พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๔๒ กำหนดให้เดือนพฤศจิกายนของทุกปีเป็น "เดือนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี" กระทรวงการพัฒนาสังคมและ ความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) และหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อง จึงได้ร่วมกันจัดกิจกรรมและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์รณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และความรุนแรงในครอบครัว ทั่วประเทศตลอดทั้งเดือนพฤศจิกายน เพื่อให้สังคมได้ตระหนักและเห็นถึงความสำคัญของปัญหาความรุนแรง รวมทั้งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐ ซึ่งมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๐ ส่งผลให้ประชาชนได้เข้าใจและเข้าถึงสิทธิของตนเองในการใช้กฎหมายดังกล่าว อันจะเป็นเครื่องมือหนึ่งในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของบุคคลในครอบครัวจากความรุนแรงที่ส่วนใหญ่เป็นเด็กและสตรี ตลอดจนเพื่อให้ทุกภาคส่วนของสังคมได้ประสานความร่วมมือเพื่อยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และความรุนแรงในครอบครัว โดยนำริบบิ้นสีขาวซึ่งเป็นสัญลักษณ์สากลที่มีความหมายถึงการไม่ยอมรับ ไม่นิ่งเฉย และไม่กระทำรุนแรงต่อสตรีในทุกรูปแบบ มาใช้ในการรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อสตรีอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อไปว่า เนื่องจากในปี ๒๕๕๘ เป็นปีที่มีการรวมตัวของกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง ๑๐ ประเทศ ทั้งในด้านการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคมวัฒนธรรม โดยประเทศไทยได้เตรียมความพร้อมและใช้โอกาสจากการรวมตัวของกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนในครั้งนี้ ที่มีการเชื่อมโยงภายในภูมิภาค ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน กฎระเบียบ และประชาชน ซึ่งจะเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตและสวัสดิการของประชาชน ที่ดีขึ้น รวมทั้งสร้างความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและความมั่นคงในรูปแบบต่างๆ ทั้งนี้ กระทรวง การพัฒนาสังคมฯ โดย สค. ร่วมกับหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อง จึงได้จัดงานรณรงค์ยุติความรุนแรงฯ ประจำปี ๒๕๕๘ ภายใต้แนวคิด "อาเซียนร่วมใจ...ไร้ความรุนแรง" (Stop Violence… ASEAN Together) เพื่อสร้างกระแสสังคมให้เกิดความตระหนักต่อปัญหาและนำไปสู่การรวมพลังของทุกภาคส่วนในการยุติความรุนแรงในประเทศไทยและ ทุกประเทศในภูมิภาคอาเซียน
"กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ขอเชิญชวนหน่วยงาน และประชาชน ทุกเพศ ทุกวัย ร่วมแสดงพลังสร้างสรรค์ "ไม่ยอมรับ ไม่นิ่งเฉย ไม่กระทำความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และ ความรุนแรงในครอบครัว" ภายใต้แนวคิด "อาเซียนร่วมใจ...ไร้ความรุนแรง" (Stop Violence…ASEAN Together) เพื่อแสดงตนในการร่วมยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และความรุนแรงในครอบครัวทุกรูปแบบ หากพบเห็นการกระทำความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว แจ้งเหตุหรือแจ้งเบาะแสได้ที่ OSCC ศูนย์ช่วยเหลือสังคม โทรสายด่วน ๑๓๐๐ ทั่วประเทศ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง" พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวท้าย