นางสาว วรดา ตั้งสืบกุล รองผู้จัดการใหญ่ สายวาณิชธนกิจ 1 ธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า บริษัท อมตะ วีเอ็น จำกัด (มหาชน) ได้แต่งตั้งให้ บล.ไทยพาณิชย์ จำกัด และ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการร่วมการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน AMATAV ให้กับประชาชนในครั้งแรก โดยมี บล.โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) และบล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการร่วมการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ด้วย โดยได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนในครั้งแรก (IPO) จำนวน 166,370,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท ในราคาหุ้นละ 7.50 บาท ซึ่งถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐาน โดยมีกำหนดเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 30 พ.ย. – 4 ธ.ค. 2558 และคาดว่าจะสามารถเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้ในวันที่ 16 ธ.ค. นี้ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า "AMATAV" เชื่อมั่นว่าหุ้น AMATAV จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนทั้งกลุ่มสถาบันและประชาชนทั่วไป
การกำหนดราคา IPO ที่ 7.50 บาทต่อหุ้น ได้ประเมินจากโอกาสทางธุรกิจของอมตะ วีเอ็น ที่เชื่อมั่นว่าจะสามารถขยายตัวไปได้อีกมาก จากเศรษฐกิจในประเทศเวียดนามที่มีการขยายตัว ซึ่งเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนให้บริษัทมีฐานการเงินที่แข็งแกร่ง ส่งเสริมให้สามารถดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งได้รับการยอมรับมากขึ้นจากพันธมิตรต่างๆ ในฐานะที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการร่วมการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน AMATAV กล่าวว่า ภายหลังจากการนำเสนอข้อมูลกับกลุ่มนักลงทุนสถาบัน ถือว่ากระแสตอบรับเป็นไปในทิศทางที่ดี เนื่องจากอมตะ วีเอ็น ได้ดำเนินธุรกิจอยู่ในประเทศเวียดนามมานานถึง 20 ปี และมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีความสัมพันธ์ที่ดีและลึกซึ้งกับรัฐบาลเวียดนาม ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยส่งเสริมและสนับสนุนธุรกิจให้เป็นไปได้อย่างมั่นคง นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นในเรื่องของทำเลที่ตั้งคืออยู่บน ถนนมอเตอร์เวย์ ซึ่งเปิดดำเนินการแล้ว โดยถนนนี้เชื่อมระหว่างโฮจิมินห์ และสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ รวมทั้งท่าเรือขนส่งสินค้า
นางสมหะทัย พานิชชีวะ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมตะ วีเอ็น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า อมตะ วีเอ็น เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ประเภท Holding Company โดยธุรกิจหลักคือการพัฒนาและประกอบกิจการนิคมและเมืองอุตสาหกรรมรวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ในประเทศเวียดนาม ปัจจุบันมีพื้นที่รวมกว่า 12,000 ไร่ ได้แก่ ในเมืองเบียนหัว และ ในเมืองลองถั่น จ.ดองไน โดยมีเป้าหมายในการระดมทุนครั้งนี้ เพื่อขยายธุรกิจ และพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมระดับพรีเมียมในประเทศเวียดนาม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อสนับสนุนการเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคต
"เชื่อมั่นว่า AMATAV จะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในประเทศเวียดนาม ด้วยประสบการณ์ 20 ปี ที่อมตะได้ดำเนินธุรกิจอยู่ในประเทศเวียดนาม ทำให้มีความเข้าใจเรื่องระบบการทำงานของราชการภายในประเทศเป็นอย่างดี เชื่อว่าตรงนี้เป็นจุดแข็งให้กับอมตะ และรู้ถึงความต้องการของลูกค้า รวมถึงบรรยากาศการลงทุนในเวียดนามในปัจจุบันมีความน่าสนใจ เพราะมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่โดดเด่น เมื่อเทียบกับหลายประเทศในอาเซียน มั่นใจว่าหลังจากการระดมทุนจากตลาดหลักทรัพย์ฯ เรียบร้อยแล้ว จะช่วยส่งเสริมให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคง" นางสมหะทัย กล่าว
สำหรับเมืองอุตสาหกรรมระดับพรีเมี่ยมของอมตะ วีเอ็น ในประเทศเวียดนาม เป็นการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมในเมืองลองถั่น จ.ดองไน มีพื้นที่การพัฒนารวมทั้งสิ้น 8,031.25 ไร่ แบ่งการพัฒนาออกเป็น 3 โครงการ ได้แก่ โครงการอมตะ ซิตี้ ลองถั่น (High Tech) พื้นที่ 2,562.5 ไร่ ซึ่งได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลเวียดนามให้สามารถดำเนินการได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะสามารถเปิดรับนักลงทุนได้ประมาณต้นปี 2560 โดยมีกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย เป็นอุตสาหกรรมที่ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะ ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิต รวมทั้งแรงงานมีความชำนาญ อาทิ อุตสาหกรรมอิเลคทรอนิกส์ ในกลุ่มสินค้าประเภท โทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน หลอดไฟแอลอีดี เป็นต้น นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีแผนการพัฒนาต่อเนื่องเพื่อรองรับการลงทุนอีก 2 โครงการ ซึ่งอยู่ระหว่างรอรับการอนุมัติจากรัฐบาลเวียดนาม ได้แก่ โครงการ อมตะ เซอร์วิส ซิตี้ ลองถั่น (AMATA Service City Long Thanh) พื้นที่ 762.5 ไร่ และโครงการอมตะ ทาวน์ชิพ ลองถั่น (Amata Township Long Thanh) พื้นที่ 4,706.25 ไร่ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการพัฒนาได้ภายในเร็วๆ นี้
นางสมหะทัย กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ในส่วนของนิคมอุตสาหกรรมอมตะ ซิตี้ เบียนหัว ซึ่งถือเป็นนิคมอุตสาหกรรมแห่งแรกของอมตะในประเทศเวียดนาม ปัจจุบันมีนักลงทุนเข้ามาลงทุนแล้วกว่า 80% คาดว่าพื้นที่เหลือจะสามารถขายได้อีกประมาณ 4 ปี โดยตั้งเป้าขายปีละประมาณ 125 ไร่ โดยมีอัตราการเติบโตประมาณ 20% ต่อปี กลุ่มลูกค้าที่สำคัญได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน และยุโรป เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ดำเนินโครงการ Amata Commercial Complex พัฒนาพื้นที่พาณิชยกรรม โครงการที่พักอาศัย และอาคารสำนักงานให้เช่า บนพื้นที่ประมาณ 118 ไร่ รวมถึงธุรกิจเกี่ยวเนื่องทั้งการให้บริการระบบสาธารณูปโภค ซึ่งส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอจากค่าเช่าและบริการทุกปีที่ผ่านมา