นายวิลเลียม ลูอีส สโตน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "แม้ภาวะปัจจุบัน ตลาดหลักทรัพย์ยังมีความผันผวน แต่หุ้น SPRC ก็ได้รับการตอบรับที่ดี โดยเฉพาะจากนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ จะเห็นได้ว่ากลุ่มนักลงทุนที่ให้ความสนใจคือกลุ่มที่เน้นการลงทุนในหุ้นที่มีศักยภาพและพื้นฐานมั่นคง เน้นการลงทุนระยะยาว รวมถึงเป็นนักลงทุนที่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการกลั่นน้ำมันเป็นอย่างดี นอกจากนั้น การที่การเสนอขายหุ้นครั้งนี้ได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุนสถาบันรายใหญ่จากต่างประเทศ เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่านักลงทุนต่างประเทศยังมีความเชื่อมั่นต่อทั้งอุตสาหกรรมการกลั่นน้ำมันและตลาดหุ้นไทยโดยรวม ผมขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ให้ความสนใจในหุ้นของ SPRC"
ทั้งนี้ การเสนอขายหุ้นไอพีโอของ SPRC ครั้งนี้มีมูลค่ารวม 12,958 ล้านบาท หรือ 365 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ประกอบด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุนซึ่งเสนอขายโดย SPRC มูลค่าทั้งสิ้น 1,775 ล้านบาท หรือ 50 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ และหุ้นสามัญเดิมซึ่งเสนอขายโดย บมจ. ปตท. มูลค่าทั้งสิ้น 11,183 ล้านบาท หรือ 315 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ โดยสัดส่วนการจัดสรรหุ้นสำหรับนักลงทุนในประเทศ และนักลงทุนต่างประเทศ แบ่งเป็นประมาณ 70% และประมาณ 30% ตามลำดับ โดยแบ่งเป็นนักลงทุนสถาบัน ประมาณ 70% และ นักลงทุนรายย่อยประมาณ 30% ซึ่งการจัดสรรสัดส่วนหุ้นให้กับนักลงทุนในลักษณะดังกล่าวเป็นการจัดสรรเพื่อมุ่งหวังให้เกิดสภาวะการซื้อขายที่ดี และราคาที่มีเสถียรภาพในตลาดรอง
หลังจากการเสนอขายหุ้นไอพีโอ เชฟรอน เซาท์ เอเชีย โฮลดิ้งส์ ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ SPRC ในสัดส่วน60.5% ส่วน บมจ. ปตท. ยังคงถือหุ้นในสัดส่วน 5.4% โดย เชฟรอน, บมจ. ปตท. และ SPRC จะไม่สามารถนำหุ้นออกมาขายเป็นเวลา 12 เดือนหลังจากหุ้น SPRC เริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์
การจัดสรรหุ้นให้แก่ผู้จองซื้อรายย่อยจะใช้วิธีสุ่มคัดเลือกด้วยระบบของบริษัท เซ็ทเทรด ดอทคอม จำกัด โดยจะประกาศรายชื่อผู้จองซื้อที่ได้รับการจัดสรรที่เว็บไซต์ www.settrade.com ภายในเวลา 12.00 น. ของวันที่ 1ธันวาคม 2558 คาดว่าหุ้นของ SPRC จะทำการซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 8ธันวาคม 2558 นี้ ภายใต้หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค โดยมีชื่อย่อในการซื้อขายว่า "SPRC"