สมาคมผู้เลี้ยงสุกร ราชบุรี ไม่เห็นด้วยไทยเข้าร่วม TPP หวั่นหมูมะกันเข้ามาดั๊มพ์ตลาดทำลายหมูไทย

ศุกร์ ๐๖ พฤศจิกายน ๒๐๑๕ ๑๔:๑๕
(จังหวัดราชบุรี) นายนิพัฒน์ เนื้อนิ่ม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรจังหวัดราชบุรี เปิดเผยว่า สมาคมฯ ไม่เห็นด้วยกับการเข้าร่วมกลุ่มความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือทีพีพี (TPP) เนื่องจากมีความกังวลว่า สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นหัวเรือใหญ่ในกลุ่ม TPP และเป็นผู้ผลิตหมูรายใหญ่ของโลก จะผลักดันเนื้อหมูและชิ้นส่วนหมูที่ไม่เป็นที่ต้องการของชาวอเมริกัน เช่น เครื่องใน หัว และขา เข้ามาดั๊มพ์ตลาดในไทย ที่จะสร้างความเสียหายให้กับผู้เลี้ยงหมูไทย และภาคเกษตรที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้ปลูกถั่วเหลืองและข้าวโพดอาหารสัตว์

นายนิพัฒน์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาสหรัฐฯ มีความพยายามในการส่งเนื้อสุกรและผลิตภัณฑ์ที่มีราคาถูกเข้ามาขายในประเทศต่างๆรวมถึงประเทศไทยมาตลอด ดังจะเห็นได้จากการใช้มาตรการทางการค้าและอ้างเงื่อนไขของคณะกรรมการมาตรฐานอาหารระหว่างประเทศ หรือ CAC ของโคเด็กซ์ (Codex) มากดดันไทย ให้เปิดรับหมูสหรัฐฯ ที่อนุญาตให้เกษตรกรสามารถใช้ แร็กโตพามีน (Ractopamine) ซึ่งเป็นหนึ่งในสารเร่งเนื้อแดงกลุ่มเบต้า-อะโกนิสต์ (B-Agonist) ที่เป็นสารก่ออันตรายกับมนุษย์ได้อย่างเสรี ขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ของไทย ประกาศห้ามใช้สารเร่งเนื้อแดงกลุ่มเบต้า-อะโกนิสต์ เป็นส่วนผสมในการผลิตและนำเข้าซึ่งอาหารสัตว์ ตามพรบ.ควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์มาตั้งแต่ พ.ศ.2525 และพรบ.ควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2542 เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นแก่ผู้บริโภคหากได้รับสารนี้ที่ตกค้างอยู่ในเนื้อสัตว์

"หากในอนาคต ไทยตัดสินใจเข้าร่วมเป็นสมาชิก TPP สิ่งที่ผู้เลี้ยงหมูทุกคนพยายามป้องกันเรื่องหมูสหรัฐที่ใช้สารเร่งเนื้อแดงไม่ให้เข้ามาทำร้ายผู้บริโภคชาวไทยมาตลอดก็สูญเปล่า เพราะสหรัฐฯต้องใช้มาตรการและเงื่อนไขทางการค้าอย่างอื่นมากดดันให้ไทยต้องเปิดนำเข้าเนื้อหมูสหรัฐอย่างแน่นอน และในที่สุดคนไทยก็ต้องบริโภคหมูที่มีสารก่ออันตรายต่อสุขภาพ"

ขณะที่ ผลกระทบที่มีต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูทั้งประเทศ จากการนำเข้าเนื้อหมูอย่างเสรี คือ เกษตรกรจะไม่สามารถแข่งขันราคากับเนื้อหมูสหรัฐที่มีต้นทุนการผลิตต่ำกว่าได้ โดยหมูสหรัฐจะถูกส่งมาเขย่าฐานอุตสาหกรรมหมูของไทย เนื้อหมูจำนวนมากจะทะลักเข้ามาแข่งขันกับสินค้าในประเทศ ทำให้กลไกอุปสงค์-อุปทานแกว่งอย่างหนัก

"ผู้เลี้ยงหมูรายย่อยจะได้รับผลกระทบก่อนเป็นอันดับแรก เนื่องจากไม่สามารถควบคุมการผลิตและการตลาดได้ เมื่อราคาตลาดต่ำก็จะถูกพ่อค้าคนกลางกดราคา ที่สุดแล้วก็จะอยู่ไม่ได้ในธุรกิจนี้ ที่สุดแล้วห่วงโซ่การผลิตจะเสียหายจนไม่สามารถประเมินค่าได้ เมื่อไม่มีคนเลี้ยงหมู ก็จะเกิดผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปถึงผู้ผลิตสินค้าการเกษตรอื่นๆ ทั้งข้าวโพด ถั่วเหลือง และผู้ปลูกข้าวที่ขายรำข้าว จึงขอฝากภาครัฐให้พิจารณาเรื่อง TPP อย่างรอบคอบ" นายนิพัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๐๑ วช. ขับเคลื่อนงานวิจัยเชิงพื้นที่ 'ประเทศไทยปลอดภัยจาก PM2.5' มุ่งลดฝุ่นพิษภาคเหนืออย่างยั่งยืน
๑๘:๐๘ TKS จัดประชุมผู้ถือหุ้นปี 2568 ไฟเขียวจ่ายปันผลอีก 0.33 บ./หุ้น
๑๘:๔๙ STECH จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 แจกปันผลเป็นเงินสดหุ้นละ 0.034 บาท
๑๘:๒๒ SGP จัดประชุมผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติเคาะปันผลครึ่งปีหลัง 0.20 บาท/หุ้น
๑๘:๐๖ ผู้ถือหุ้น FLOYD พร้อมใจเห็นชอบ ไฟเขียวทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.08 บาท/หุ้น
๑๘:๑๑ TEKA จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 พร้อมไฟเขียวจ่ายปันผล 0.155 บาท
๑๘:๒๓ BRR จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นเคาะจ่ายปันผล 0.50 บาท/หุ้น
๑๘:๓๘ กลุ่มเหล็กรุ่นใหม่ เข้าพบ 'เอกนัฏ' ประสานเสียงให้กำลังใจ ดันยกเลิกเหล็ก IF กันเหล็กนำเข้าไร้มาตรฐาน
๑๘:๑๘ ดั๊บเบิ้ล เอ จับมือ เอเชีย เอรา วัน และกรมป่าไม้ จัดกิจกรรมรักษ์โลก สร้างสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
๑๗:๒๘ LPH ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห. ไฟเขียวจ่ายปันผลอีก 0.10 บ./หุ้น