มร. โฮแกน กล่าวในงานการประชุมนานาชาติระดับโลกของสมาคมผู้บริหารสถาบันการเงินระหว่างประเทศ ครั้งที่ 45 (the 45th World Congress of the International Association of Financial Executives Institutions) ว่าการผนึกกำลังความแข็งแกร่งของสายการบินเอทิฮัดและพันธมิตรที่สายการบินเอทิฮัดถือครองหุ้นทั้ง 7 สายการบิน รวมทั้งสายการบินพันธมิตรเที่ยวบินร่วม ถือเป็นการทำให้เกิดเครือข่ายเส้นทางบิน 600 จุดหมายปลายทางซึ่งมากกว่าเครือข่ายเส้นทางบินหลักที่สายการบินเอทิฮัดปฏิบัติการบินอยู่ถึง 5 เท่า
นอกจากนั้น มร. โฮแกน ยังกล่าวอีกว่า กลยุทธ์ทางหุ้นส่วนนี้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่างๆแก่สายการบินพันธมิตรและผู้โดยสารของพันธมิตรทั้งหมด ซึ่งโดยปกติจะเกิดได้จากการควบรวมหรือการซื้อกิจการเท่านั้น
"เรื่องการบินนั้นเป็นเรื่องระดับโลกไม่ใช่ระดับประเทศ" มร. โฮแกน กล่าว "สายการบินเอทิฮัดมีอายุเพียง 12 ปี ในขณะที่คู่แข่งหลักของเราได้ทำการบินมาเป็นเวลากว่าทศวรรษและชั่วอายุคน ซึ่งสายการบินเหล่านั้นมีเครือข่ายที่ทำธุรกิจร่วมกันมายาวนาน ฝูงบินที่ใหญ่โต ชื่อเสียงระดับโลก และการเข้าถึงตลาดต่างๆ รวมทั้งคู่แข่งบางรายพยายามสกัดกั้นการเจริญเติบโตของเรา ดังนั้นเราจึงต้องขยายธุรกิจและสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้น"
มร. โฮแกนกล่าวว่าสายการบินเอทิฮัดสร้างความแตกต่างในธุรกิจผ่านการเจริญเติบโตทางธุรกิจแบบใหม่ มีการนำเสนอเครื่องบินอันล้ำสมัย สินค้า และบริการบนเครื่องบินระดับแถวหน้าของอุตสาหกรรมการบินอาทิเช่น เดอะเรสซิเดนซ์ ห้องโดยสารที่มีพื้นที่ถึง 3 ห้องบนเครื่องบินแอร์บัส เอ380 ของสายการบินฯ เฟิร์ส อพาร์ทเม้นท์ เฟิร์สสวีท บิสิเนสสตูดิโอ บริการเชฟบนเที่ยวบิน บริการผู้จัดการอาหารและเครื่องดื่ม และพี่เลี้ยงเด็กที่คอยช่วยเหลือครอบครัวบนเที่ยวบิน
มร. โฮแกน ได้กล่าวว่านอกเหนือจากรายได้และต้นทุนร่วมกันแล้วนั้น การจำกัดการลงทุนในสายการบินอื่นๆ ทำให้สายการบินเอทิฮัดและพันธมิตรสามารถเชื่อมต่อเครือข่ายเส้นทางบินและตารางการบินที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับมาตรฐานของสินค้าและบริการบนเที่ยวบิน รวมถึงการเชื่อมต่อและขยายโปรแกรมการสะสมคะแนนในกลุ่มพันธมิตรการบินร่วมกัน
"กลยุทธ์ของเราทำให้เกิดผลประโยชน์ต่างๆที่เหนือความคาดหมายของการเป็นพันธมิตรทางการค้าตามรูปแบบมาตรฐานทั่วไป เราเร่งเครื่องเดินหน้าการยกระดับประสบการณ์การบินของผู้โดยสารที่สมบูรณ์แบบในสายการบินสมาชิก โดยการมีเครือข่ายเส้นทางบิน ตารางการบิน สินค้า บริการและการสะสมคะแนนที่เป็นหนึ่งเดียวกัน นอกจากนี้เรายังได้นำเสนอทางเลือกใหม่ที่มีประสิทธิภาพและความน่าสนใจต่อผู้ให้บริการขนส่งขนาดใหญ่ระดับโลก พันธมิตรของเรามีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 24 เป็นจำนวนเงินถึง 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 3.85 หมื่นล้านบาท ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนว่าผู้โดยสารเลือกเดินทางกับสายการบินเอทิฮัดและพันธมิตร" มร. โฮแกน กล่าว
ในปีที่ผ่านมาสายการบินเอทิฮัดได้เพิ่มพันธมิตรหุ้นส่วนโดยการลงทุนเป็นจำนวน 560 ล้านยูโรหรือประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาทในการซื้อหุ้น 49 เปอร์เซ็นต์ และเข้าถือหุ้นหลักในโปรแกรมสะสมคะแนน มิลเลมิเลียของสายการบินอลิตาเลีย สายการบินแห่งชาติอิตาลี
"ในช่วงที่สายการบินอลิตาเลียใกล้ที่จะล้ม เราได้เล็งเห็นถึงชื่อเสียงและเครือข่ายที่ยิ่งใหญ่แต่ขาดการบริหารที่ดี ที่ต้องทำการเปลี่ยนทิศทางการบริหารของสายการบินอลิตาเลีย" มร. โฮแกน กล่าว "สายการบินอลิตาเลียในรูปลักษณ์ใหม่นี้เป็นพันธมิตรที่สำคัญและกำลังเติบโตไปข้างหน้าพร้อมๆกันกับพันธมิตรระดับโลกของเรา"
"แผนการดำเนินงานของสายการบินอลิตาเลียได้บรรลุเป้าหมายสำเร็จในปีนี้ รวมทั้งสามารถถึงจุดคุ้มทุนในปีหน้า และส่งผลให้ทำกำไรได้ในปี 2560"
มร. โฮแกน รองประธานสายการบินอลิตาเลียได้ประกาศที่กรุงโรมถึงการเร่งดำเนินงานแผนการเติบโตของสายการบินแห่งชาติอิตาลี รวมทั้งเส้นทางบินใหม่ในทวีปอเมริกาใต้ที่เพิ่มจากเส้นทางบินในประเทศอิตาลี ห้องรับรองผู้โดยสารพิเศษแห่งใหม่ในท่าอากาศยาน บริการรถรับ-ส่ง การตกแต่งภายในห้องโดยสารบนเครื่องบินใหม่ การเชื่อมต่อวายฟายบนเครื่องบินทุกลำ การบริการลูกค้าแนวใหม่ ณ ท่าอากาศยาน โรม ฟิวมิชิโน เว็บไซต์รูปแบบใหม่ และการมุ่งเน้นการฝึกอบรมและพัฒนาพนักงาน ซึ่งเป็นการขยายและพัฒนาสายการบินอลิตเลียด้วยการลงทุนถึง 280 ล้าน ยูโรหรือประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท
"กลยุทธ์พันธมิตรในการทำธุรกิจร่วมกันทำให้สายการบินเอทิฮัดได้พัฒนาเป็นธุรกิจการบินและการเดินทางระดับโลกพร้อมๆกับพันธมิตร" มร. โฮแกน กล่าว "เพื่อให้ผู้โดยสารของเราได้รับการบริการและประโยชน์สูงสุดระดับโลก"