เอสพีวี หรือ ผู้ออกตราสาร เป็นบริษัทจำกัดที่จัดตั้งขึ้นภายใต้กฎหมายของประเทศไทยและได้รับอนุญาตให้มีสถานะเป็นนิติบุคคลเฉพาะกิจตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) นิติบุคคลเฉพาะกิจเพื่อการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์จากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยเอสพีวีมี ธพส. เป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วน 49% เอสพีวีได้นำเงินที่ได้รับจากการออกหุ้นกู้จำนวนประมาณ 20,430 ล้านบาทและตั๋วสัญญาใช้เงินด้อยสิทธิที่เอสพีวีออกให้แก่ ธพส. จำนวน 19,570 ล้านบาทไปใช้ในการซื้อสิทธิที่จะได้รับค่าเช่าจากกรมธนารักษ์ตามสัญญาเช่าที่กรมธนารักษ์ได้ทำไว้กับ ธพส. จำนวน 3 สัญญา คือ สัญญาเช่าพื้นที่อาคารระยะเวลา 30 ปี สัญญาบริการระยะเวลา 30 ปี และสัญญาบริการจัดหาเฟอร์นิเจอร์ระยะเวลา 5 ปี (เรียกรวมกันว่า "สัญญาอ้างอิง") โดยตั๋วสัญญาใช้เงินด้อยสิทธิดังกล่าวมีสถานะด้อยกว่าหุ้นกู้ที่ไดัรับการจัดอันดับเครดิตและทำหน้าที่ช่วยเสริมอันดับเครดิตให้แก่หุ้นกู้ที่ออกภายใต้โครงการนี้ ธพส. ได้นำรายได้จากโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ไปใช้ในการก่อสร้างศูนย์ราชการที่ถนนแจ้งวัฒนะเพื่อให้กรมธนารักษ์เช่าพื้นที่เป็นระยะเวลา 30 ปีนับตั้งแต่ปี 2551 ในการนี้ กรมธนารักษ์ไม่ได้รับอนุญาตให้ยกเลิกสัญญาเช่าพื้นที่ดังกล่าวตราบใดที่หุ้นกู้ที่ออกภายใต้โครงการนี้หรือหุ้นกู้ใหม่ที่ออกเพื่อทดแทนหุ้นกู้เดิมยังไม่ได้รับการไถ่ถอนเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์ นอกจากนี้ ในกรณีที่กรมธนารักษ์ชำระค่าเช่าล่าช้า ธพส. ยังมีภาระในการให้เงินกู้ยืมแก่เอสพีวีเพื่อเสริมสภาพคล่องด้วย ทั้งนี้ ภาระดังกล่าวเป็นไปตามข้อกำหนดในสัญญาโอนสิทธิเรียกร้องซึ่งกระทำระหว่าง ธพส. กับเอสพีวี
การก่อสร้างศูนย์ราชการแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี 2553 ปัจจุบันมีหน่วยงานราชการจำนวน 42 หน่วยงานเข้าใช้พื้นที่ทั้งหมด 100% งบประมาณสำหรับค่าเช่าและค่าบริการตลอดอายุสัญญาเช่า 30 ปีจำนวน 82,114 ล้านบาทถือเป็นงบผูกพันและจะมีการจัดสรรเป็นรายปีตามที่ระบุไว้ในสัญญาโดยไม่ต้องขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรีอีก แต่จะต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาทุกปี โดยทั่วไป กระบวนการจัดสรรงบประมาณประจำปีจะพิจารณาเสร็จสิ้นภายในเดือนกันยายนของทุกปี อย่างไรก็ตาม หากกระบวนการอนุมัติงบประมาณล่าช้ากว่าปกติ กรมธนารักษ์สามารถเบิกงบประมาณเพื่อนำมาชำระค่าเช่าและค่าบริการโดยอ้างอิงจำนวนเงินจากงบประมาณที่ได้รับในปีก่อนหน้าได้ นอกจากนี้ ธพส. ยังได้ทำสัญญากู้ยืมในวงเงิน 2,300 ล้านบาทกับธนาคารกรุงไทยเผื่อไว้สำหรับกรณีที่มีความล่าช้าในการเบิกจ่ายเงินงบประมาณด้วย สำหรับในปีนี้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติก็ได้พิจารณาเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2559 ไปเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2558 และประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2558 และเอสพีวีได้รับชำระเงินจากกรมธนารักษ์เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2558 แล้ว ดังนั้น ผู้บริหารโครงการจึงสามารถจัดสรรเงินเข้าบัญชีเงินสำรองต่าง ๆ ได้ภายในเวลาที่กำหนด
ภายใต้ธุรกรรมนี้ อันดับเครดิตหุ้นกู้สะท้อนถึงความน่าเชื่อถือของผู้เช่าคือกรมธนารักษ์ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐบาลที่เช่าพื้นที่ศูนย์ราชการแต่เพียงรายเดียว โดยภายใต้ธุรกรรมนี้ กรมธนารักษ์มีภาระผูกพันที่จะต้องชำระค่าเช่าและค่าบริการเป็นรายปีตามที่กำหนดไว้เป็นระยะเวลา 30 ปีโดยไม่คำนึงถึงสภาพของอาคาร ดังนั้น อันดับเครดิตจะถูกปรับลดลงเฉพาะในกรณีที่กรมธนารักษ์ไม่ปฏิบัติตามสัญญาเช่าที่กรมธนารักษ์ได้ทำไว้กับ ธพส. เท่านั้น ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นกับธุรกรรมนี้
บริษัท ดีเอดี เอสพีวี จำกัด (SPV)
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
DAD15NA: ตราสารที่มีโครงสร้างซับซ้อน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 AAA(sf)
DAD20NA: ตราสารที่มีโครงสร้างซับซ้อน 1,800 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 AAA(sf)
DAD20NB: ตราสารที่มีโครงสร้างซับซ้อน 2,200 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 AAA(sf)
DAD25NA: ตราสารที่มีโครงสร้างซับซ้อน 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 AAA(sf)
DAD25NB: ตราสารที่มีโครงสร้างซับซ้อน 6,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 AAA(sf)
DAD25NC: ตราสารที่มีโครงสร้างซับซ้อน 5,499.90 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 AAA(sf)