เซลีน หลุยส์ แห่งบริษัท บาคาร์ดี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หลังจากหยุดไป 2 ปี เราได้นำการแข่งขันกลับมาอีกครั้งพร้อมความน่าสนใจและความตื่นเต้นที่มีมากขึ้นจากชุมชนชาวบาร์เทนเดอร์ โดยมีผู้เข้าร่วมแข่งขันทั้งจากกรุงเทพฯ สมุย และเชียงใหม่ ผู้เข้ารอบ 5 คนสุดท้ายจะต้องโปรโมทค็อกเทลสูตรเฉพาะของพวกเขาเป็นเวลา 4 เดือนที่บาร์ของพวกเขาเองหรือบาร์อื่นๆ ตลอดจนสังคมออนไลน์เพื่อเชิญชวนผู้บริโภคมาร่วมลิ้มลอง นอกจากนี้ ยังมีซีรี่ส์เวิร์คช็อปโดยนักผสมเครื่องดื่มชั้นนำของโลก โดยการแข่งขันรอบสุดท้ายเพื่อเฟ้นหาผู้ชนะจะมีขึ้นในเดือนมีนาคม 2559
กิจกรรมในครั้งนี้ได้ ปีเตอร์ ฉั่ว ผู้ชนะเลิศ บาคาร์ดี เลกาซี่ ค็อกเทล คอมเพททิชั่น ประจำประเทศสิงคโปร์ ให้เกียรติเป็นประธานคณะกรรมการตัดสิน และเป็นบาร์เทนเดอร์รับเชิญ เสิร์ฟค็อกเทลสูตรเฉพาะคู่กับนางสาวสุวิญชา สิงห์สุวรรณ หรือ ชาช่า และ นายสุวรรณ สีลี หรือ ทอมมี่ ผู้ชนะเลิศการแข่งขันบาคาร์ดี เลกาซี่ ค็อกเทล คอมเพททิชั่น 2012 และ บาคาร์ดี เลกาซี่ ค็อกเทล คอมเพททิชั่น 2013 ประจำประเทศไทย ตามลำดับ
นางสาววรีวรรณ ยอดกมล จากร้านเวสเปอร์ (Vesper) หนึ่งในผู้เข้ารอบ 5 คนสุดท้าย ผู้สร้างสรรค์ค็อกเทลลิตเติ้ลวิงส์ (Little Wings) กล่าวว่า "ดิฉันเชื่อว่าทุกคนเกิดมาพร้อมปีกเล็กๆ จงสยายปีกออกแล้วบินให้สูง ในฐานะบาร์เทนเดอร์ เป้าหมายของดิฉัน คือ การได้ดูแลแขกที่มานั่งดื่มและพักผ่อนในร้าน ไม่ว่าความรู้สึกของพวกเขาจะเป็นอย่างไร จะเหนื่อย เศร้า เหงา สุข หรือทุกข์ ดิฉันพร้อมจะให้กำลังใจ เพื่อให้พวกเขามีช่วงเวลาดีๆ เปลี่ยนวันแย่ๆ ให้เป็นวันที่ดีขึ้น เหมือนปีกของค้างคาว สัญลักษณ์ประจำบาคาร์ดี ซึ่งผ่านอุปสรรคมากมายจนสามารถยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่ง เครื่องดื่มนี้สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อมอบความแข็งแกร่งและความรู้สึกดีๆ ให้กับผู้ที่ได้ลิ้มลอง"
มิทเชล ลัม จากร้านแอมบาร์ (AmBar) ผู้สร้างสรรค์ค็อกเทล ฮาวเล่ (Haole) กล่าวว่า "ผมเป็นบาร์เทนเดอร์และเดินทางไปทั่วโลกมานานกว่า 3 ปีครึ่งแล้ว ทุกๆที่ที่ผมไปผมเป็นชาวต่างชาติ ดังนั้นผมจึงมักแสดงความเคารพต่อที่ๆ ผมจากมานั่นคือ เมืองโฮโนลูลู มลรัฐฮาวาย ผมเติบโตในฮาวาย ทุกวันอาหารว่างของผมคือสัปปะรดหวานฉ่ำ ไม่ว่าจะเป็นถาดอาหารกลางวันที่โรงเรียน หรือริมชายหาด ผมต้องการสร้างสรรค์ค็อกเทลที่มีส่วนผสมของความรื่นรมย์ยามบ่ายในวัยเด็กของผมให้เข้ากับสุนทรีย์แห่งความเป็นผู้ใหญ่ที่ผมได้ค้นพบ ค็อกเทลของผมเรียกว่า เดอะ ฮาวเล่ (The Haole)"
ฮิเดยูกิ ไซโต จากโว้ค เล้านจ์ (Vogue Lounge) ผู้สร้างสรรค์ค็อกเทลควินตัส (Quintus) กล่าวว่า "ผมได้รับแรงบัลดาลใจจากความนุ่มนวลและความดรายที่เป็นเอกลักษณ์ของบาคาร์ดี และเครื่องดื่มเก่าแก่อย่างพั้นช์ ซึ่งมาพร้อมประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ผมใช้ส่วนประกอบห้าอย่างของพั้นช์ เพื่อดึงคาแร็คเตอร์ของบาคาร์ดีออกมา ซึ่งคำว่า Quintus เป็นภาษาละติน แปลว่า ห้า โดยการให้ชื่อค็อกเทลนี้ว่า Quintus ยังเป็นการแสดงความนับถือในตระกูลบาคาร์ดีรุ่นที่ห้าสำหรับผลงานที่พวกเขาได้ทำ นอกเหนือจากนี้
ชื่อค็อกเทล Quintus ก็ได้รับแรงบัลดาลใจมาจาก Punch ด้วยเช่นกัน
นายสราวุธ ปิ่นเพชร จากแบมบู บาร์ ผู้สร้างสรรค์ค็อกเทล เดอะ ซีรีนนิตี้ (The Serenity) กล่าวว่า "เดอะซีรีนนิตี้ ได้รับแรงบันดาลใจจากความละเอียดนุ่มละมุนของบาคาร์ดี นับตั้งแต่วิธีการเลือกส่วนผสมไปจนถึงกระบวนการบ่มเช่นเดียวกับค็อกเทลที่ผมสร้างสรรค์ขึ้นมา ซึ่งผสมผสานวิธีการปรุงอาหารไทยที่เรียบง่ายและสง่างามเช่นเดียวกับรัมบาคาร์ดี"
เซบาสเตียน เดอ ลา ครูซ จากร้านอังเคิล U.N.C.L.E ผู้สร้างสรรค์ค็อกเทล เดอะ เอ็กซ์แพท (The Expat) กล่าวว่า "เครื่องดื่มของผมสะท้อนประสบการณ์การเดินทางในฐานะบาร์เทนเดอร์และการย้ายมายังประเทศไทย การเดินทางของผมทำให้ผมเป็นชาวต่างชาติ (Expat) ในที่นั้นๆ ผมได้มีประสบการณ์พบเจอวัฒนธรรมใหม่ๆ, แรงบันดาลใจที่หลากหลาย และได้ค้นหารสชาติใหม่ๆที่ช่วยให้ผมสร้างสรรค์ค็อกเทลของผม และเติบโตในฐานะบาร์เทนเดอร์"
ผู้เข้ารอบสุดท้ายทั้ง 5 คนจะนำค็อกเทลสูตรเฉพาะมาแข่งขันในรอบสุดท้ายของประเทศไทยในเดือนมีนาคม 2559 เพื่อค้นหาตัวแทนที่จะแข่งขันในรอบสุดท้ายระดับโลก ณ เมืองซาน ฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา