ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย หุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้เปิดขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ระหว่างวันที่ 2 – 4 พฤศจิกายน 2558 ในราคาเสนอขายที่ 2.77บาท/หุ้น ปรากฎว่าหุ้นของ J ได้รับการตอบรับที่ดีเกินคาดจากนักลงทุนและการจองซื้อหุ้นไอพีโอหมดทั้ง จำนวนตามความคาดหมาย
"นักลงทุนให้การตอบรับหุ้นไอพีโอของ J ในครั้งนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ตั้งแต่เปิดให้นักลงทุนที่เป็นผู้ถือหุ้น JMART ซึ่งได้สิทธิ์จองซื้อระหว่างวันที่ 26-28 ตุลาคมที่ผ่านมา พบว่ามีผู้ใช้สิทธิ์จองซื้อหุ้นเข้ามาอย่างดีตามคาด และเปิดจองให้กับนักลงทุนทั่วไปจองซื้อระหว่างวันที่ 2 – 4 พฤศจิกายน ก็ได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยม สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจที่นักลงทุนมีต่อบริษัท เนื่องจากธุรกิจบริหารพื้นที่เช่ามีการเติบโตในอัตราที่โดดเด่น มีความสามารถในการทำกำไรที่ดี และมีแผนธุรกิจในอนาคตอย่างชัดเจน ภายหลังการระดมทุนในครั้งนี้จะทำให้ฐานะทางการเงินของ J มีความแข็งแกร่ง พร้อมขยายพื้นที่เช่าเพื่อเพิ่มศักยภาพการเติบโตในอนาคต ประกอบกับการที่ได้กำหนดราคาขายหุ้นไอพีโอที่ 2.77 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) ประมาณ 12.7 เท่า จากกำไรปกติจากการดำเนินงานของบริษัทฯ ในช่วง 12 เดือนย้อนหลัง (ตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม 2557 ถึงสิ้นเดือน มิถุนายน 2558) และมีส่วนลดให้กับนักลงทุนถึงร้อยละ 55 จากราคาพื้นฐานที่บริษัทหลักทรัพย์ผู้ร่วมจัดจำหน่ายได้ทำไว้ จึงถือว่าคุ้มค่าสำหรับการถือลงทุนเพื่อหวังผลใน อนาคต" ดร.ก้องเกียรติ กล่าว
ด้านนางนงลักษณ์ ลักษณะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J กล่าวว่า หุ้นไอพีโอของบริษัทฯ ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยมในครั้งนี้ เป็นเพราะบริษัทฯ มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และมีการเติบโตในอัตราที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากธุรกิจบริหารพื้นที่เช่า IT Junction ซึ่งบริหารโดยใช้เงินลงทุนต่ำ มีผลตอบแทนสูง นอกจากนี้ ยังเล็งเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจพื้นที่เช่า ผ่านโครงการในรูปแบบศูนย์การค้าชุมชน The Jas และตลาดชุมชน J Market เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้กว้างยิ่งขึ้น สนับสนุนผลการดำเนินงานบริษัทฯ มีการเติบโตที่ดี มีความสามารถในการทำกำไรสูงอย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยหลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายในการขยายจำนวนพื้นที่เช่าทั้ง 3 รูปแบบให้มากกว่า 100 สาขาภายในปี 2562 จากปัจจุบันที่มีสาขารวมอยู่ที่ 49 สาขา สนับสนุนภาพรวมธุรกิจให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เป็นทั้งหุ้น Growth & Dividend Stock ที่มีการเติบโตสูง และมีนโยบายการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 50% จึงเชื่อว่าปัจจัยเหล่านี้ได้สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน จนทำให้เข้ามาจองซื้อหุ้นไอพีโอของบริษัทฯ มากเกินความคาดหมาย และมั่นใจว่าหลังเข้าทำการซื้อขาย J จะไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง
"หุ้นไอพีโอของบริษัทฯ ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยมในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อ J ในฐานะผู้นำในธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าภายในศูนย์การค้าและพัฒนาอสังหาริม ทรัพย์ จากการขยายพื้นที่เช่าเพิ่มขึ้นทุกปี มีสาขากระจายตัวอยู่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ และพื้นที่เช่ามีการต่อสัญญาของลูกค้าเดิมอยู่ในระดับสูง จึงคาดว่าผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในช่วงต่อจากนี้ จะสามารถขยายตัวได้อย่างรวดเร็วจากการเติบโตของสาขาเดิม รวมทั้งจากการขยายสาขาและโครงการใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมั่นใจ J พร้อมแล้วที่จะนำหุ้นเข้าทำการซื้อขายในวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้"