คนไทยจะรู้จักครัวซองต์ไทยากิกันในรูปของขนมรูปปลา ที่ให้ความกรอบและหวานพอดี หรือ ถ้าเป็นนักเดินทางที่ชอบท่องเที่ยวต่างประเทศ ก็คงจะได้รู้จักในชื่อเสียงของครัวซองต์ไทยากิที่เปิดให้บริการอยู่บนห้างสรรพสินค้าและสถานีรถไฟฟ้าหลายแห่งในประเทศญี่ปุ่น โดยบริษัท ฮอทแลนด์ จำกัด และการขยายสาขาในรูปแบบของแฟรนไชส์ในอีกหลายประเทศ อาทิ เกาหลีใต้, จีน, สหรัฐอเมริกา สำหรับในประเทศไทย คุณกรกฤชและคุณบงกชกรได้ซื้อมาสเตอร์แฟรนไชส์มา โดยที่มีต้นตำรับมาจากประเทศญี่ปุ่น จากความชอบส่วนตัวในการทานขนมของคุณบงกชกร ซึ่งคุณบงกชกร และครอบครัวได้มีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศบ่อย และได้รู้จักครัวซองต์ไทยากิ ขนมที่มีกำลังมีชื่อเสียงของฝรั่งเศส และต่อคิวยาวมากที่ประเทศญี่ปุ่น จึงมาปรึกษาและชักชวนคุณกรกฤชให้มาชิมรสชาติครัวซองต์ไทยากิที่ประเทศญี่ปุ่น หลังจากนั้น ก็รู้สึกติดใจในรสชาติ จึงตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์มาเปิดในประเทศไทย
ครัวซองต์ไทยากิ ได้เปิดให้บริการมาเป็นระยะเวลา 1 ปี บนศูนย์การค้าชั้นนำต่างๆ ปัจจุบันมีทั้งหมด 18 สาขา ได้แก่เอสพลานาด ชั้น G, เมกาบางนา ชั้น L1, เอ็มควอเทียร์ ชั้น G ,สยามเซ็นเตอร์ ชั้น 4 , เซ็นเตอร์พอยท์ ออฟ สยามสแควร์ ,เซ็นทรัลเวิล์ด ชั้น 7 , เดอะมอลล์บางแค ชั้น G , เดอะมอลล์บางกะปิ ชั้น G, เดอะมอลล์งามวงศ์วาน ชั้น G , แฟชั่นไอส์แลนด์ ชั้น B , เดอะมอลล์ 2 รามคำแหง , เมเจอร์ฯ รัชโยธิน ชั้น 2 , ห้างแปซิฟิกพาร์ค ศรีราชา ชั้น 3 , ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ชั้น B, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ชั้น G, เซ็นทรัล เวสเกต ชั้น 1 , ห้างอยุธยา พาร์ค ชั้น 2, บูทชั่วคราวที่เซ็นทรัล ขอนแก่น ชั้น 4 ตั้งแต่ 30 ต.ค. เป็นเวลา 2 เดือน (ข้อมูล ณ วันที่ 15 พฤศจิกายน 2558) และกำลังจะเปิดเพิ่มอีก 3 สาขา ที่เซ็นทรัล ลาดพร้าว และเดอะมอลล์ ท่าพระ และห้างแพชชั่น บาย แหลมทอง(Passione by Laemthong) จ.ระยอง สำหรับปี 2559 มีแพลนจะขยายเพิ่มอีก 10-15 สาขา
จุดเด่นของร้านครัวซองต์ไทยากิ คือ การทำสดๆให้ลูกค้าให้เห็นทุกขั้นตอนการทำ ดังนั้น ร้านที่เปิดให้บริการจะเหมือนจะยกครัวมาวางไว้หน้าร้าน ความสดและกลิ่นที่เกิดจากอบใหม่ เชิญชวนให้ผู้คนที่ผ่านไปมาแถวร้าน แวะลิ้มลองรสชาติของขนมครัวซองต์ไทยากินี้ นอกจากนี้ จุดเด่นของตัวขนมครัวซองต์ไทยากิ คือ แป้งโดว์ครัวซองต์สูตรพิเศษหนา 24 ชั้นที่เคลือบด้วยน้ำตาลเกล็ดใหญ่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น เมื่อนำไปย่างขึ้นเป็นรูปปลา น้ำตาลจะละลายเคลือบที่ผิวหน้า ทำให้แป้งมีความกรอบนอก นุ่มใน และไส้ที่อัดแน่นต่างๆ มากกว่า 20 ไส้ ที่ทำมาจากวัตถุดิบคุณภาพดี ช่วยเสริมให้รสชาติของครัวซองต์ไทยากิเป็นที่ถูกใจลูกค้า และเป็นที่รู้จักของกลุ่มผู้บริโภคคนไทยได้ไม่ยาก แม้ว่าการแข่งขันในธุรกิจขนมในกลุ่มเบเกอรี่ที่นำเข้าจากต่างประเทศจะมีอยู่หลายรายในศูนย์การค้าชั้นนำ
สำหรับครัวซองต์ไทยากิ ในช่วงแรกมีการวางแผนการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้ ได้ทำการประชาสัมพันธ์ผ่านเฟสบุ๊คและอินสตาแกรมของดารา นักแสดง เซเลบริตี้ต่างๆ จนเริ่มเป็นที่รู้จักและเป็นที่พูดถึงของผู้คนทั่วไป จนมีการเปิดบูทชั่วคราวระยะสั้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 18-19 ต.ค. 2557 ที่ตึกเอท ทองหล่อ ทำให้ผู้คนที่ติดตามอยากจะลิ้มลองรสชาติก็หลั่งไหลมาต่อแถวเข้าคิวซื้อขนมจนจำนวนขนมไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค ทำให้ครัวซองต์ไทยากิต้องหาพื้นที่ชั่วคราวเพื่อเปิดบูทชั่วคราวอีกครั้ง และด้วยความอร่อยของครัวซองต์ไทยากิที่เป็นที่พูดถึงกันเป็นอย่างมาก ทำให้มีลูกค้าที่มาเข้าคิวต่อแถวซื้อเพิ่มมากขึ้นๆ เรื่อย จนเกิดเป็นปรากฏการณ์ต่อแถวที่ยาวนานถึง 4 ชม.
จากความอร่อยที่เป็นกระแสพูดถึงกันมากในโลกโซเชียล ครัวซองต์ไทยากิจึงเปิดร้านถาวรสาขาแรกที่ศูนย์การค้าเมกา บางนา ชั้น 1 ผ่านไป 1 ปีมีจำนวน 18 สาขา รูปแบบร้านจะมีทั้งแบบเป็นคีออส และแบบมีที่นั่งทาน ซึ่งแตกต่างจากร้านต้นแบบแฟรนไชส์ในประเทศญี่ปุ่นที่ส่วนใหญ่จะเป็นคีออส ไม่มีที่นั่งทาน อยู่ตามสถานีรถไฟหรือแหล่งช็อปปิ้งต่างๆ สิ่งที่ร้านครัวซองต์ไทยากิในประเทศไทยแตกต่างจากต้นแบบแฟรนไชส์อีกอย่าง คือ ขนมครัวซองต์ไทยากิในประเทศไทยถูกวางจุดขายให้เป็นทั้งขนมและของว่างระหว่างมื้อ เพราะมีทั้งไส้หวานที่มีเกล็ดน้ำตาลเคลือบและไส้คาวที่ไม่มีเกล็ดน้ำตาล ซึ่งแตกต่างจากต้นแบบบแฟรนไชส์ในประเทศญี่ปุ่นที่วางจุดขายให้เป็นขนมที่มีเพียงไส้หวานเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ เครื่องดื่มที่ขายภายในร้านจะเป็นสูตรของครัวซองต์ไทยากิเอง เพราะบริษัทเจ้าของแฟรนไชส์ไม่มีเครื่องดื่ม ปัจจุบันมีเครื่องดื่ม 2 สูตร คือ เครื่องดื่มมัทฉะต้นตำรับและเครื่องดื่มมัทฉะลาเต้ อีกหนึ่งกลยุทธ์หนึ่งทางการตลาดของครัวซองต์ไทยากิในเรื่องของสินค้า คือ ไส้ที่สี่ของแต่ละสาขาจะเป็นไส้ซิกเนเจอร์หรือไส้พิเศษที่มีจำหน่ายเฉพาะสาขาเท่านั้น เพื่อเป็นการสร้างความแตกต่างให้สาขาแต่ละสาขา ถือเป็นสิ่งดึงดูดให้ผู้บริโภคที่ชื่นชอบขนมครัวซองต์ไทยากิติดตามไปลิ้มลองรสชาติทุกสาขาอีกด้วย สำหรับแผนการตลาดในปี 2559 จะใช้แผนการตลาดแบบใหม่ โดยนำบุคคลที่มีเอกลักษณ์ 4 คนได้แก่ ตัวแทนของกลุ่มคนรักสุขภาพ ตัวแทนกลุ่มเด็ก ตัวแทนกลุ่มคนวัยทำงาน และเชฟจากอิตาลี มาคิดค้นรสชาติใหม่วางขายในแต่ละช่วงตลอดทั้งปี
หลังจากที่เปิดสาขาแรก มาถึงวันนี้ ครบรอบ 1 ปี ครัวซองต์ไทยากิได้มีการเปิดตัวสินค้าใหม่ คือ ครัวซองต์ไทยากิ ไอซ์ ซึ่งเป็นการนำเอาเอกลักษณ์ความโดดเด่นของแป้งครัวซองต์ น้ำตาลเกล็ดใหญ่ สอดไส้ด้วยไอศกรีมวานิลลาและไอศกรีมชาเขียวมัทฉะ ซึ่งวางจำหน่ายที่ศูนย์การค้าดิ เอ็มควอเทียร์เป็นที่แรกตั้งแต่วันที่ 7-30 พฤศจิกายน 2558 และตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2558 จะวางจำหน่ายทุกสาขาพร้อมกัน นอกจากนี้ ยังมีการยกระดับแบรนด์ให้มีภาพลักษณ์ที่สดใส ดูทันสมัยมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับลักษณะของกลุ่มเป้าหมาย โดยเปลี่ยนแปลงบรรจุภัณฑ์ เช่น กล่องบรรจุขนม ซองใส่ขนม แก้วน้ำ เป็นต้น และการปรับเปลี่ยนชุดยูนิฟอร์มให้ดูมีภาพลักษณ์ที่ทันสมัย มีสไตล์มากขึ้น
สำหรับยอดขายสะสมตั้งแต่เปิดร้านครั้งแรกในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว จนถึงตุลาคม 2558 มียอดขายสะสมรวม 149 ล้านบาท ยอดขายทุกสาขาเฉลี่ยต่อเดือน 11.5 ล้านบาท โดยตั้งเป้าไว้ที่ 160 ล้านบาท ภายในสิ้นปี ราคาขายชิ้นละ 60-75 บาท กำลังการผลิตเฉลี่ยอยู่ที่เดือนละ 2 แสนตัว กลุ่มลูกค้าปัจจุบันจะมีอยู่ทุกเพศ ทุกวัย ส่วนแผนการขยายสาขา มีแผนจะขยายโดยจะมีการแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ขยายสาขาโดยครัวซองต์ไทยากิเองและการเปิดรับซัพ-แฟรนไชส์ทั้งในกรุงเทพฯ และตามต่างจังหวัดหัวเมืองใหญ่ๆ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต ขอบแก่น นครราชสีมา ชลบุรี เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย 35 สาขา ภายใน 6 ปี โดยมีรูปแบบบูทจำหน่าย คือ ขนาด 2 เตาและ 3 เตา เงินลงทุนเริ่มต้น 3.0-3.5 ล้านบาท คิดค่ารอยัลตี้ฟี 6% ของยอดขายแต่ละเดือน
ไม่เพียงแต่การขยายสาขาในประเทศไทยเท่านั้น ครัวซองต์ไทยากิยังมีแผนร่วมทุนจัดตั้งกับ"บริษัท ฮอตแลนด์ จำกัด" เจ้าของเฟรนไชส์ครัวซองต์ไทยากิจากประเทศญี่ปุ่น โดยทางบริษัท สเพลนดิด จำกัดถือหุ้นใหญ่ เพื่อขยายสาขาไปยังตลาด AEC ในประเทศเพื่อนบ้านอีก 9 ประเทศ ทั้งในรูปแบบของการลงทุนเองและร่วมทุนกับพันธมิตรท้องถิ่นที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในตลาดเบเกอรี่ โดยจะเริ่มมุ่งขยายสู่ตลาดอินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย ที่มีกำลังซื้อสูงในช่วงเฟสแรก แล้วจึงจะขยายเข้าสู่ตลาดซีแอลเอ็มวี ได้แก่ ลาว เมียนมาร์ กัมพูชา เวียดนามตามลำดับ ซึ่งคาดว่าจะได้เปิดสาขา AEC สาขาแรกไตรมาสที่ 1 ปี 2559