ตามที่ คณะกรรมการ คปภ. เห็นชอบให้นายทะเบียนใช้อำนาจตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ได้มีคำสั่งนายทะเบียนที่ 39/2558 ให้ บมจ.สัญญาประกันภัย หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว และให้บริษัทเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาฐานะการเงินและการดำเนินงาน ประกอบด้วยการจัดหาเงินทุนให้เพียงพอต่อภาระผูกพันตามสัญญาประกันภัย และให้มีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนตามที่กฎหมายกำหนด การจัดให้มีระบบงานและบุคลากรที่มีคุณภาพในจำนวนที่เหมาะสมเพื่อให้บริการประชาชน และผู้เอาประกันภัย รวมถึงจัดให้มีคู่มือการปฏิบัติงานของพนักงานแต่ละระดับเป็นลายลักษณ์อักษรและเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2559 หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง นั้น
เพื่อให้มีการคุ้มครองผู้บริโภคซึ่งเป็นกลุ่มผู้เอาประกันภัยให้ได้รับสิทธิประโยชน์ที่ครบถ้วน ถูกต้องตามเงื่อนไขในสัญญาประกันภัย สำนักงาน คปภ. จึงได้ออกประกาศนายทะเบียน เรื่อง กำหนดการจ่ายเงินอื่นของบริษัท สัญญาประกันภัย จำกัด (มหาชน) ที่นายทะเบียนมีคำสั่งให้บริษัทหยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว พ.ศ. 2558 โดยมีความในประกาศฯ ห้ามมิให้กรรมการ พนักงาน และลูกจ้างของบริษัทสั่งจ่ายเงินของบริษัท หรือทำการเคลื่อนย้ายหรือจำหน่ายทรัพย์สินของบริษัท เว้นแต่ เป็นการจ่ายเงินเดือนหรือค่าจ้างแก่พนักงานหรือลูกจ้างของบริษัทตามปกติ รวมทั้งกำหนดให้บริษัทฯ สามารถจ่ายเงินโดยความเห็นชอบของนายทะเบียนหรือ ผู้ได้รับมอบหมายจากนายทะเบียนได้เฉพาะในกรณี การจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัย หรือผู้ได้รับความคุ้มครองตามสัญญาประกันภัยโดยตรง หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้รับค่าสินไหมทดแทนโดยชอบ การจ่ายคืนค่าเบี้ยประกันภัยแก่ผู้เอาประกันภัยรวมถึงการจ่ายค่าสาธารณูปโภค ค่าสื่อสาร ค่าภาษี และค่าธรรมเนียม/ค่าปรับ
ดร. สุทธิพล เลขาธิการ คปภ. กล่าวย้ำว่าจะถือนโยบายการคุ้มครองผู้บริโภคเป็นภารกิจที่สำคัญ เพื่อมิให้ผู้บริโภคที่เอาประกันภัยเดือดร้อน โดยขณะนี้ได้มีการประสานไปยังสำนักงาน คปภ. ภาค สำนักงาน คปภ. จังหวัด และสำนักงาน คปภ. เขต รวม 71 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้ทำการตรวจสอบสาขา/สำนักงานตัวแทนของบมจ. สัญญาประกันภัย ที่ตั้งอยู่ในเขตรับผิดชอบและให้ดำเนินการแจ้งการสั่งหยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว เพื่อป้องกันไม่ให้บริษัทฯ ออกกรมธรรม์รายใหม่ หากมีข้อสงสัยต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน คปภ. 1186 หรือ www.oic.or.th
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สายด่วน คปภ. 1186 หรือเว็บไซต์ www.oic.or.th หรือ ฝ่ายสื่อสารองค์กร โทรศัพท์ 02-515-3998-9 ต่อ 8307 โทรสาร 02-513-1437 http://www.facebook.com/PROIC2012