นายนิมิต วงศ์จริยกุล กรรมการบริหาร บริษัท โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท เอเอ็มอี เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (AME) เปิดเผยว่า AME ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไปแล้ว เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 60 ล้านหุ้น คิดเป็น 23.08% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.10 บาท โดย AME เตรียมนำเงินที่ได้ไปขยายธุรกิจ ของบริษัทไม่ว่าจะเป็นธุรกิจดาวน์โหลดข้อมูล ข่าวสาร สาระบันเทิงผ่านโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เคลื่อนที่ และธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ผ่านแอพพลิเคชั่น MShopping ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ได้อย่างลงตัว คาดว่าจะเสนอขายหุ้นไอพีโอและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ได้ประมาณต้นปี 2559
"เชื่อว่าหุ้น AME จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยม เนื่องจากบริษัทเป็นผู้จัดหาข้อมูล ข่าวสาร สาระบันเทิง ผ่านโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่มีฐานลูกค้ามากกว่า 500,000 ราย ขณะเดียวกันยังมีฐานลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าออนไลน์ (อีคอมเมิร์ซ) ผ่านแอพพลิเคชั่น MShopping ที่เพิ่มขึ้น จากมูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซรวมที่มากกว่า 1 แสนล้านบาท และตลาดยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยี 3 จี และ 4 จี บนโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เคลื่อนที่"นายนิมิตกล่าวในที่สุด
ขณะที่นายบัญชา จันทรอมรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเอ็มอี เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (AME) กล่าวว่า หลังระดมทุนจะช่วยให้บริษัทมีศักยภาพในการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดย AME มีแผนพัฒนาคอนเทนท์ใหม่ๆ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจดาวน์โหลดข้อมูลข่าวสาร สาระบันเทิง และคลิป VDO ต่างๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เคลื่อนที่ รวมถึงขยายฐานผู้ใช้บริการ และพัฒนาฮาร์ดแวร์ และซอฟท์แวร์ ของแอพพลิเคชั่นMShopping ซึ่งเป็นแอพฯขายสินค้าออนไลน์ ที่ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี
"แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจบริการเสริมด้านข้อมูล ข่าวสาร สาระความบันเทิง (Content) ยังมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก เนื่องจากสังคมปัจจุบันยังมีความต้องการข้อมูล ข่าวสารในรูปแบบดังกล่าว และเชื่อว่าจะเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับสังคมไทยได้ทุกยุคสมัย ขณะที่ธุรกิจตลาดอีคอมเมิร์ซ โดยการขายผ่านแอพพลิเคชั่น MShopping บริษัทจะมีการเพิ่มสินค้าประเภทความงาม สินค้าที่เกี่ยวกับแม่และเด็ก ที่มีความต้องการสูง และได้มีการเตรียมพร้อมในระบบจัดส่งสินค้า (โลจิสติกส์) เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าจะไม่มีปัญหาในการรับสินค้า ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถผลักดันรายได้ AME ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งได้ในอนาคต"นายบัญชากล่าวในที่สุด
สำหรับผลการดำเนินงานรอบปี 58 สิ้นสุด 31 มี.ค.58 (1 เม.ย.57- 31 มี.ค.58) มีรายได้จากการขายและบริการ 130.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 48.23 ล้านบาท ในรอบปี 57 หรือเพิ่มขึ้น 170.56% มีกำไรสุทธิรอบปี 58 ที่28.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,678.10% จากรอบปี 57 ที่กำไร 1.61 ล้านบาท