นางสาวพัชพร สรรคบุรานุรักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำการจัดจำหน่ายหุ้น IPO บริษัท โรงพยาบาล ลาดพร้าว จำกัด (มหาชน) หรือ LPH กล่าวว่า หลังจากที่ได้เปิดขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) จำนวน 200 ล้านหุ้น ในราคาเสนอขายที่ 5 บาท/หุ้น ระหว่างวันที่ 16 และวันที่ 19-21 ตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา ปรากฎว่าหุ้นของ LPH ได้รับความสนใจจากนักลงทุนรายย่อยจองซื้อหุ้นไอพีโอเข้ามาล้นเกินกว่าจำนวนที่จัดสรรเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมั่นใจในปัจจัยพื้นฐานและการเติบโตของบริษัทฯ ซึ่งจะเทรดอยู่ในหมวดธุรกิจการแพทย์ที่มีอนาคตสดใส อีกทั้งราคา IPO มีส่วนลดจูงใจให้กับนักลงทุน จึงคาดว่าน่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน โดยก่อนหน้านี้จากการสำรวจความต้องการซื้อของนักลงทุนสถาบันชั้นนำในประเทศ (Book Building) ซึ่งมีความต้องการจองซื้อที่ช่วงราคาสูงสุด 5 บาทล้นกว่า 26 เท่าจากยอดที่จัดสรรให้กับนักลงทุนสถาบัน ขณะที่รายยอดมีความสนใจจองซื้อล้นกว่ายอดที่จัดสรรจำนวนมาก
"LPH หุ้นไอพีโอน้องใหม่ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง จากความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของผู้บริหาร และพื้นฐานของบริษัทฯที่แข็งแกร่ง ประกอบกับการเข้ามาระดมทุนในตลาดฯ จะยิ่งเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้ LPH มากยิ่งขึ้น เชื่อว่าปัจจัยดังกล่าวทำให้หุ้นไอพีโอของ LPH ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากนักลงทุน และถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการเปิดให้จองซื้อหุ้นในครั้งนี้นอกจากนี้ราคาขายหุ้นไอพีโอที่ 5 บาท/หุ้น ถือเป็นระดับราคาที่น่าสนใจและมีส่วนลดให้กับนักลงทุนระดับที่ดี โดยจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างมั่นคงให้กับนักลงทุนในระยะยาว โดยคาดว่าจะมีความต้องการส่วนเกินสนใจเข้ามาซื้อหุ้นในกระดานได้อีกมาก" นางสาวพัชพรกล่าว
ดร.อังกูร ฉันทนาวานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาบาล ลาดพร้าว จำกัด (มหาชน) หรือ LPH กล่าวว่า หุ้นไอพีโอของบริษัทฯ ได้รับความสนใจจากนักลงทุนจองซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมากในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัทฯ เนื่องจาก LPH เป็นธุรกิจที่มีศักยภาพและเติบโตอย่างมั่นคง ประกอบกับเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงต่ำ ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของเศรษฐกิจน้อย การเข้าจดทะเบียนในตลาดในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทฯ เข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อต่อยอดธุรกิจให้เติบโตแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก
"ในฐานะผู้บริหารบริษัทฯ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่นักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อหุ้นไอพีโอเข้ามาเป็นจำนวนมาก สะท้อนว่านักลงทุนมีความเข้าใจธุรกิจและเชื่อมั่นในการเติบโตของบริษัทฯ การเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ LPH สามารถเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วตามแผนที่วางไว้ ในฐานะผู้บริหารผมจะเดินหน้าสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น โดยมีนโยบายการจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิ หากนักลงทุนที่พลาดวันจองซื้อหุ้นไอพีโอแล้วสามารถเข้ามาซื้อหุ้นบนกระดานได้ ซึ่ง LPH จะเข้าเทรดวันแรกในวันที่ 28 ตุลาคมนี้" ดร.อังกูร กล่าว
ดร.อังกูร กล่าวเพิ่มเติมว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ จะนำไปใช้สร้างศูนย์การแพทย์ประกันสังคมเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่ประกันตนกับสำนักงานประกันสังคม 150 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2560 และจะใช้สร้างสถานพักฟื้นดูแลผู้สูงอายุ 157 ล้านบาท เพื่อรองรับกลุ่มผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดเปิดบริการได้ในปี 2561 ใช้ลงทุนสร้างโรงพยาบาลลาดพร้าว ลำลูกกา จำนวน 300 ล้านบาท ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแห่งใหม่ขนาด 180 เตียงมูลค่าโครงการทั้งสิ้น 600 ล้านบาท โดยจะเป็นโรงพยาบาลทันสมัยแห่งแรกในแถบพื้นที่ดังกล่าวที่ชุมชนมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว คาดว่าจะสามารถให้บริการได้ในปี 2562 และใช้ชำระหนี้ประมาณ 360 ล้านบาท เพื่อลดต้นทุนทางการเงินและจะทำให้อัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากปัจจุบันที่ 1.3 เท่า
ข้อมูลบริษัท โรงพยาบาล ลาดพร้าว จำกัด (มหาชน) LPH
บริษัท โรงพยาบาล ลาดพร้าว จำกัด (มหาชน) หรือ LPH ประกอบธุรกิจ ให้บริการทางการแพทย์โรงพยาบาลเอกชน ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2533 โดยปัจจุบันบริษัทฯและบริษัทย่อย แบ่งธุรกิจเป็น 3 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย
1.ธุรกิจการให้บริการทางการแพทย์ โดยเปิดให้บริการมานานกว่า 22 ปี ตั้งแต่ปี 2536 โดยให้บริการรักษาโรคทั่วไปและการให้บริการทางการแพทย์ มีทั้งในส่วนของผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน ผู้ป่วยฉุกเฉิน โดยกลุ่มผู้ในบริการ แบ่งเป็น กลุ่มผู้ใช้บริการทั่วไป กลุ่มคู่สัญญา และกลุ่มผู้ใช้บริการตามสิทธิโครงการประกันสังคม ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัท โรงพยาบาล ลาดพร้าว จำกัด (มหาชน) นอกจากนี้ได้จัดตั้งบริษัทย่อย คือ บริษัทโรงพยาบาลลาดพร้าว 2 จำกัด หรือ LP2 ใช้ดำเนินโรงพยาบาลแห่งใหม่ คือโรงพยาบาลลาดพร้าว ลำลูกกา
2.ธุรกิจให้บริการตรวจวิเคราะห์ ทดสอบ และวิจัยด้านอาหาร ผลิตผลทางการเกษตรและยา ดำเนินการโดยบริษัทย่อย บริษัท ศูนย์ห้องปฏิบัติการและวิจัยทางการแพทย์และการเกษตรแห่งเอเซีย หรือ AMARC ซึ่ง โรงพยาบาล ลาดพร้าว จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นร้อยละ 97.14 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ประกอบธุรกิจการตรวจวิเคราะห์ วิจัย ภายในห้องปฏิบัติการ สำหรับวิเคราะห์ อาหาร สินค้าการเกษตรปศุสัตว์ ประมง และการวิเคราะห์ทางเภสัชศาสตร์ พยาธิวิทยา ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักทางการรักษา ซึ่งใช้บริการภายในธุรกิจโรงพยาบาลและให้บริการภายนอกโดย AMARC เป็นที่ยอมรับและเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น ด้วยห้องปฏิบัติการที่ได้รับรองมาตรฐานระดับสากล การบริการที่รวดเร็ว ประสิทธิภาพสูง รวมถึงผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้ข้อมูลอย่างครบถ้วน
3.ธุรกิจสนับสนุนการให้บริการทางการแพทย์และการพัฒนาธุรกิจ โดยดำเนินธุรกิจภายใต้บริษัทย่อย คือ บริษัทศูนย์จัดการบริหารธุรกิจแห่งเอเซีย จำกัด หรือ ABMC โรงพยาบาล ลาดพร้าว จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นร้อยละ 99.99 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ซึ่งเป็นธุรกิจสนับสนุนงานของด้านเวชสถิติ งานด้านกฏหมาย รวมถึงงานสนับสนุนงานด้านการพัฒนาธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งจะใช้รองรับการขยายตัวของธุรกิจของกลุ่มในอนาคต