“โนเบิล คอสเพอร์” ขนนวัตกรรมล้ำสมัยจากเรมิงตัน และรัสเซลล์ ฮอบส์ บุกตลาดในไทย ตอกย้ำความสำเร็จผู้นำสินค้านำเข้าระดับโลก

นางสาวอารดา วิทยวิรานนท์ กรรมการผู้บริหาร บริษัท โนเบิล คอสเพอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้นำเข้า และตัวแทนจำหน่ายสินค้าแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ด้านความงาม ปัจจุบันทางบริษัท หันมาให้ความสำคัญที่สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านมากขึ้น โดยมีขยายกลุ่มเครื่องครัวไฟฟ้า นอกเหนือจากเครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่มความงาม แบรนด์ที่จัดจำหน่ายปัจจุบัน ได้แก่ เรมิงตัน รัสเซลล์ ฮอบส์ โฮมท๊อป และ ออบิท และวันนี้เราถือโอกาสเปิดตัว สินค้าใหม่ ซึ่งได้แก่ อุปกรณ์สำหรับจัดแต่งทรง Curl Revolution จาก เรมิงตัน เหมาะสำหรับผู้นิยมผมเป็นลอนดัดแบบหลวมๆ จุดเด่นของผลิตภัณฑ์นี้ ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย สำหรับผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วและไม่ค่อยมีความชำนาญในการม้วนผม และกลุ่มเครื่องเตรียมอาหาร Illumina Range จาก รัสเซลล์ ฮอบส์ ที่มีนวัตกรรมล้ำในด้าน ดีไซด์และเทคโนโลยี ออกแบบรูปทรงหรูหราด้วยสีดำสแตนเลส มีแสงวงแหวนเป็นสีบ่งบอกสปีดการใช้งานของเครื่อง

เรมิงตัน (Remington) เป็นแบรนด์อุปกรณ์ดูแล ตกแต่งเส้นผมและหนวดเครา จากอเมริกา ที่มีชื่อเสียงแพร่หลายในทวีปอเมริกา ยุโรป และ ออสเตรเลีย ถือเป็นผู้ผลิตเครื่องโกนหนวดไฟฟ้าไร้สายเจ้าแรกของโลก มีจุดเด่นเรื่องสินค้าและนวัตกรรมกลุ่มอุปกรณ์ตกแต่งเส้นขนและหนวดเคราผู้ชาย มีสินค้า 75 SKU ซึ่งแบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ คือ Hair care (อุปกรณ์ดูแลผม), Shaver&grooming (อุปกรณ์ตัดแต่งเส้นผมและหนวดเครา) และ Epilation (กลุ่มเครื่องถอดขนสตรี) สัดส่วนการขายอยู่ที่ haircare 55%, shaver&grooming 45% และ epilation 5% สินค้าที่ขายได้มากสุดคือเครื่องหนีบผมเพราะเรามีรุ่นมากที่สุดในตลาดอีกและมีนวัตกรรมล้ำสุด รองลงมาจะเป็นอุปกรณ์ตัดแต่งหนวดเคราของผู้ชายที่มีทางเลือกให้ลูกค้ามากมาย

รัสเซลล์ ฮอบส์ (Russell Hobbs) ผลิตภัณฑ์เครื่องครัวไฟฟ้าจากประเทศอังกฤษ ที่มีชื่อเสียงมากว่า 60 ปี ก่อตั้งโดยผู้คิดค้นและประดิษฐ์กาต้มน้ำไฟฟ้าเป็นเจ้าแรกในโลก บิล รัสเซลล์ และ ปีเตอร์ ฮอบส์ เน้นการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ทันสมัยมีสไตล์ และใช้ง่ายได้ง่าย ปัจจุบันสินค้ารัสเซลล์ ฮอบส์ เป็นแบรนด์ที่มียอดขายอันดับ 1 ในอังกฤษ ออสเตรเลีย และ แอฟริกาใต้ โดยจัดเป็นแบรนด์ที่มีการเติบโตเร็วมากที่สุดในยุโรป มีสินค้า 25 SKU แบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ Breakfast (อุปกรณ์ทำอาหารเช้า) Food preparation (เครื่องเตรียมอาหาร) และ Grill & Cooking (เครื่องทำอาหาร) สัดส่วนการขาย Breakfast 25%, Food preparation 60%, Grill & Cooking 15%นางสาวอารดา กล่าวเพิ่มเติมว่า "เรมิงตัน เป็นสินค้าที่มากกว่า hair tool หรือ สินค้า DIY เพราะนอกจากการใช้งานให้ได้ผลลัพธ์ดีแล้ว ยังคำนึงถึงความต้องการอื่นๆของผู้บริโภคด้วย อาทิ การเคลือบ micro conditioner (เคราติน ซิลค์โปรตีน ไข่มูก หรือ argan oil) ไปในตัวอุปกรณ์ เพื่อช่วยบำรุงเส้นผมไปในตัว, ความพิเศษของเครื่องตกแต่งหนวดเคราในบางรุ่น ที่สามารถดูดเศษหนวดเคราไว้ในเครื่อง เหมือนเครื่องดูดฝุ่น และ อุปกรณ์ตัดผม ที่รับประกันความแข็งแรงทนทานของมอเตอร์ ใบมีดไททาเนียมที่บรรจุในกล่องpolycarbonate ที่แม้จะทำตกหล่นจากที่สูง ใบมีดและมอเตอร์ก็ยังทำงานได้ดีเยี่ยม ปัจจุบัน เรมิงตันเริ่มขยาย สินค้ากลุ่มความงามมาที่กลุ่ม well-being เช่น แปรงไฟฟ้าทำความสะอาดหน้า และ สินค้า IPL กำจัดเส้นขน ซึ่งจะมีจำหน่ายในไทยเร็วๆ นี้

ส่วน รัสเซลล์ ฮอบส์ ความพิเศษอยู่ที่ เขาให้ความสำคัญของอารมณ์ของผู้ใช้เป็นหลัก ดังนั้นสินค้าทุกตัวจะออกแบบสวยเน้นดีไซด์ทันสมัย มีคอลเลคชั่นออกใหม่เรื่อยๆ เหมือนสินค้า IT gadget ที่ต้องมีการพัฒนาตลอด นอกเหนือจากรูปร่างที่ทันสมัย แล้ว ก็ต้องควบคู่มากับนวัตกรรมด้วย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้เหนือกว่าคู่แข่งในตลาด

ทางบริษัทฯ เห็นว่าตลาดเครื่องครัวและบิวตี้กำลังเติบโต และ ขยายได้อีกมาก เพราะปัจจุบันคนจะใส่ใจตัวเองในเรื่องภาพลักษณ์ ทั้งภายนอกและภายใน สินค้าของเราเป็นสิ่งที่อยู่ในชีวิตประจำวันทุกวัน เป็นเครื่องมือให้คุณดูสวย หล่อ และ มีสุขภาพดี โดยอำนวยความสะดวกชีวิตที่เร่งรีบแต่ละวันให้ง่ายขึ้น สำหรับเครื่องครัวเป็น อีกเซ็กเมนต์ใหม่ที่น่าสนใจ ด้วยแบรนด์ที่เราเลือกเป็นแบรนด์ที่เก่าแก่และเป็นที่ยอมรับทั่วโลก ดังนั้น เราจึงเลือกจับลูกค้ากลุ่มพรีเมี่ยม โดยในช่วงปีที่ผ่านมา ทั้ง 2 แบรนด์ถือว่าได้รับการตอบรับจากตลาดได้ดี และในปีนี้เราตั้งเป้าภาพรวม ของRemington และ Russell Hobbs ไว้ที่ 15%"

นางสาวอารดา กล่าวต่อไปอีกว่า "ปัจจุบันช่องทางจำหน่าย แบรนด์เรมิงตัน มีจำหน่ายกว่า 50 แห่ง และแบรนด์รัสเซลล์ ฮอบส์ อีก 15 แห่ง โดยวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ อาทิ กลุ่มเซ็นทรัล เดอะมอลล์ พารากอน เอ็มโพเรียม โรบินสัน และ จุดโปรโมชั่นใน โฮมโปร ฯลฯ

"ส่วนช่องทางใหม่ๆ ที่ทางบริษัทฯขยายเพิ่ม คือ กลุ่ม E-commerce เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคซื้อขายผ่านช่องทางนี้เพิ่มขึ้นมาก นอกจากนี้ ยังมีการขายผ่านรายการ TV shopping ต่างๆ เพราะสามารถกระจายสินค้าได้ครอบคลุมทั่วประเทศมากกว่า การวางจำหน่ายในร้านค้าเท่านั้น การทำแบรนด์ต้องใช้เวลาสร้าง ถ้าเรานำแบรนด์ที่น่าเชื่อถือมาจำหน่าย อีกทั้งเป็นที่รู้จักในระดับสากลแล้ว ก็จะสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคก็ไม่ได้เป็นเรื่องยาก" นางสาวอารดา กล่าวทิ้งท้าย