บล.เออีซี มองแนวโน้ม SET เดือนพ.ย.มีลุ้นพุ่งแตะ 1,450 จุด “ยุโรป-ญี่ปุ่น”จ่อเพิ่มวงเงิน QE/รัฐเดินหน้าลงทุนเมกะโปรเจ็กต์

จันทร์ ๐๙ พฤศจิกายน ๒๐๑๕ ๑๑:๓๕
บล.เออีซี ผ่ามุมมองตลาดหุ้นไทยในเดือนพ.ย. มีโอกาสทะยานแตะ 1,450 จุด ลุ้นธนาคารกลางยุโรป-ญี่ปุ่น เพิ่มวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านมาตรการ QE/รัฐเดินหน้าลงทุนเมกะโปรเจ็กต์ กระตุ้นเศรษฐกิจ แนะเลี่ยงลงทุนกลุ่มสื่อสาร-แบงก์ เปลี่ยนไปช้อปหุ้นสินเชื่อเช่าซื้อแทน ชู SAWAD แจ่มสุด!!! และเลือก BJC เป็นหุ้น Turnaround

นายเกรียงไกร ทำนุทัศน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) (AECS) เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเดือน พ.ย.58 มีโอกาสปรับตัวไปกลับระดับ 100 จุด โดยเรามองตลาดหุ้นไทยมีโอกาสแกว่งตัวไปในกรอบ 1,350 จุด ถึง 1,450 จุด โดยอาจเริ่มต้นอย่างผันผวน จากปัจจัยเสี่ยง ประกอบด้วย 1) ความผันผวนของหุ้นกลุ่มสื่อสารช่วงใกล้ประมูล 4G 2) ความแตกต่างระหว่างนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ที่เตรียมความพร้อมสำหรับการขึ้นอัตราดอกเบี้ย Fed Funds Rate กับ ยุโรปและญี่ปุ่นที่กำลังรอจะออกมาตรการเพิ่มวงเงินการทำ QE โดย SET มีโอกาสพักลงมาที่ 1,370 จุดก่อนปรับขึ้น

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยบวกที่รอผลักดันตลาดในช่วงครึ่งหลังของเดือน พ.ย. 58 คือ แรงเทขายของ US Treasury เข้าสู่ Risky Assets หลังจากที่สหรัฐฯสามารถผ่านมติเรื่อง US Debt Ceiling และแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย Fed Funds Rate ขณะที่ ECB, BoJ มีแนวโน้มที่จะเพิ่มระดับการทำ QE รวมถึงเม็ดเงินนักลงทุนสถาบันที่จะเริ่มปรับเข้ามา 2-4 หมื่นล้านบาท ในช่วงปลายปี และ ความชัดเจนของโครงการลงทุนสาธารณูปโภคของรัฐบาล เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

"การปรับขึ้นของตลาดหุ้นไตรมาส 4/58 ยังไม่จบ เราประเมินว่าในช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค.58 ตลาดหุ้นยังมีปัจจัยบวกทั้งจากต่างประเทศ จากความคาดหวังเรื่องการปรับเพิ่มปริมาณการทำ QE ของ ยุโรป และญี่ปุ่น และ ปัจจัยในประเทศที่สัดส่วนการเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐฯเริ่มปรับเพิ่ม กาลดอุปสรรคในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการทยอยเปิดโครงการลงทุนภาครัฐฯ

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำหุ้นในกลุ่ม Finance เนื่องจากวัฏจักรสินเชื่อกลุ่ม Finance เป็นขาขึ้น จากการเติบโตของสินเชื่อส่วนบุคคลในประเทศ รายได้ค่าธรรมเนียมการบริหารหนี้ และการขยายตัวของสินเชื่อไปในต่างประเทศ SAWAD, MTLS, GL, KTC คือ กลุ่มที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่นสุด

ขณะที่หุ้นที่ผลการดำเนินงานแข็งแกร่งกว่าเศรษฐกิจ หรือมีผลการดำเนินงานฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2558 ได้แก่ FORTH, KAMART, BJC, SYNTEC, BKD, NYT, VTE, และSMPC

สำหรับหุ้นกลุ่มสื่อสาร ให้น้ำหนักเท่ากับตลาด แต่มีโอกาสผันผวนในช่วงเดือนพ.ย. เนื่องจากความเสี่ยงปัจจัยระยะสั้นที่ต้องจับตาคือช่วงใกล้การประมูล 4G โดยให้รอดูการประมูลว่าจะมีความราบรื่นหรือไม่ ขณะที่ หุ้นกลุ่มธนาคาร ให้น้ำหนักต่ำกว่าตลาด ยังคงเป็นกลุ่มธนาคาร ซึ่งยังมีปัจจัยกดดันต่อการขยายสินเชื่อที่ต่ำกว่าเป้า และความเสี่ยงของ NPL ที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้นโดย

ทั้งนี้ แนะนำให้เปลี่ยนกลุ่มลงทุนไปที่กลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อ เลือก SAWAD, KTC ทดแทนกลุ่มธนาคารพาณิชย์ทั้งหมด และเลือก BJC เป็นหุ้น Turnaround

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๓ LE โชว์ผลงาน Q3/67 กำไรทะยาน 312% รายได้อยู่ที่ 720 ลบ. ส่งซิก Q4 โตต่อเนื่อง ล่าสุดกอด Backlog แน่น 1,300
๑๗:๕๐ แม็คโคร พัทยา ปรับโฉมใหม่ รองรับกำลังซื้อช่วงไฮซีซั่น พร้อมจัดแคมเปญขอบคุณลูกค้าส่งท้ายปี ส่งมอบความคุ้มค่าทั่วเมืองพัทยา
๑๗:๒๑ ยันม่าร์ โชว์นวัตกรรมการเกษตร ในงานประชุมใหญ่ชาวไร่อ้อยสามัญประจำปี พร้อมฉลองครบรอบ 45 ปี สนับสนุนเงินดาวน์แทรกเตอร์ถึง 3
๑๗:๕๒ CHAYO งบ Q3/67 สุดปังทั้งรายได้และกำไร งวด 9 เดือนรายได้พุ่ง 38.85% มั่นใจรายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 20%
๑๗:๔๘ TNP เข้ารับเกียรติบัตร CAC ในฐานะบริษัทฯ ที่ได้รับการต่ออายุรับรองครั้งที่ 2 มุ่งมั่นเป็นองค์กรที่ร่วมต่อต้านคอร์รัปชันในภาคเอกชนไทย
๑๗:๕๙ คริสตัล โฮม ร่วมกับ AXOR จัดเวิร์กชอป The Power of Colors เผยเคล็ดลับดีไซน์ห้องน้ำหรูด้วยสีสันที่โดดเด่น
๑๗:๓๕ ทีเอ็มบีธนชาต ชวนซื้อสลากกาชาดทีทีบี ได้บุญ พร้อมลุ้นโชค 716 รางวัล รวมมูลค่ากว่า 7 ล้านบาท ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ การให้ บำรุงสภากาชาดไทย
๑๗:๒๕ PRTR ประกาศงบ Q3/67 กำไรนิวไฮอีกครั้ง โตกว่า 14% ธุรกิจ Outsource ดาวเด่น คาด Q4/67 ดีมานด์พุ่ง
๑๗:๔๔ PLUS ส่ง Coco Royal ลุยช่องทางการขายชั้นนำในจีน ดันยอดขายพุ่ง รับออเดอร์ลูกค้ารายใหญ่ พร้อมเดินหน้าเต็มกำลังการผลิต
๑๗:๓๘ PRAPAT ฟอร์มแกร่ง! กวาดกำไร Q3/67 โต 77% แตะ 17.49 ล้านบาท รับปัจจัยหนุนจากรายได้กลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านครัว