจงรัก กล่าวเพิ่มเติมว่า ธุรกิจไทยที่มีความแข็งแกร่งทั้งในด้านตราสินค้าและการดำเนินงาน และยังมีเงินสดสัดส่วนเกินสะสมสูง ควรเริ่มหาบริษัทเป้าหมายที่มีศักยภาพร่วมเป็นพันธมิตร โดยเน้นการเสริมความแข็งแกร่งของแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในระดับภูมิภาค โดยเฉพาะในอาเซียนมากยิ่งขึ้นหรือหาพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่งทางด้านแบรนด์อยู่แล้วในตลาดเป้าหมาย เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจสู่ตลาดที่กว้างและใหญ่ขึ้นอย่างตลาดอาเซียนที่เอื้อทั้งศักยภาพการเติบโตและประชากรจำนวนมหาศาล หรือการเข้าสู่ตลาดศักยภาพสูงในภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก ซึ่งธนาคารกสิกรไทย พร้อมในการให้บริการและคำปรึกษาแก่ลูกค้าในทำธุรกรรมการควบรวมและซื้อกิจการทั้งในและต่างประเทศ โดยมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่มีความเข้าใจและติดตามสภาวการณ์ของอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างใกล้ชิด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ