"รายงานข่าวที่ได้ปรากฏขึ้นอีกเมื่อเร็วๆนี้ได้ละเลยต่อข้อเท็จจริงที่ว่าราคานำเข้าที่บริษัทสำแดงได้รับการตรวจสอบทั้งจากหน่วยงานราชการไทยเองและหน่วยงานระหว่างประเทศที่มีความเชี่ยวชาญและอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบเรื่องราคาศุลกากร โดยหน่วยงานเหล่านี้ทั้งหมดได้มีข้อสรุปว่าบริษัทไม่พบว่ามีการกระทำผิดใดๆ"
ทั้งนี้ ในกรณีข้อพิพาทการค้าระหว่างฟิลิปปินส์กับประเทศไทย คณะทำงานระงับข้อพิพาทได้มีคำวินิจฉัยให้ประเทศไทยแพ้ในปี 2553 และระบุอย่างชัดเจนว่าประเทศไทยไม่มีมูลเหตุอันชอบธรรมที่จะปฏิเสธราคาสำแดงของบุหรี่ที่นำเข้าจากฟิลิปปินส์ เรื่องพิพาทดังกล่าวยังคงอยู่ในการติดตามของคณะทำงานระงับข้อพิพาทขององค์การการค้าโลกเนื่องจากยังมีประเด็นทางการค้าที่ประเทศไทยยังไม่ปฏิบัติตามให้สอดคล้องกับคำวินิจฉัยขององค์การการค้าโลกอย่างครบถ้วนแม้จะมีการร้องขอจากทางรัฐบาลฟิลิปปินส์อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด
"เรายินดีกับการตัดสินใจของรัฐบาลที่จะเข้ามาตรวจสอบในรายละเอียดอย่างใกล้ชิดก่อนที่จะมีการดำเนินการใดๆ เราเชื่อว่าคดีนี้เกี่ยวพันกับผลประโยชน์ในเรื่องการค้าระหว่างประเทศของประเทศไทยโดยตรง ที่ผ่านมามีความพยายามในการนำคดีนี้เข้าไปเป็นประเด็นทางการเมืองอย่างไม่เป็นธรรมมาเป็นระยะเวลานานแล้ว เราหวังว่ารัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงสื่อมวลชนจะคงความเป็นกลางและไม่สนับสนุนการกระทำใด ๆ ที่พยายามจะก่อความเข้าใจผิดให้กับสาธารณชนด้วยข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลในเรื่องนี้" นายพงศธรกล่าว