นายสามารถ ฉั่วศิริพัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีเอ็นเอ 2002 จำกัด (มหาชน) หรือ DNA เปิดเผยว่าบริษัทได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับ บริษัทพี.บี.แอนด์ เค.เอ็นเตอร์ไพร์ส จำกัด ผู้เชี่ยวชาญงานสื่อโฆษณาเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการร่วมทุนในการดำเนินธุรกิจสื่อประชาสัมพันธ์ภายนอกที่อยู่อาศัย Out of home media ซึ่งถือเป็นการเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ให้กับบริษัทและเป็นการเดินตามแผนทางธุรกิจในการขยายกิจการของ DNA ที่จะก้าวเข้าสู่ธุรกิจ Media ในอนาคตอีกด้วย
"เราสนใจที่จะเข้าไปลงทุนในธุรกิจสื่อโฆษณาเพราะสามารถช่วยต่อยอดจากธุรกิจเดิมที่ DNA ทำอยู่อีกทั้งธุรกิจดังกล่าวยังสอดคล้องและเป็นแผนการขยายกิจการของ DNA ในการรุกเข้าสู่ธุรกิจ Media อยู่แล้วจากการประเมินเบื้องต้นเห็นว่าน่าจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้เนื่องจากสื่อประเภท Out of home เรียกได้ว่าอยู่ในเทรนด์ที่เป็นขาขึ้นเพราะได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการที่ต้องการจะโฆษณาเป็นจำนวนมาก เพราะเป็นสื่อที่ mass สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุดและชัดเจนที่สุดในเวลานี้"
นายสามารถ กล่าวต่อถึงการปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจของ DNAว่าที่ผ่านมาได้ขยายการลงทุนไปสู่ธุรกิจพลังงานทดแทนและทรัพยากรธรรมชาติเพราะเล็งเห็นแล้วว่าเป็นธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอในอนาคต รวมทั้งยังช่วยสร้างความมั่นคงทางด้านฐานะทางการเงินจากการรับรู้รายได้สม่ำเสมอ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีผลประกอบการที่มีเสถียรภาพ ส่วนธุรกิจเดิมโฮมเอนเตอร์เม้นต์ก็มีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่องและยังขยายตัวไปในทิศทางที่ดี หลังจากที่ได้เปลี่ยนรูปแบบร้านค้าเป็นการให้บริการแบบเซอร์วิสดิจิตอลเกือบทั้งหมด ดังนั้นจึงคาดว่าผลประกอบการในปี 2559 จะกลับมาเทิร์นอะราวด์และสร้างผลตอบแทนที่น่าประทับใจให้กับผู้ถือหุ้นได้
ด้านนายกัมปนาท วงศ์หงษ์กุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พี.บี.แอนด์ เค.เอ็นเตอร์ไพร์ส จำกัด เปิดเผยว่ารู้สึกยินดีที่ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ดังกล่าวกับ DNA เพราะนอกจาก DNA จะมีประสบการณ์ทำงานธุรกิจด้านโฮมเอนเตอร์เม้นต์มาเป็นระยะเวลายาวนานแล้วยังมีทีมผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลพร้อมที่จะนำพาองค์กรก้าวไปข้างหน้าได้อย่างยั่งยืนและมั่นคง ขณะเดียวกันยังมีความพร้อมสำหรับการลงทุนในทุกๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นเงินทุนบุคลากร เป็นต้น
ทั้งนี้ "พี.บี.แอนด์ เค.เอ็นเตอร์ไพร์ส"ก็มีประสบการณ์และความชำนาญในธุรกิจสื่อประชาสัมพันธ์ ตั้งแต่การบริหารจัดการพื้นที่สื่อโฆษณา,การออกแบบและผลิตสื่อประชาสัมพันธ์,การจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์รวมไปถึงให้คำปรึกษาและวางกลยุทธ์ในธุรกิจดังกล่าว นอกจากนี้บริษัทยังได้รับสัมปทานระยะยาวจากหน่วยงานภาครัฐเพื่อเป็นผู้บริหารและจัดการสื่อโฆษณาแต่เพียงผู้เดียวและคาดว่าจะสามารถสร้างกำไรไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาทต่อปี ดังนั้นการร่วมมือกันศึกษาความเป็นได้ในธุรกิจดังกล่าวครั้งนี้ย่อมก่อให้เกิดประโยชน์กับทั้งสองบริษัทและสร้างผลตอบแทนที่ดีได้อย่างแน่นอน