สถานการณ์ดังกล่าวทำให้บทบาท บตท. ชัดเจนยิ่งขึ้นในการทำหน้าที่ "ระดมเงินจากตลาดทุน" สามารถเป็นเครื่องมือในการระดมทุนเพื่อสนับสนุนกิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise) โครงการที่อยู่อาศัยของภาครัฐ โดยการทำ Securitization หรือ "การแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์" เพื่อระดมเงินให้กับหน่วยงาน หรือองค์กรที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย การพัฒนาที่อยู่อาศัยบนพื้นที่ว่างเปล่าของรัฐ กล่าวคือ บตท. สามารถทำหน้าที่สนับสนุนนโยบายภาครัฐ อาทิ ทำหน้าที่เป็น "นิติบุคคลเฉพาะกิจของรัฐ" หรือ "Public SPV" ในการออกตราสารหนี้ระดมทุนเพื่อลดความซ้ำซ้อนในการจัดตั้ง SPV และลดต้นทุนภาครัฐ รวมทั้งลักษณะกิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise) อาทิ การประกันสินเชื่อที่อยู่อาศัย (Mortgage Guarantee) สินเชื่อสำหรับผู้สูงอายุ (Reverse Mortgage) ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงด้านเครดิตให้สถาบันการเงิน และลดงบประมาณภาครัฐในช่วงการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยด้วย
นางสาวอัญชุลี สิมะเสถียร รองกรรมการผู้จัดการ สายตลาดทุนและบริหารเงิน กล่าวเสริมว่า "บตท. จะออกตราสารหนี้ MBS (Mortgage -Backed Securities หรือ ตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยค้ำประกัน) วงเงินประมาณ 7,000 ล้านบาท ขายนักลงทุนไม่เกิน 5,000 ล้านบาท อายุ 5 ปี ดอกเบี้ย 3.35% ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งได้รับผลตอบรับอย่างดีจากนักลงทุนจองซื้อเกินเป้าหมายมากกว่า 2 เท่าของจำนวนเสนอขาย เนื่องจากมีความเชื่อมั่นใน บตท. ที่เป็นองค์กรรัฐวิสาหกิจ และได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรเป็น AA- ต่อเนื่อง รวมทั้งตราสารหนี้ที่ออกมีผลตอบแทนดี ความเสี่ยงต่ำ และความมั่นคงสูง โดยส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนสถาบัน เช่น สถาบันการเงิน ประกันภัย กองทุนต่างๆ รวมทั้งนักลงทุนรายใหญ่ สำหรับปีหน้านั้น บตท. เตรียมเดินหน้าสนับสนุนภาครัฐเป็นเครื่องมือทางการเงิน ระดมทุนเข้าสู่ระบบการเงินสินเชื่อที่อยู่อาศัย เพื่อสร้างเสถียรภาพในระบบเศรษฐกิจประเทศ"