นายวิทยา ฉายสุวรรณ ประธานกรรมการกลุ่มบริษัทฯ กล่าวว่า ยูยู ในฐานะผู้นำด้านระบบผลิตประปาเอกชนของประเทศไทยที่มีประสบการณ์มากกว่า 17 ปี พร้อมสนับสนุนรัฐบาลในการรับมือกับปัญหาภัยแล้งที่จะมาถึงในปี 2559 อย่างเต็มที่ โดยนำเสนอระบบผลิตน้ำประปาขนาดเล็กต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อพิจารณาติดตั้งในแหล่งน้ำดิบของชุมชนด้วยเทคโนโลยีเมมเบรน ซึ่งมีต้นทุนไม่สูง ดูแลบำรุงรักษาง่าย น้ำประปาที่ผลิตได้อยู่ในมาตรฐานน้ำประปาดื่มได้
"ในการประชุมวอเตอร์วอร์รูม (Water War Room) ภาคตะวันออกล่าสุด ที่ประชุมมีความเห็นตรงกันว่าเราจะผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ภายใต้การบริหารจัดการน้ำร่วมกันของภาครัฐและเอกชน ทางบริษัทแม่ของ ยูยู คือ อีสท์วอเตอร์ จะดูแลเรื่องการจัดหาแหล่งน้ำเพิ่มเติมและวางโครงข่ายท่อน้ำเชื่อมต่อมากขึ้น ส่วนบริษัท ยูยู จะต่อยอดสู่ระบบผลิตน้ำประปาขนาดเล็กด้วยเทคโนโลยีเมมเบรน เพื่อให้สามารถส่งจ่ายน้ำได้ทั้งระบบน้ำดิบและน้ำประปา ส่งผลให้ผู้ใช้น้ำในภาคอุปโภค บริโภค และภาคอุตสาหกรรมมีน้ำใช้อย่างเพียงพอ ตอบสนองทั้งนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย" นายวิทยา กล่าวย้ำ
ทั้งนี้ระบบผลิตน้ำประปาขนาดเล็กด้วยเทคโนโลยีเมมเบรน เป็นการผลิตน้ำประปาด้วยการกรองที่มีความละเอียด 0.015 ไมครอน สามารถกรอง Total Bacteria ได้ทั้งหมด ควบคุมการทำงานโดยระบบอัตโนมัติ ไม่จำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ สามารถตรวจวัดและควบคุมระยะไกลผ่านระบบ SCADA โดยระบบผลิตจะบรรจุอยู่ในตู้ สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย ใช้พื้นที่น้อย ประหยัดพลังงานไฟฟ้าเนื่องจากมีระบบโซลาร์เซลล์ผลิตไฟฟ้าติดตั้งบนหลังคา ประหยัดงบประมาณและเวลาการก่อสร้าง สามารถเลือกขนาดกำลังการผลิตได้ตั้งแต่ 5 ลบ.ม./ชม สำหรับผู้ใช้น้ำ 500-600 คน ไปจนถึงขนาด 100 ลบ.ม./ชม สำหรับผู้ใช้น้ำ 10,000 -12,000 คน ซึ่งทำให้ผู้ใช้มั่นใจได้ถึงคุณภาพความสะอาดและการมีน้ำใช้อย่างเพียงพอทั่วถึง