บลจ.กสิกรไทย ชวนลงทุน LTF/RMF แนะทยอยสะสมหุ้นไทย รอรับดัชนีทะยานที่ 1,600 จุดในปี 2559 พร้อมชูกองทุนผลงานเด่น K20SLTF และ K70LTF

พุธ ๒๑ ตุลาคม ๒๐๑๕ ๑๖:๓๔
นายพงศ์พิเชษฐ์ นานานุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมา ว่าตลาดมีความผันผวนเนื่องจากได้รับแรงกดดันจากทั้งปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ อาทิ ความกังวลต่อเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวได้ช้ากว่าที่คาดไว้ ความผันผวนของตลาดหุ้นจีน รวมถึงความไม่ชัดเจนต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ทั้งนี้คาดว่าระยะเวลาที่เหลือในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ดัชนีหุ้นไทยจะยังแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบๆ เนื่องจากยังขาดปัจจัยใหม่ๆที่เข้ามาสนับสนุน โดยบริษัทยังคงมุมมองเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยปลายปี 2558 ที่ระดับ 1,400 – 1,450 จุด ซึ่งคิดเป็นอัตราส่วน Forward P/E ในปี 2559 ที่ระดับ 13.5 เท่า

อย่างไรก็ตาม ด้วยมุมมองการลงทุนในระยะกลางถึงยาว บลจ.กสิกรไทยมองว่าตลาดหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจ โดยคาดการณ์ว่าในปีหน้า ตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสเติบโตขึ้นได้อีกประมาณ 15.5% จากระดับปัจจุบัน และตั้งเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยปลายปี 2559 ไว้ที่ระดับ 1,600 จุด ด้วยอัตราส่วน Forward P/E ที่ระดับ 15 เท่า โดยคาดว่าจะได้รับปัจจัยบวกมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนในโครงการของภาครัฐที่น่าจะเริ่มเห็นผลเป็นรูปธรรมมากขึ้น ภายหลังจากที่มีความล่าช้ามาเกือบปี ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลบวกต่อความเชื่อมั่นในการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน ทั้งนี้ปัจจัยที่ต้องจับตามองหลังจากนี้ คือการติดตามผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นของรัฐบาลที่คาดว่าจะเริ่มส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจไทยในช่วงต้นปี 2559 เป็นต้นไป รวมถึงการประมูลคลื่น 4G ซึ่งหากดำเนินการได้อย่างรวดเร็วจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง อาทิ หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสาร (ICT) ซึ่งคาดว่าน่าจะมีเม็ดเงินลงทุนเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากกว่า 2 แสนล้านบาทขึ้นไป ขณะที่ปัจจัยบวกภายนอกประเทศ ยังคงได้รับมาจากสภาพคล่องในระบบการเงินโลกที่ยังอยู่ในระดับสูงจากการดำเนินนโยบายทางการเงินที่ผ่อนคลายของธนาคารกลางใหญ่ๆ ของโลก อาทิ ยุโรป ญี่ปุ่น และจีน แต่มีปัจจัยที่ต้องติดตาม คือกรณีการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งตอนนี้ตลาดส่วนใหญ่เชื่อว่า FED น่าจะมีการเลื่อนปรับขึ้นดอกเบี้ยออกไปเป็นปีหน้า รวมถึงการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของจีน ซึ่งอาจส่งผลทำให้ตลาดมีความผันผวนได้ในระยะสั้น

บลจ.กสิกรไทย จึงแนะนำให้ผู้ลงทุนอาศัยช่วงที่ระดับราคาหุ้นยังมีความน่าสนใจนี้ สามารถทยอยเข้าซื้อกองทุน LTF และ RMF ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นเพิ่มเติม เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว พร้อมทั้งการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ซึ่งบลจ.กสิกรไทยมีกองทุน LTF/RMF หลากหลายนโยบายครอบคลุมทุกความต้องการของผู้ลงทุน โดยกองทุนที่แนะนำและมีผลการดำเนินงานที่น่าสนใจ ได้แก่ กองทุนเปิดเค 20 ซีเล็คท์หุ้นระยะยาวปันผล (K20SLTF) ซึ่งจะเน้นลงทุนในหุ้นเด่นที่มีศักยภาพสูง ไม่เกิน 20 ตัว และมีผลการดำเนินงาน ณ วันที่ 16 ตุลาคม 2558 โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 2.28% และย้อนหลัง3 ปี อยู่ที่ 14.18% ด้านกองทุนเปิดเค 70:30 หุ้นระยะยาวปันผล (K70LTF) ซึ่งจะเน้นลงทุนในหุ้นพื้นฐานดีไม่เกิน 70% ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ -3.49% และย้อนหลัง3 ปี อยู่ที่ 11.41% โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวสามารถเอาชนะเกณฑ์มาตรฐานดัชนี SET ซึ่งให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีและ 3 ปี อยู่ที่ -7.06% และ 10.17% ตามลำดับ

นายพงศ์พิเชษฐ์กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทยังได้นำเสนอทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้นไทย กับกองทุน ของบลจ.กสิกรไทยซึ่งมีหลากหลายนโยบายการลงทุน อาทิ กองทุนเปิดเค หุ้นทุน (K-EQUITY) ซึ่งมีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี โดยกระจายการลงทุนในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม, กองทุนเปิดเค สตาร์หุ้นทุนคืนกำไร (K-STAR) ซึ่งมีนโยบายลงทุนระยะสั้นถึงปานกลางในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีจุดเด่นโดยจะทำการขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเมื่อมีกำไรถึงจุดที่กำหนด และกองทุนเปิดเค สตราทีจิค เทรดดิ้ง หุ้นทุน (K-STEQ) ซึ่งมีนโยบายลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีจุดเด่นโดยจะมีการซื้อขายทำกำไรตามจังหวะเวลาที่เหมาะสม และสามารถลงทุนในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กบางส่วน เพื่อช่วยสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติม

ผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุน LTF-RMF กองทุน K-EQUITY กองทุน K-STAR และกองทุน K-STEQ ของ บลจ. กสิกรไทย สามารถขอรับหนังสือชี้ชวน และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือสอบถาม KAsset Contact Center 0 2673 3888

กองทุน 3 เดือน 6 เดือน ตั้งแต่ต้นปี 1 ปี 3 ปี

K20SLTF 1.29% -5.23% 0.97% 2.28% 14.18%

K70LTF -2.32% -5.02% -2.83% -3.49% 11.41%

เกณฑ์มาตรฐาน (SET Index) -4.25% -9.66% -5.29% -7.06% 10.17%

ที่มา: บลจ.กสิกรไทย, ข้อมูล ณ วันที่ 16 ต.ค. 58

ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO