นักเศรษฐศาสตร์ชี้ เศรษฐกิจไทยปี 59 ยังโตได้ แต่ให้จับตามองเศรษฐกิจจีน

อังคาร ๒๔ พฤศจิกายน ๒๐๑๕ ๑๖:๕๘
เมื่อเร็วๆ นี้ ในงานสัมมนา"กระแสเศรษฐกิจและทิศทางอสังหาฯ ปี 2016"จัดโดย บริษัท คิดเรื่องอยู่ จำกัด รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์และการเมืองกล่าว กล่าวถึง ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2558 ว่า จากสถานการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาจากสภาพัฒน์ ที่แสดงให้เห็นว่า ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา รวมถึงไตรมาส 3 ของปีนี้ที่มีอัตราเติบโต 2.9% ทำให้คาดการณ์ว่า เมื่อถึงสิ้นปีเศรษฐกิจของประเทศน่าจะขยายตัว 2.8-3% ซึ่งดีกว่าปี 2557 ทั้งนี้ การที่เศรษฐกิจของประเทศมีทิศทางที่ดีขึ้น เป็นเพราะได้แรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยวและเงินงบประมาณภาครัฐเป็นตัวขับเคลื่อน แม้ว่าภาคการส่งออกของประเทศที่เป็นหัวใจหลักจะลดลงก็ตาม โดยภาคการส่งออกในปีนี้ สร้างความผิดหวังให้กับภาครัฐและเอกชนเป็นอย่างมาก จากเดิมที่คาดว่าจะบวก 3-4% กลับติดลบ 4.5-5% โดยการส่งออกนี้มีมูลค่า70-80%ของจีดีพีประเทศไทย

ส่วนภาคการท่องเที่ยวที่เป็นตัวช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศมีการเติบโต ในปีนี้คาดว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวจะพุ่งทะลุ 30 ล้านคนอย่างแน่นอน จากเดิมตั้งเป้าไว้ที่ 29 ล้านคน ซึ่งรายได้ท่องเที่ยวโดยปกตินักเศรษฐศาสตร์วิเคราะห์อยู่ที่ 5-7% ของจีดีพี แต่ปีนี้น่าจะเกิน 10% ของจีดีพี นอกจากนี้ปัจจัยเรื่องงบประมาณภาครัฐ ก็เป็นตัวหนุนเช่นกัน เนื่องจากหลังเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม 2557 เมื่อรัฐบาลเข้ามาบริหารงาน ต้องมีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณเก่า ซึ่งขณะนั้นหลายฝ่ายคาดว่าเศรษฐกิจของประเทศจะดีขึ้นอย่างแน่นอน ประกอบกับจะต้องเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2.5 ล้านล้านบาทที่เพิ่งจบไป รวมกับงบประมาณปัจจุบันที่เริ่มใช้เมื่อเดือนตุลาคม 2.7 ล้านล้านบาท เพราะฉะนั้นไม่น่าแปลกใจที่ตัวนี้จะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพราะฉะนั้นตัวเลขภาครัฐเพิ่มขึ้นอีก

รศ.ดร.สมชาย กล่าวต่อว่า ภาพรวมเศรษฐกิจปี 2559 คาดว่าจะเติบโตอยู่ที่ 3-3.5% เงินงบประมาณจากภาครัฐกำลังไหลเข้าสู่ระบบ โดยมาจากงบประมาณปัจจุบัน 2.7 ล้านล้านบาท และงบเบิกจ่ายที่คงค้างยังเบิกไม่หมด หลังจากนั้นเดือนตุลาคมปี 2559 จะมีงบประมาณใหม่เข้ามา ซึ่งงบประมาณส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้ในแผนยุทธศาสตร์คมนาคมระยะ 8 ปี จำนวน 20 โครงการ มูลค่า 1.72 ล้านล้านบาทที่รัฐบาลกำหนดขึ้น เกิดการลงทุนของภาครัฐ และร่วมมือกับเอกชน ดังนั้นเมื่อภาคเอกชนเข้ามาจะเกิดการกระตุ้นทางเศรษฐกิจ ส่วนสถานการณ์ของการส่งออกในปี 2559 คิดว่าน่าจะดีขึ้นกว่าปีนี้ เพราะเศรษฐกิจโลกในปีหน้าจะฟื้นตัว แต่เป็นแบบการฟื้นตัวแบบอ่อนๆ แต่อย่างไรก็ตามการที่เศรษฐกิจจะโตที่ 3-3.5% ได้นั้น มีตัวแปรที่สำคัญคือ สถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศจีนและสถานการณ์การก่อการร้ายทิศทางในปีหน้า ซึ่งจะต้องจับตามองต่อไป

ส่วนภาคอสังหาริมทรัพย์ของประเทศ ในปี 2559 นั้น สถานการณ์อาจยังไม่ค่อยดี โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม ตลาดยัง Oversupply ผู้ประกอบการจะต้องเร่งขายให้หมด แต่ปัจจัยที่ทำให้อสังหาริมทรัพย์มีความน่าตื่นเต้นมาจากเศรษฐกิจที่ดีขึ้น จะทำให้เกิดการลงทุน โดยเฉพาะในส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้า ซึ่งหากมองตามภาพปกติคอนโดมิเนียมจะเป็นที่น่าสนใจ แต่อยากให้มองลึกไปกว่านั้น บางคนที่มีกำลังซื้ออาจมองหาบ้านเดี่ยวแทน คิดว่าจุดนี้จะมีพลังที่ช่วยดึงภาคอสังหาริมทรัพย์ได้ และการลงทุนของภาครัฐตามแผนยุทธศาสตร์ต่างๆ จะเป็นอีกตัวช่วยหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจนี้เติบโต นอกจากนี้ ความต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ภายใต้โลกที่มีการเปลี่ยนแปลง อย่ามองเพียงในประเทศอย่างเดียว ต้องมองภายใต้เออีซี และมองไปที่อาเซียน เพราะขณะนี้ความต้องการของต่างชาติที่เข้ามามีความต้องการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งผู้ประกอบการต้องความสำคัญ และความต้องการตรงนี้ ทำให้อสังหาริมทรัพย์ไทยบุกไปต่างประเทศมาก สังเกตดูลักษณะแบบนี้จะเกิดในกลุ่มประเทศที่รวมกัน โดยระหว่างปี 2556-2557 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย ที่การลงทุนนอกประเทศของไทยสูงกว่าต่างชาติที่มาลงทุน แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการกำลังก้าวเข้าสู่ตลาดที่ไม่ใช่มองแค่ลูกค้าเป้าหมายคนไทยเท่านั้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ