สกศ. เร่งระดมแนวคิดแผนการศึกษาชาติ ๑๕ ปี จับมือ UNESCO – OECD วาง ๔ ข้อเสนอพัฒนากึ๋นเด็กไทย

ศุกร์ ๓๐ ตุลาคม ๒๐๑๕ ๑๖:๒๒
วันนี้ (๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๘) ดร.กมล รอดคล้าย เลขาธิการสภาการศึกษา แถลงข่าวเรื่อง "การจัดทำแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐" ว่า สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) จะจัดการประชุมระดมความคิดเห็น เรื่อง "แนวทางการจัดทำแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐" ระหว่างวันที่ ๓๐ ตุลาคม - ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ที่โรงแรมไมด้า ทวารวดี แกรนด์ จังหวัดนครปฐม เพื่อนำความคิดเห็นและข้อเสนอแนะมาใช้เป็น ข้อมูลประกอบการจัดทำแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ ต่อไป โดยได้พัฒนาจากแผนการศึกษาแห่งชาติ ฉบับปรับปรุง (พ.ศ. ๒๕๕๒ – ๒๕๕๙) เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การปกครอง วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม ประชากร วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นโยบายรัฐบาล และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๔)

"สกศ. ได้วางเป้าหมายสำคัญของแผนการศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่คือ สถานศึกษาสามารถจัดการศึกษา ที่รับผิดชอบต่อผู้เรียนด้วยคุณภาพและมาตรฐาน โดยทุกภาคส่วนของสังคมที่มีศักยภาพและความพร้อม สามารถเข้ามาจัดการศึกษาภายใต้กติกาที่เป็นธรรมโดยไม่เลือกปฏิบัติ สำหรับผู้เรียนที่มีศักยภาพและความสามารถ ในการเรียน สามารถเข้าเรียนในสถานศึกษาที่มีคุณภาพและมาตรฐาน และรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองได้ ส่วนผู้เรียน ที่มีศักยภาพและความสามารถแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ รัฐควรให้ความช่วยเหลือผ่านเงินทุนให้เปล่า" ดร.กมล กล่าว

ทั้งนี้ สกศ. จะได้เร่งศึกษา วิเคราะห์ และสังคราะห์สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงและปัญหาอุปสรรค ด้านการศึกษา รวมทั้งข้อเสนอการปฏิรูปการศึกษาของฝ่ายต่าง ๆ เช่น สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาการศึกษา หรือซูเปอร์บอร์ด ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยจะเร่งนำเสนอร่างแผนการศึกษาแห่งชาติ ระยะ ๑๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๔) ต่อที่ประชุมสภาการศึกษา และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามลำดับต่อไป

เลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวด้วยว่า สกศ. ได้ร่วมมือกับองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) และองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เพื่อศึกษาแนวทางและจัดทำข้อเสนอนโยบายด้านการพัฒนาด้านการศึกษาของประเทศไทย ได้ข้อสรุปใน ๔ แนวทางสำคัญ ประกอบด้วย ๑) การปรับเปลี่ยนหลักสูตร โดยควรออกแบบหลักสูตรการเรียนการสอนบนพื้นฐานของความเข้าใจ ชัดเจน ตรงกับการเรียนรู้ มีความสอดคล้องต่อเนื่อง และชี้ชัดหลักการ สอดคล้องกับมาตรฐานในระดับสากลและ มีคำแนะนำที่ชัดเจนกับครูสอน อีกทั้งการจัดทำหลักสูตรควรอยู่บนพื้นฐานของการรับฟังข้อแนะนำจาก ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างหลากหลาย และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

๒) การประเมินผลระดับโรงเรียน เป็นหัวใจสำคัญของการประเมินผลการศึกษาให้มีประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้งการประเมินผลย่อยเพื่อการพัฒนา และการประเมินผลมาตรฐานระดับชาติอย่างมีประสิทธิภาพ และควรมีการศึกษาการทดสอบมาตรฐานระดับสากล เช่น PISA หรือ TIMSS เพื่อนำมาพัฒนาการประเมินผลมาตรฐานระดับชาติให้เป็นสากลและสะท้อนผลสัมฤทธิ์ที่แท้จริงของนักเรียน ๓) ควรจัดทำยุทธศาสตร์การเตรียมความพร้อมครูก่อนเข้าสู่วิชาชีพ การพัฒนาศักยภาพครู ระบบการสรรหาครู หลักสูตรการผลิตรครู ประกาศนียบัตรวิชาชีพครู และการประเมินครู โดยควรส่งเสริมให้ครูมีเวลาปฏิบัติการสอนในชั้นเรียนเพิ่มขึ้น ลดภาระงานด้านอื่น ๆ ด้านธุรการให้น้อยลง และได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหารโรงเรียนที่มีภาวะเป็นผู้นำมืออาชีพ

และ ๔) ควรจัดทำยุทธศาสตร์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่เสถียร และสามารถเชื่อมโยงกับสื่อการจัด การเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี ครูผู้สอนควรได้รับการพัฒนาศักยภาพให้มีทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการจัด การเรียนรู้ให้กับนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

"คณะผู้เชี่ยวชาญคาดหวังว่าผลการศึกษาครั้งนี้จะกระตุ้นให้เกิดความร่วมมือในการพัฒนาการศึกษาระหว่างรัฐบาลในปัจจุบันและอนาคต ผู้มีส่วนได้เสียในการพัฒนาการศึกษาทั้ง ๔ ด้านดังกล่าว เพื่อสร้างเป็นหลักประกันการเรียนรู้ของเยาวชนให้เกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุด" ดร.กมล ระบุ

นอกจากนี้ เลขาธิการสภาการศึกษา ยังเตรียมจัดการประชุม OEC Forum โดย สกศ. จะเชิญผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่าง ๆ มาหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในประเด็นสำคัญด้านการศึกษา การประชุมนัดแรกได้รับเกียรติจาก นายตวง อันทะไชย ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษาและการกีฬา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ตอบรับ คำเชิญมาเป็นวิทยากรอภิปราย เรื่อง "มองไปข้างหน้าอย่างท้าทาย : บทบาทผู้นำการปฏิรูปการศึกษา ของสภาการศึกษา" จะจัดขึ้นวันที่ ๑๗ พฤศจิกายนนี้ ที่ สกศ. และจะได้จัดประชุม OEC Forum นัดต่อไป ตลอดปีงบประมาณ ๒๕๕๙ และขอเรียนเชิญนักวิชาการ ผู้ทรงคุณวุฒิ ประชาชนทั่วไป ตลอดจนสื่อมวลชน เข้าร่วมงานประชุม OEC Forum ได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย สามารถติดตามข่าวความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ได้ทางเว็บไซต์ www.onec.go.th หรือโทรศัพท์ ๐-๒๖๖๘-๗๑๑๐-๒๔

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ