จับตาวาระ กทค. ครั้งที่ 28/2558 : การขอขยายระยะเวลาคุ้มครองการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ตามประกาศมาตรการเยียวยาฯ, บจ. ทีซี บรอดคาสติ้ง ขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการ, ทรูมูฟและดิจิตอลโฟนปฏิเสธการนำส่งรายได้ในช่วงประกาศมาตรการเยียวยาฯ

อังคาร ๐๓ พฤศจิกายน ๒๐๑๕ ๑๔:๕๑
ในการประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ครั้งที่ 18/2558 ที่เดิมกำหนดไว้ในวันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2558 แต่ต่อมามีการแจ้งเลื่อนกระทันหันเป็นวันอังคารที่ 3 โดยในการประชุมครั้งนี้มีวาระที่น่าจับตา ได้แก่ เรื่องผู้ประกอบกิจการขอขยายระยะเวลาคุ้มครองการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่บนคลื่นความถี่ย่าน 900 MHz ตามประกาศมาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการเป็นการชั่วคราวในกรณีสิ้นสุดการอนุญาตสัมปทานหรือสัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือมาตรการเยียวยาฯ เรื่อง บจ. ทีซี บรอดคาสติ้ง ขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการสถานีฐานภาคพื้นดินผ่านดาวเทียม และเรื่องที่ค้างพิจารณาจากการประชุมครั้งที่แล้ว คือเรื่อง บจ. ทรูมูฟ และ บจ. ดิจิตอลโฟน ขอให้ กทค. ทบทวนคำสั่ง พร้อมทั้งปฏิเสธการนำส่งรายได้ในช่วงประกาศมาตรการเยียวยาฯ

วาระเรื่องผู้ประกอบกิจการขอขยายระยะเวลาคุ้มครองการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่บนคลื่นความถี่ย่าน 900 MHz ตามประกาศมาตรการเยียวยาฯ

วาระนี้สืบเนื่องจากมีผู้ประกอบกิจการ 3 รายมีหนังสือถึงสำนักงาน กสทช. เพื่อขอให้ขยายระยะเวลาคุ้มครองการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ตามประกาศมาตรการเยียวยาฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ประชุม กทค. ครั้งที่ 25/2558 เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2558 มีมติกำหนดวันหยุดให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของ บมจ. เอไอเอส บนคลื่นความถี่ย่าน 900 MHz ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2558 เป็นต้นไป โดยบริษัทเหล่านี้เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจทางด้านให้บริการระบบติดตามยานพาหนะจากดาวเทียม รวมทั้งในพื้นที่ห่างไกล เช่น ระบบท่อน้ำมัน ระบบสำรวจป่า เป็นต้น ซึ่งหากมีการยุติการให้บริการในวันดังกล่าว จะประสบปัญหาเดือดร้อนเนื่องจากไม่สามารถเปลี่ยนซิมการ์ดหรือเปลี่ยนลูกข่ายได้ทัน

เนื่องจากสำนักงาน กสทช. ได้เคยนำเสนอวาระลักษณะทำนองเดียวกันนี้ในกรณีที่มีผู้ประกอบกิจการขอให้ขยายระยะเวลาคุ้มครองการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่บนคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz ให้ที่ประชุม กทค. พิจารณามาแล้ว ซึ่งในครั้งนั้น กทค. มีมติให้สำนักงาน กสทช. เสนอเรื่องดังกล่าวไปยังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขอรับแนวนโยบายสำหรับปฏิบัติต่อไป อย่างไรก็ตาม หากจะพิจารณาขยายระยะเวลาคุ้มครองการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ออกไปก็อาจสามารถขยายระยะเวลาได้เพียงไม่เกินวันที่ กทค. จะมีมติเห็นชอบการออกใบอนุญาตให้กับผู้ชนะการประมูลคลื่นความถี่ ซึ่งคาดว่าไม่น่าเกิน 90 วันหลังที่ได้ผู้ชนะการประมูล

แต่ไม่ว่าในที่สุดจะมีการเปลี่ยนแปลงวันหยุดให้บริการหรือไม่ ประเด็นสำคัญคือต้องมีการกำหนดวันสิ้นสุดการให้บริการที่ชัดเจนเป็นการล่วงหน้าไม่ต่ำกว่า 30 วัน เพื่อประกาศให้ทุกฝ่าย ทั้งผู้ให้บริการและผู้บริโภคได้รับทราบล่วงหน้าและเตรียมตัวได้ทัน

เรื่อง บจ. ทีซี บรอดคาสติ้ง ขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการสถานีฐานภาคพื้นดินผ่านดาวเทียม

วาระนี้เป็นเรื่องของ บจ. ทีซี บรอดคาสติ้ง ขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สาม เพื่อประกอบกิจการสถานีฐานภาคพื้นดินผ่านดาวเทียม อย่างไรก็ดี เนื่องจากบริษัทดังกล่าวมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือ บมจ. ไทยคม ซึ่งถือหุ้นถึงร้อยละ 99.995 ของหุ้นทั้งหมด ดังนั้นในการพิจารณาให้ใบอนุญาต จึงต้องคำนึงถึงผลเรื่องการผูกขาดธุรกิจ ว่าจะเข้าลักษณะก่อให้เกิดการผูกขาดตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำหรือไม่ หรืออาจก่อให้เกิดการกีดกันการแข่งขัน ซึ่งหากพบว่าเข้าข่าย ก็เป็นหน้าที่ที่ กทค. อาจต้องกำหนดมาตรการเฉพาะเพื่อกำกับดูแลและป้องกันการผูกขาด โดยอาศัยอำนาจตามประกาศ กทช. เรื่องมาตรการเพื่อป้องกันมิให้มีการกระทำอันเป็นการผูกขาดหรือก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขันในกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2549

นอกจากนี้ ยังมีข้อน่าสงสัยอีกด้วยว่า เมื่อครั้งที่ กทค. เคยออกใบอนุญาตดาวเทียมไทยคมไปโดยไม่ต้องประมูลคลื่นความถี่นั้น กทค. ได้เคยชี้แจงต่อสังคมว่า ผู้ประกอบกิจการที่ภาคพื้นดิน ซึ่งก็คือผู้ประกอบกิจการสถานีให้บริการ Up Link Down Link เป็นผู้ใช้คลื่นความถี่เพื่อประกอบกิจการโทรคมนาคม เนื่องจากเป็นผู้ใช้ความถี่ในการรับส่งสัญญาณภายใต้ราชอาณาจักรไทย ดังนั้นจึงมีประเด็นว่า ในการพิจารณาอนุญาตประกอบกิจการในกรณีของ บจ. ทีซี บรอดคาสติ้ง นี้ จำเป็นต้องจัดสรรด้วยวิธีการประมูลเท่านั้นด้วยหรือไม่

วาระเรื่อง บจ. ทรูมูฟ และ บจ. ดิจิตอลโฟน ขอให้ กทค. ทบทวนคำสั่ง พร้อมทั้งปฏิเสธการนำส่งรายได้ในช่วงประกาศมาตรการเยียวยาฯ

กรณีนี้เป็นเรื่องสืบเนื่องจากที่ประชุม กทค. ครั้งที่ 17/2558 เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2558 ได้มีมติให้ บจ. ทรูมูฟ และ บจ. ดิจิตอลโฟนนำส่งรายได้จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่บนคลื่นย่าน 1800 MHz ในช่วงคุ้มครองผู้ใช้บริการนับตั้งแต่วันที่มีการใช้ประกาศมาตรการเยียวยาฯ จนถึงวันที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งให้ชะลอการจัดประมูลคลื่นความถี่ (16 กันยายน 2556 – 17 กรกฎาคม 2557) เป็นจำนวนเงิน 1,069,983,638.11 บาท และ 627,636,136.87 บาท ตามลำดับ เพื่อที่จะนำส่งเป็นรายได้แผ่นดินต่อไป แต่ทั้งสองบริษัทมีหนังสือขอให้ กทค. ทบทวนคำสั่งและปฏิเสธการนำส่งรายได้จากการให้บริการในช่วงเวลาดังกล่าว

ทั้งนี้ หนังสือขอให้ทบทวนคำสั่งของทั้งสองบริษัทระบุว่า ที่ผ่านมาทางบริษัทฯ ยังไม่เคยมีโอกาสเข้าชี้แจงต่อที่ประชุม กทค. โดยตรง อีกทั้งไม่เห็นด้วยกับรายละเอียดวิธีการคำนวณรายได้และค่าใช้จ่ายของคณะทำงานตรวจสอบเงินนำส่งรายได้แผ่นดินจากการให้บริการในระยะเวลาความคุ้มครองผู้ใช้บริการ โดยในส่วน บจ. ทรูมูฟ ระบุว่า การพิจารณาต้นทุนค่าใช้จ่ายที่นำมาใช้ในการคำนวณไม่ได้สะท้อนความเป็นจริง เพราะต้นทุนหลักเป็นต้นทุนคงที่ ดังนั้นแม้ยอดผู้ใช้บริการมีจำนวนลดลง แต่ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไม่ได้ลดลง นอกจากนี้ยังมีรายได้บางส่วนที่ไม่ได้เกิดจากการให้บริการบนคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz แต่เป็นรายได้ที่เกิดจากการนำทรัพย์สินที่มีอยู่ออกหาประโยชน์ จึงไม่ควรนำรายได้ส่วนนี้มาคำนวณ ขณะที่ บจ. ดิจิตอลโฟน ชี้แจงว่า ในช่วงเวลาดังกล่าว บริษัทประสบภาวะขาดทุนจากการให้บริการกว่า 450 ล้านบาท จึงไม่มีรายได้คงเหลือที่จะนำส่งให้สำนักงาน กสทช. ได้

ในการพิจารณาวาระนี้ ที่ประชุม กทค. คงต้องพิจารณาว่าจะรับทบทวนคำสั่งทางปกครองหรือไม่ อย่างไร ซึ่งเรื่องนี้ก็คงขึ้นอยู่กับว่าทั้งสองบริษัทมีข้อมูลหรือข้อเท็จจริงใหม่อะไรที่จะเสนอให้พิจารณาทบทวนมติหรือไม่ เพราะลำพังประเด็นที่โต้แย้งมาเกี่ยวกับรายได้ที่ต้องนำส่งรัฐ ก็เป็นประเด็นเดิมที่เคยโต้แย้งมาแล้ว ซึ่งในกรณี บจ. ดิจิตอลโฟนไม่มีการนำส่งเอกสารหลักฐานใดๆ เพิ่มเติม จึงไม่น่ามีเหตุที่ กทค. ต้องพิจารณาทบทวนคำสั่ง ส่วน บจ. ทรูมูฟ มีการนำส่งเอกสารเพิ่มเติมจำนวนมาก ก็คงต้องใช้เวลาพิจารณาก่อนว่ามีส่วนของข้อเท็จจริงใหม่หรือไม่ หรือเป็นเอกสารหลักฐานที่บริษัทสามารถแสดงตั้งแต่ในชั้นการประชุมหารือกับคณะทำงานฯ แต่ไม่ได้นำส่ง ซึ่งหากเข้าข่ายลักษณะนี้ ก็ไม่สมควรพิจารณาทบทวนคำสั่งทางปกครองด้วยเช่นกัน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version