สำหรับผู้บริหารหนุ่ม "คุณณัชพล ตันเจริญ"เริ่มต้นมาจากทางสายการเมือง แต่ระหว่างช่วงที่พักงานจากทางการเมืองได้เลือกที่จะทำธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นจากความชอบในการรับประทานและความหลงใหลในวัฒนธรรมแบบญี่ปุ่น จึงสามารถวางใจได้ว่าอาหารของทางร้านตั้งแต่วัตถุดิบจนถึงบรรยากาศภายในร้านนั้นจะถอดแบบสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ โดยทางร้านเลือกใช้ "ดอกซากุระ"และตัวอักษรคันจิ มาเป็นตัวแทนสัญลักษณ์เพื่อให้สอดคล้องกับคำว่า "ฮารุ" ซึ่งแปลว่า "ฤดูใบไม้ผลิ" สื่อถึงความสดใส และสวยงามของฤดูกาล
ส่วนของอาหาร ยึดถือสโลแกน "กินดื่มครบ จบในที่เดียว" ทำให้เมนูของทางร้านฮารุมีความหลากหลาย และมีให้เลือกถึง 240 เมนู โดยแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักได้แก่อาหารจานร้อนแบบอิซากายะ, ซูชิและซาซิมิ และคอกเทลบาร์ในสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งตอบโจทย์ทั้งการมาสังสรรค์ในกลุ่มเพื่อน และการมารับประทานกันแบบครอบครัว โดยทางร้านจะมีเมนู"3 ซามูไรในตำนาน" ที่ถือว่าเป็นเมนูเด็ดของทางร้าน อันได้แก่ "ข้าวอบหม้อญี่ปุ่นหมูสามชั้น" (ButaKakuniKamameshi) ที่สามารถสนุกกับการรับประทานได้ถึง 3 แบบด้วยกัน คือแบบข้าวอบ, แบบข้าวยำสไตล์ญี่ปุ่นโดยการคลุกเคล้ากับต้นหอม ขิงดอง และสาหร่าย, และปิดท้ายการทานแบบข้าวต้มด้วยการเติมน้ำซุปปลาแห้งลงไป
เมนูที่สองก็คือ "หม้อไฟญี่ปุ่นหมูคุโรบุตะ"(KurobutaNabe) เมนูยอดขายอันดับ 1 ของทางร้านที่ผสมผสานกันระหว่างหมูคุโรบุตะสไลด์เนื้อนุ่มกับน้ำซุปรสชาติกลมกล่อมสูตรญี่ปุ่นดั้งเดิมที่ถือเป็นไม้เด็ดของทางร้าน ซึ่งเมนูนี้ยังเอาใจสาวๆด้วยเลือกเติมคอลลาเจน ลงไปในหม้อซุปได้อีกด้วยและเมนูสุดท้าย"ชุดเสียบไม้ย่างใหญ่"(KushiyakiMoriawase)ปิ้งย่าง5 ไม้ ที่ประกอบด้วย ไก่บดย่างไข่ออนเซ็น (เมนูแม่ไก่ลูกไก่), หมูคุโรบูตะสามชั้นย่าง, ลิ้นวัวย่าง, เบคอนพันไข่นกกระทาย่าง และเห็ดหอมย่าง แล้วราดด้วยซอสสูตรพิเศษของทางร้านที่ใช้เวลาเคี่ยวนานเพื่อให้ได้รสชาติหอมหวานกลมกล่อมก่อนนำไปย่างบนเตาถ่านเพื่อให้ได้ความหอมของถ่านไม้ไผ่
คุณณัชพล ตันเจริญ กล่าวเสริมว่า"เมนู ข้าวอบหม้อญี่ปุ่นหมูสามชั้น นี้เด็ดจริงๆ ครับ ผมขอแนะนำเลย ขั้นตอนการทำต้องนำวัตถุดิบทั้งหมดลงหุงในหม้อหุงข้าวญี่ปุ่นแบบโบราณ และเสิร์ฟทั้งหม้อพร้อมเครื่องเคียง เมื่อเปิดฝาหม้อจะได้กลิ่นหอมของข้าวที่อบกับหมูสามชั้นเนื้อนุ่มละลายในปากหอมกรุ่น / เมนูนี้ลูกค้าสามารถสนุกกับวิธีการทานได้ถึง 3 แบบด้วยกัน (3 in 1) คือ ทานเป็นแบบข้าวอบ หรือคลุกเครื่องเคียง (สาหร่าย,ขิงดอง,ต้นหอม) กับข้าวเพื่อเป็นข้าวยำ, และปิดท้ายด้วยการใส่น้ำซุปเพื่อทำเป็นข้าวต้ม"
ส่วนการตกแต่งร้านได้รับแรงบันดาลใจมาจากการพับกระดาษแบบญี่ปุ่นโบราณหรือ "โอริกามิ (Origami)" ที่นำมาประยุกต์ทั้งในตัวโครงสร้างของอาคาร และการตกแต่งภายในร้าน จึงทำให้มีความน่าสนใจ และดูสะดุดตาเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังมีการนำภาพวาด และตุ๊กตานำเข้ามาจากญี่ปุ่นเพื่อนำมาใช้ในการตกแต่งให้ได้บรรยากาศแบบญี่ปุนในฤดูใบไม้ผลิอีกด้วยและด้วยพื้นที่กว่า 1 ไร่ สามารถรองรับลูกค้าทั้งในส่วนของเอ้าดอร์และอินดอร์ พร้อมด้วยเคาว์เตอร์ซูชิบาร์ และยังมีบริการในห้องรับรองส่วนตัว (VIP Room) พร้อมบริการที่จอดรถสะดวกสบายอีกกว่า 40 คัน
นอกจากนี้ยังมีรายการอาหารและเครื่องดื่มอื่นๆอีกมาก อาทิ สลัดยำปลาแซลมอน (Yum Salmon Salad)ที่ใช้ปลาแซลมอนสดชิ้นพอดีคำ คลุกเคล้ากับน้ำยำแบบไทยๆ รสชาติเปรี้ยวเผ็ดหวาน เป็นอาหารจานกับแกล้มจานแรกที่พลาดไม่ได้สำหรับคอซูชิ-ซาชิมิ, สลัดปลาเงินทอด (Shirauo Salad)สลัดผักสดกรอบ กับปลาเงินทอดในสไตล์เทมปุระ ทางร้านคัดปลาเงินตัวใหญ่มาทอดเพื่อให้ได้รสชาติแบบเต็มคำ กรุบกรอบ ราดด้วยเดรสซิ่งซอสญี่ปุ่นออกรสเปรี้ยว ตัดกับมายองเนสราดด้านบนเพื่อความมันและปลาหมึกแห้งทอดเทมปุระ (Atarime Tempura)ที่ใช้ปลาหมึกแห้งที่นำมาชุบแป้งเทมปุระทอดจนกรอบ เมื่อจิ้มกับซอสโชยุมาโย จะได้รสชาดหอมมันเค็ม ปกติแล้วจะสั่งคู่กับเบียร์สดเย็นๆ ถือเป็นอีกหนึ่งเมนูกับแกล้มที่ลูกค้าชื่นชอบ
"ชุดข้าวปั้นฮารุสเปเชี่ยลเบนโตะ" (Haru Special Aburi Bento)ที่ประกอบด้วยข้าวปั้นลนไฟ (อาบุริ) เจ็ดชิ้นที่คัดสรรวัตถุดิบชั้นยอดมาแล้ว อาทิเช่น โทโร่แซลมอน, เองกาว่า, ปลาฮามาจิ, อูนางิ, โฟวกรา, โฮตาเตะ และ ทามาโกะ นอกจากนี้ยังมีกองทัพเมนูอาหารที่น่าสนใจอีกมากมาย
และปิดท้ายด้วยเครื่องดื่ม มิโดริ กรีน คอกเทล (Midori Green Cocktail), สปาร์คกิ้งสาเก "ซึคิ อูซางิ" (TsukiUsagi Sparking Sake), สาเก "คิคุซุย คาราคูจิ" (KikusuiKarakuchi Sake) และ ฮิบิกิ ซันโตรี วิสกี้ (HIBIKI Suntory Japanese Whisky)
นอกจากนี้ ยังมีโปรโมชั่นแนะนำพิเศษ 299 บาทรับเสียบย่างไม้ชุดใหญ่พร้อมเบียร์สด2 แก้วตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นปี 2558
ร่วมเปิดประสบการณ์ทางรสชาติครั้งใหม่ที่"HARU Bangkok Izakaya& Sushi Bar"บนถนนเลียบทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์ ในซอยโยธินพัฒนา (หลัง Chic Republic) โดยเปิดให้บริการวันจันทร์ – ศุกร์ 11:30 – 14:00 น. และ 17:00 – 23:00 น.วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 11:30 – 23:00 น. สำรองโต๊ะล่วงหน้าได้ที่เบอร์ 02-515- 0058-9 หรือ 098-278-2266 Facebook/Line/Instagram: HaruBangkok