นายศักดิ์ชัย กล่าวต่อไปว่า ได้รับรายงานการปฏิบัติงานจากศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือ เข้า-ออก Port In-Port Out Control Center (PIPO) จ.สมุทรสาคร ว่า ได้มีการตรวจสอบเรือประมงที่จะเข้าออกทะเลอย่างเข้มงวด โดยเรือที่จะได้รับอนุญาตให้เข้าออกได้นั้นต้องผ่านการตรวจสอบในขั้นตอนต่างๆอย่างถูกต้องครบถ้วนทั้ง 13 รายการ ได้แก่ 1.ทะเบียนเรือ 2.ใบอนุญาตใช้เรือ 3.ใบอาชญาบัตร หรือใบอนุญาตให้ใช้เครื่องมือทำการประมง 4.สมุดบันทึกการทำประมง 5.บัตรประชาชนไต๋เรือ 6.บัตรประชาชนนายท้ายเรือ7.บัตรประชาชนช่างเครื่อง 8.ทะเบียนลูกจ้าง 9.บัตรสีชมพู 10.สัญญาจ้าง 11.ใบประกาศนายท้ายเรือ12.ใบประกาศช่างเครื่อง และ13.ระบบติดตามเรือ VMS สำหรับปริมาณและมูลค่าสัตว์น้ำที่นำเข้าผ่านด่านตรวจสัตว์น้ำ จ.สมุทรสาคร ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ต.ค. 58 มีปริมาณสัตว์น้ำ 97,068,630 กิโลกรัม รวมมูลค่า 2,148,842,982 บาท
สำหรับมาตรการที่จะดำเนินการต่อไป คือ การบูรณาการร่วมกับกระทรวงแรงงาน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อผลักดันให้การเข้ามาของแรงงานประมงต่างด้าวเป็นไปอย่างถูกกฎหมาย โดยหากตรวจสอบพบข้อมูลแรงงานประมงที่ไม่ถูกกฎหมายจะต้องเร่งประสานงานระหว่างกันเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา อย่างไรก็ตาม จะไม่มีการผลักดันให้แรงงานประมงต่างด้าวที่ผิดกฎหมายกลับประเทศต้นทาง แต่จะดำเนินการให้แรงงานดังกล่าวมีการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย นอกจากนี้ จะคุมเข้มด้านสุขอนามัยของสินค้าประมง เพื่อให้ได้คุณภาพและมาตรฐาน โดยสุ่มตรวจสินค้าประมงเพื่อดูปริมาณสารตกค้างที่มากับสัตว์น้ำ รวมทั้งติดตามกระบวนการผลิตสินค้าสัตว์น้ำแปรรูปของบริษัทเอกชน โดยตรวจกระบวนการผลิตของโรงงาน รวมทั้งกระบวนการควบคุมตรวจสอบการนำเข้าวัตถุดิบสินค้าสัตว์น้ำให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศคู่ค้าและเพิ่มสัดส่วนทางการตลาดประมงไทยให้เพิ่มขึ้น