นายสมบูรณ์ อุรานุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรแยล ซีรามิค อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ RCI เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัท เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ KC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ โดยทาง KC ได้ให้ความไว้วางใจในการเลือกให้ RCI เป็นผู้จัดหาสินค้า และบริการที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์กระเบื้องสำหรับที่อยู่อาศัย ให้กับ KC ในการพัฒนาโครงการต่าง ๆ ในอนาคต ซึ่งความร่วมมือทางธุรกิจดังกล่าวจะช่วยเพิ่มปริมาณการขาย และยอดขาย รวมถึงสามารถวางแผนการผลิต และกระจายสินค้าให้กับบริษัทฯได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจาก KC มีความต้องการในการใช้กระเบื้องเป็นจำนวนมาก เพราะมีการพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง ทั้งในโครงการเดิมที่มีอยู่ รวมถึงการพัฒนาโครงการใหม่ในอนาคต รวมถึงความร่วมมือทางธุรกิจในด้านต่าง ๆ อีกด้วย
'ความร่วมมือทางธุรกิจในครั้งนี้เบื้องต้นเป็นการเข้าไปเป็น Supplier ซึ่งการที่ KC ได้ให้ความไว้วางใจกับเราในครั้งนี้ เรามองว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะได้รับประโยชน์ร่วมกัน เพราะเรามองว่า KC มีการพัฒนาโครงการบ้านที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ย่อมมีความต้องการกระเบื้องที่มีคุณภาพด้วย และเราเองก็เป็นผู้ผลิตกระเบื้องที่มีคุณภาพ และมีความสามารถที่จะตอบสนองความต้องการของ KC ได้ เราจึงเชื่อว่าเมื่อบ้านที่ดีร่วมมือกับกระเบื้องที่ดี จะสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าที่เป็นผู้อยู่อาศัย และที่สำคัญยังเป็นการเปิดโอกาสในความร่วมมือทางธุรกิจในอนาคตอีกด้วย' นายสมบูรณ์กล่าว
นายภัทรภพ อิทธิสัญญากร รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ KC เปิดเผยว่า บริษัทฯมองเห็นศักยภาพของ RCI ที่เป็นผู้ผลิต ออกแบบ ผลิตภัณฑ์กระเบื้องคุณภาพสำหรับที่อยู่อาศัย โดยการร่วมมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจในครั้งนี้จะช่วยสะท้อนภาพการขยายโครงการของ KC ที่มากขึ้นในอนาคต ซึ่งทาง KC จะสามารถวางแผนการใช้กระเบื้องในการก่อสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ และได้งานที่มีคุณภาพ ภายใต้งบประมาณที่เหมาะสม ซึ่งในปัจจุบัน KC มีโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนาจำนวน 14 โครงการ และที่สำคัญความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการร่วมมือทางธุรกิจต่อไปในอนาคต
'หลังจากนี้เราจะมีการปรับกลยุทธ์ทางการตลาด และปรับปรุงระบบการก่อสร้างให้มีความเหมาะสม ซึ่งการที่เราเลือก RCI เพราะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกระเบื้อง มีการออกแบบ และบริการที่ครบวงจร เหมาะสมกับแนวทางการพัฒนาโครงการในอนาคต ซึ่งจะทำให้เรามีวัตถุดิบที่เพียงพอ และช่วยในการบริหารต้นทุนได้ดียิ่งขึ้น โดยที่การร่วมมือในครั้งนี้เป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น เราสามารถพัฒนาความร่วมมือทางธุรกิจต่อไปในอนาคตได้อีกด้วย' นายภัทรภพกล่าว